ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 212

เฟิงฉิ้นหว่านเปลี่ยนชุดเสร็จมายังหน้าห้องโถง ก็ได้เห็นหวางจื้อหยวนและฉียุ่นเซิงที่ได้นั่งอยู่

“ขอพบลุงฉี ขอพบนายท่านหวาง”

สีหน้าฉียุ่นเซิงได้มีความอบอุ่นเป็นอย่างมาก “แม่นางเฟิงไม่ต้องเคารพกันมาก วันนี้ที่พวกข้าสองคนได้มา ก็อยากจะพูดกับเจ้าเกี่ยวกับสถานการณ์การดำเนินการค้าขาย”

เฟิงฉิ้นหว่านได้เทชาให้ทั้งสองท่านด้วยตัวเอง เพิ่งจะนั่งลงกับพื้นที่ด้านข้าง “เจอปัญหาอะไรหรือไม่?”

พูดถึงอันนี้ หวางจื้อหยวนใช้สายตาอันเชิดชูมองไปยังฉียุ่นเซิง

“แม่นางเฟิงไม่ต้องเป็นห่วง การซื้อขายไม่เพียงแต่ไม่ประสบกับปัญหาอะไร ยังดำเนินการอย่างราบรื่น ครั้งนี้ต้องขอบคุณท่านฉี”

เฟิงฉิ้นหว่านไม่ได้รู้สึกแปลกใจมาก “ท่านฉีเป็นคนข้างกายของท่านชายฟู่ แน่นอนว่าไม่สามารถถือเป็นไม่สลับสำคัญ”

หวางจื้อหยวนพยักหน้าอย่างเชิดชู “ก่อนหน้านี้ที่พวกข้าเริ่มขยายทางการค้า มีหลายจุดที่ไม่ราบรื่น ถึงแม้กระโยคเหล่านี้ฟังแล้วดูไม่น่าพึ่งพาได้ แต่ยังไงก็ต้องพูดอีกประโยค มีหลายที่หลายแห่งที่เป็นสภาพแวดล้อมย่ำแย่จึงทำให้เกิดประชาชนพวกเกรี้ยวกราด พวกข้าได้สั่งคนไปทำการค้าขายที่นั่น ลักษณะท่าทางเป็นมิตร แต่กลับถูกหาว่าใจดีแล้วสามารถรังแกได้ คนเหล่านั้นจึงคิดที่จะทำการแย่งชิง ค่อยยังชั่วที่คนของท่านฉีมีทักษะป้องกันตัว ตีกลับสักไม่กี่ครั้งจนทำให้คนเหล่านั้นเชื่อฟัง การค้าขายนี้จึงสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น”

“สงสัยลุงฉีไม่เพียงแต่เป็นมิตรกับคนทั้งโลก คนภายใต้ท่านก็ยังมีความพร้อมเพรียงทำความเข้าใจ น่าชื่นชมจริงๆ”

ฉียุ่นเซิงรู้สึกดีใจกับคำชื่นชมที่เฟิงฉิ้นหว่านได้กล่าว แต่ปากกลับพูดอย่างถ่อมตน 

“ก็แค่เก็บเด็กไม่กี่คนที่ดูน่าสงสารมาเลี้ยง เพราะข้าก็เป็นบวช ก็ต้องมีความเมตตา ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แม่นางเฟิง ตอนนี้ทางการค้าที่ได้เปิดออกนั้นไม่ได้มากนัก แต่พวกข้าได้ใช้โอกาสที่ตระกูลหยุนเกิดเรื่อง ได้ซื้อแหล่งพวกค้าขายผลิตไหมดิบนั้น มีหลายคนแอบอิจฉาอย่างลับๆ เจ้าฝั่งนี้คิดว่าจะทำอย่างไร?”

“ข้าได้พูดคุยกับอ๋องผิงหวางเรียบร้อยแล้ว เหล่าตระกูลสูงศักดิ์ของตงเหว้ยชอบผลิตภัณฑ์แพรไหมเหล่านี้เป็นอย่างมาก ราคาแพงกว่าพวกข้าฝั่งนี้เป็นอย่างมากเลย” 

“มีเส้นทางหนึ่ง พวกข้าก็สามารถซื้อสินค้าอย่างไว้ใจได้แล้ว” หวางจื้อหยวนรู้สึกดีใจ 

ฉียุ่นเซิงขมวดคิ้ว “แม่นางเฟิง ความสัมพันธ์ของเจ้าและอ๋องผิงหวางดี ตอนนี้ก็รักษาเห้อเหลียนฉางเซิง เขาไม่กล้ายุ่งอะไรมากแน่นอน แต่เจ้าก็ยังต้องระมัดระวังให้ดี เรื่องที่พวกข้าซื้อไหมดิบเป็นจำนวนมากนั้นปิดบังไม่ได้หรอก รวมถึงการที่มีหลายคนไม่พอใจ ที่เขารู้สึกว่าพวกข้าทำการค้าได้เกินไป อยากที่จะรวมหัวกันต่อต้านครั้งหนึ่ง ในระยะเวลาที่สั้นนี้ ไม่มีใครมาเอาสินค้าจากที่พวกข้า ฉะนั้นสำหรับพวกข้าแล้วก็คือได้พึ่งพาทางของอ๋องผิงหวางเป็นพิเศษแล้ว หากว่าเขามีความคิดอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ ยากที่จะหลีกเลี่ยงการโดนจับจุดอ่อนบีบบังให้ยอม”

“ขอบคุณลุงฉีที่เตือน ข้าจะระวังอย่างแน่นอน”

“ได้”

ทั้งสามคนพูดคุยกันอีกสักพัก และได้ทำการจัดเตรียมหลายอย่าง ฉียุ่นเซิงและหวางจื้อหยวนก็ได้จากไปอย่างเร่งรีบ พวกเขารีบจนเท้าเดินยังไม่ถึงพื้นเลย 

เฟิงฉิ้นหว่านได้หน้าห้องโถงคนเดียว คิดทบทวนคำตักเตือนที่ฉียุ่นเซิงได้กล่าวไว้เมื่อกี้อย่างละเอียด 

ถึงแม้นางเชื่อว่าตอนนี้อ๋องผิงหวางไม่มีทางที่จะมีความคิดอื่นใด แต่คำตักเตือนของฉียุ่นเซิงก็มีเหตุผล 

ดำเนินกิจการ ทางที่เดินยิ่งเดินยิ่งแคบ ถึงจะยิ่งทำยิ่งใหญ่ หากว่าเพียงแต่พึ่งพาทางเดียว ไม่เหมาะสมแน่นอน

“เพียงแต่ว่าตอนนี้มีวิธีใดที่จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้?”

สักพักนี้เฟิงฉิ้นหว่านคิดวิธีการแก้ที่ดีไม่ได้ จึงเดินไปเดินมาตรงลานบ้านคนเดียวเพื่อพักใจ

เหว้ยหลันมากราบทูล “คุณหนู นางลี่ในชนบทได้พาหลินชิวหยุนมา บอกว่ามีเรื่องอยากมาขอพบคุณหนู”

“หลินชิวหยุน?” เฟิงฉิ้นหว่านยกมือขึ้นนวดมุมหัว “ก่อนหน้านี้ท่านชายเคยเตือนข้าไว้ ต้องคอยสังเกตนางอย่างเป็นพิเศษ ไม่คิดว่าช่วงนี้ยุ่งเกินไปจนลืมไปแล้ว เรียกพวกเขาเข้ามาเถอะ”

“ทราบ”

ไม่ถึงสักพักนางลี่และหลินชิวหยุนได้เดินเข้ามา

สีหน้าทั้งสองคนดูแย่มาก หรือว่าหมู่บ้านได้เกิดเรื่องอะไรขึ้น?

หลินชิวหยุนกัดริมฝีปากอย่างแน่น สีหน้าที่เย็นชามาโดยตลอดได้มีความเสียใจอันหนักแน่นขึ้น ทำให้นางยิ่งดูน่าสงสาร 

เฟิงฉิ้นหว่านได้มองดวงตาหลินชิวหยุนที่แดงนั้น ค่อยๆกระพริบตา ปิดบังโดนแสงอันเย็นฉ่ำจากในสายตา 

“มีความแค้นความเกลียดชังนั้นมันเรื่องของเจ้า ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า สิ่งที่ข้าถามคือ เรื่องได้ผ่านไปแล้ว จากความเฉลียวฉลาดของเจ้า ไม่ควรถูกนางลี่รับรู้หรอก ทำไมเจ้าถึงออกมาสารภาพละ?”

เรื่องนี้ฟู่ลั่วเฉินก็ยังสืบไม่ได้เลย นางลี่ไม่มีทางที่จะเก่งกว่าฟู่ลั่วเฉิน อีกอย่างหลินชิวหยุนในตอนนี้ ไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกเหมือนการถูกจับได้เพราะกระทำผิด แต่กลับเป็นกลิ่นที่ยอมแพ้โชคชะตา เป็นไปได้อย่างมากที่นางอยากออกมาสารภาพเรื่องนี้จริงๆ

สายตาหลินชิวหยุนสั่นสะเทือน “คุณหนู……”

คุณหนูรู้ได้อย่างไร?

“อย่าโกหก ข้าไม่ชอบโดนคนหลอกลวง”

น้ำเสียงเฟิงฉิ้นหว่านเงียบสงบเป็นพิเศษ แต่ดันทำให้หลินชิวหยุนรู้สึกความเย็นฉ่ำอันไร้ขอบเขต 

นางลี่ได้มีสีหน้าอันตกตะลึง “หลินชิวหยุน เจ้าตั้งใจที่จะเผยแพร่มันออกมา ให้ข้ารู้สึกว่าเจ้านั้นไม่เหมาะสม?”

หลินชิวหยุนก้มหน้าลงไม่กล้าพูด 

นางลี่โกรธจนกัดฟัน “หลินชิวหยุน เจ้าอย่าลืมสิ เจ้าเป็นนางบำเรอนะ! ท่านพ่อเจ้าถูกจับเพราะได้ทำการทุจริตรับสินบนเกือบหนึ่งแสนตำลึงหากไม่ใช่ว่าใต้เท้าจ้าวกับท่านพ่อเจ้ามีความเป็นมิตร รวมถึงความใจดีของท่านฉิน รับเจ้ามาอยู่หอหญิงงามเมือง เพียงเจ้าที่เป็นคุณหนูของตระกูลราชการ ก็คงไปอยู่จุดๆที่เป็นการนอนกับผู้ชายเป็นหมื่นคนแล้วแหละ!”

ทุกคนในหอหญิงงามเมืองต่างก็ปฏิบัติดีต่อเจ้า วันนี้ไม่ขอเจ้าขอบพระคุณ ขอเพียงเจ้าแค่พูดความจริง เจ้าอย่าไม่รู้ผิดชอบชั่วดี จนทำลายความสัมพันธ์ของพวกข้า!”

หลินชิวหยุนใส่หน้าอย่างแรง “ท่านพ่อข้าไม่ได้ทำการทุจริตรับสินบน ทั้งหมดทั้งมวลเป็นตระกูลหยุนที่ใส่ร้าย! ปีนั้นที่ตระกูลหยุนได้ถวายชุดกระโปรงนกยุงสีรุ้งให้กับพระราชินี ที่จริงแล้วไม่ใช่ฝีมือของพวกเขา! แต่เป็นการแย่งชิงมาจากข้าตระกูลหลิน!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ