สายตาเฟิงฉิ้นหว่านตกตะลึงทีหนึ่ง สายตาอันแหลมคมตกอยู่บนตัวหลินชิวหยุน “ตอนแรกชุดกระโปรงนกยุงสีรุ้งนั้นได้ถวายแก่พระราชินี จากนั้น ฝ่าบาทดีใจมาก จึงได้มอบชื่อแก่ราชวงศ์การค้าให้กับตระกูลหยุน วันนี้เจ้าบอกว่าชุดกระโปรงนกยุงสีรุ้งเป็นของปลอม ก็แสดงว่าตระกูลหยุนกระทำการได้หลอกลวง เจ้าเข้าใจหรือเปล่าในระหว่างความสัมพันธ์นี้ได้เกิดความเสียหายอะไรขึ้น?”
“พ่อข้าเป็นผู้เล่าเรียนที่ยากจน ก่อนจะสอบเป็นลาภยศ ได้หมั้นกับท่านแม่ของข้าก็คือลูกสาวของอาจารย์ผู้มีพระคุณ จากนั้นท่านพ่อได้สอบลาภยศ ถูกปล่อยที่เมืองซูให้เป็นราชการ โดนตระกูลหยุนในตอนนั้นชอบใจ อยากให้ลูกสาวของตระกูลหยุนมาเป็นภรรยาของท่านพ่อของข้า ท่านพ่อข้าปฏิเสธ เพื่อที่จะตัดขาดความอยากของตระกูลหยุน จึงได้รับท่านแม่ของข้ามา ทั้งสองคนจึงรีบแต่งงานกัน แต่ว่าตระกูลหยุนยังคงไม่ยอมคิดทุกวิธีทางเพื่อที่จะส่งหญิงสาวมาเป็นเมียน้อยของท่านพ่อข้า”
“เมียน้อยผู้นั้นทีแรกปฏิบัติตัวได้อย่างดี สองสามปีก็ประพฤติตัวอย่างเรียบร้อยไม่ออกนอกลู่นอกทาง ค่อยๆท่านพ่อท่านแม่ของข้าก็ปล่อยใจการระมัดระวัง ท่านแม่ของข้ามาจากก้วยซวาน นางไม่มีความสามารถใดๆ มีเพียงแต่ฝีมือปักเย็บที่สวยสง่างาม ผลงานของนาง สามารถพูดได้เลยว่าเป็นของชั้นสูง ปักเป็นภาพสวนฤดูใบไม้ผลิอันเซี่ยง เย็บได้เป็นกิ่งหลิวที่อยู่ด้านล่างนกกระจิบสีเหลือง ท่านพ่อได้กระทำผิดต่อตระกูลหยุนทำอะไรก็โดนกลั่นแกล้ง ท่านแม่เห็นแล้วก็รู้สึกกระวนกระวายใจ นางใช้ชุดกระโปรงนกยุงสีรุ้งที่ทำมานานสามปีนั้น เพื่อที่จะนำชุดกระโปรงนกยุงสีรุ้งมาแก้อุปสรรคอนาคตราชการให้กับท่านพ่อของข้า แต่สิ่งที่คาดไม่ถึง ตระกูลหยุนได้คิดแผนการชั่วร้ายต่อชุดกระโปรงนกยุงสีรุ้งก่อนหน้านี้แล้ว วันที่เสื้อได้ทำเสร็จ ก็คือช่วงเวลาหายนะของพวกข้าตระกูลหลิน”
“เมียน้อยที่ตระกูลหยุนได้ส่งมานั้นทำการร่วมมือกับทั้งด้านในและด้านนอก ได้ซ่อนตั๋วเงินจำนวนมากไว้ในวัง ตั้งใจใส่ร้ายท่านพ่อของข้าว่าทำการทุจริตรับสินบน ท่านพ่อถูกจับไปขังไว้ในคุก ท่านแม่ที่กำลังร้อนใจหัวใจก็วายทันที ได้ยินข่าวว่าท่านพ่อของข้ากลัวที่จะทำผิดบาปจึงได้ฆ่าตัวตายไป ท่านแม่ก็ได้เสียชีวิตไปด้วย……เหลือเพียงแค่ข้า……”
สีหน้าหลินชิวหยุนเต็มไปด้วยความเกลียดชัง คุกเข่าลงพื้นร้องไห้สั่นอย่างไม่หยุด
เฟิงฉิ้นหว่านขมวดคิ้ว “เจ้ามีเรื่องแค้นกับตระกูลหยุน ก็นำตระกูลหยุนมาจัดการข้า? ในเมื่อเป็นแบบนี้ ข้ากับเจ้าก็เป็นคู่แค้นกัน? ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมเจ้าจึงจะมาฆ่าข้า?”
หลินชิวหยุนรีบเงยหน้าขึ้นมา เอ่ยพร้อมกับใส่หัว “คุณหนู ข้าไม่คิดจะฆ่าเจ้าเลย เพียงแค่รู้สึกว่ามีความสามารถคุณหนูไม่ธรรมดา ตระกูลหยุนไม่เป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าแน่นอน จึงได้……”
“เหอะ ใช่สิ ข้ามีความสามารถกดขี่ตระกูลหยุนก็ดีสิ หากว่าข้าไม่มีความสามารถ กลับถูกตระกูลหยุนฆ่าตาย ก็จะมีท่านชายฟู่ฝั่งเมืองหลวงนั้นมาช่วยข้าแก้แค้นตระกูลหยุน ไม่ว่าจะเป็นผลอย่างไรในตอนสุดท้าย สิ่งที่เจ้าพูดนั้นล้วนเป็นประโยชน์ต่อเจ้า เจ้าจึงได้ทำแบบนี้อย่างไร้จิตสำนึก?”
“ไม่! คุณหนู ข้าผิดหวังไปแล้ว ตอนที่ได้ยินว่าคุณหนูเกือบที่จะตายตรงหอหญิงงามเมือง ข้าก็รู้สึกผิดไปแล้ว ข้าเองที่เห็นแก่ตัว ข้าเองที่เกือบฆ่าคุณหนูตาย ฉะนั้น วันนี้ก็ลงโทษตามที่คุณหนูต้องการเลย ข้าจะไม่โต้กลับสักคำ”
หลินชิวหยุนพูดด้วย พร้อมกับคำนับหัวลงกับพื้นสามทีอย่างหนักต่อเฟิงฉิ้นหว่าน จากนั้นคุกเข่าอยู่กับพื้น รอการลงโทษจากเฟิงฉิ้นหว่าน นางรู้สึกผิดไปแล้วจริงๆ รับความกังวลในใจไม่ได้ จึงได้ออกมาสารภาพเอง
นางลี่มองหลินชิวหยุนทีหนึ่งด้วยความโกรธ สายตาได้มีความเจ็บปวดที่ไม่สามารถปิดบังได้ นางจับหลินชิวหยุนขึ้นมา จากนั้นยกมือขึ้นตบไปยังหน้าหลินชิวหยุนอย่างแรงทีหนึ่ง
“หลินชิวหยุน ข้าว่าเจ้าหน้ามืดตามัวไปแล้ว! ในใจเจ้ามีความผิดที่ถูกใส่ร้ายอย่างไม่เป็นธรรม เจ้าสามารถบอกคุณหนู บอกท่านฉิน พวกเขาไม่สามารถช่วยเจ้าได้หรือ? ทำไมถึงได้กระทำการเห็นแก่ตัวแบบนี้? หากเจ้าฆ่าคุณหนูตาย เจ้ามีแปดชีวิตมาแลกก็ไม่พอหรอก”
สายตาหลินชิวหยุนว่างเปล่า ที่ผ่านมาในดวงตาเหมือนได้อมน้ำแห่งฤดูใบไม้ร่วงไว้ ตอนนี้สีสันในดวงตากลับสลายไป
“นางลี่ ข้าเองที่ทำผิดต่อคุณหนู ข้ารู้ว่าคุณหนูดีต่อข้า ดีต่อแม่นางทุกคนในหอหญิงงามเมือง แต่ข้าไม่มีวิธีอื่นใดจริงๆ ข้าไม่กล้าไปพนัน ข้าได้เข้าหอหญิงงามเมืองตอนอายุสิบสอง ปีนี้อายุยี่สิบปีแล้ว ข้ารอมาแปดปี ตลอดแปดปีนี้ข้าคิดอยู่ตลอดว่าอยากไปแก้ไขตระกูลหยุน เมื่อรู้ว่าโอกาสก็วางอยู่ตรงหน้า ข้าไม่กล้าไปพนันจริงๆ”
ดวงตานางลี่ได้แดงขึ้น ยกมืออีกครั้งตบไปที่หน้า
“เจ้าจะมีเหตุผลอีกเยอะแค่ไหน ก็ไม่สามารถแทนข้ออ้างที่เจ้าหักหลังคุณหนูได้! วันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตายเอง แล้วค่อยมาขออภัยจากคุณหนูทีหลัง”
เฟิงฉิ้นหว่านนำถ้วยชาในมือวางลงสู่โต๊ะเล็กอย่างแรง
ได้ยินหลินชิวหยุนพูดถึงชุดกระโปรงนกยุงสีรุ้งเป็นตระกูลหยุนแย่งชิงมา ความทรงจำในหัวสมองของเฟิงฉิ้นหว่านกลิ้งไปมา นางนึกออกแล้วว่าตัวเองได้ยินหลินชิวหยุนผู้นี้จากตอนไหนแล้ว
ชาติก่อนที่จวนเฉิงเสี้ยง ซูฮั่นจางถูกใจองค์ชายสาม อยากให้ลูกสาวของเขาซูหยูบุตรีเอกแต่งงานกับองค์ชายสามเพื่อให้เป็นภรรยา องค์ชายสามตั้งใจที่จะตีสนิท รวมถึงซูหยูที่มีชื่อเสียงคือหญิงสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง มองจากคนภายนอก ทั้งสองคนต้องเข้ากันแน่นอน
แต่ว่ามีวันหนึ่ง ซูหยูได้เกิดอารมณ์หงุดหงิดอย่างรุนแรงขึ้นมา ยังตั้งใจให้นางมาเทชา จากนั้นนำชาร้อนราดบนตัวนางเพื่อคลายความโกรธ ถัดมายิ่งเพราะคำว่า “โกรธ” จึงได้มีอาการป่วยหนัก เจาะเลือดบนตัวนางติดต่อมาสองวันเพื่อต้มยารักษา
ถัดมานางได้ยินหญิงรับใช้ของนางลือกัน เพิ่งรู้ว่าที่จริงแล้วองค์ชายสามได้พาหญิงสาวงามกลับมาจากเจียงหนาน ยังรับมาเป็นเมียน้อย เมียน้อยผู้นั้นชื่อหลินชิวหยุน
ถัดมาอีกครั้งในงานวันฉลองครบรอบปี เพื่อที่พระราชินีเกาท่านแม่ของพระองค์ชายสองจะได้รับความรักหลงจากฝ่าบาท ได้เต้นแนวชุดกระโปรงสีรุ้งเพลงของตอนปีพระราชินีเฟิง ชุดที่ใส่คือชุดกระโปรงนกยุงสีรุ้งที่ตระกูลหยุนได้ถวายให้
แต่คิดไม่ถึงเลย การเต้นนี้ได้เกิดอุบัติเหตุ ไม่เพียงแต่ไม่ได้ร้บความหลงรักจากฝ่าบาท แถมยังถูกยึดตำแหน่งพระราชินี ขนาดพระองค์ชายสองขอร้องยังโดนด่ากลับ จากนี้ไปจากเดิมพระราชินีเกาที่ถูกหลงรักกลายเป็นผู้ที่ล้มแล้วไม่กล้าลุกขึ้น ทำให้องค์ชายสามได้รับผลประโยชน์ขึ้นมาเลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้นำเรื่องพวกนี้เชื่อมโยงกัน แต่วันนี้มองดูแล้ว การที่พระราชินีเกาเกิดอุบัติเหตุ ไม่แน่อาจเป็นหลินชิวหยุนแอบทำร้ายลับหลังแค่ไม่รู้ว่าหลินชิวหยุนติดต่อกัองค์ชายสามได้อย่างไรกันแน่ ยังถูกพาไปให้กลายเป็นเมียน้อย
หลินชิวหยุนเงยหน้ามองเฟิงฉิ้นหว่าน “คุณหนู ข้าไม่กล้าปิดบังสักเรื่องต่อคุณหนู ขอคุณหนูแสดงออกมาให้ทราบ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ