ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 29

ฉินฮั๋วเหนียนยังคงงุนงงเล็กน้อย: "คุณหนู ข้ายังคงไม่เข้าใจ ตระกูลเฟิงมีร้านค้ามากมายอยู่แล้ว คุณหนูยังซื้อไว้มากเช่นนี้คิดจะทำอะไรหรือ"

“สถานการณ์ตอนนี้วุ่นวายเกินไป เงินจ่ายออกไปก็เป็นของตัวเอง เก็บไว้ในมือ ไม่รู้ว่าต่อไปจะถูกคนอื่นหลอกไปหรือไม่ อย่างไรก็ตามร้านค้าเหล่านั้นทำเลก็ดี ที่แม้ในอนาคตจะไม่ได้ใช้งาน แต่ปล่อยเช่าออกไปก็ดี”

ดวงตาของ เฟิงฉิ้นหว่านกะพริบเล็กน้อย

ในตอนนี้ร้านค้าเหล่านั้นไม่สะดุดตาจริงๆ แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือน จู่ๆราชวงศ์ก็ประกาศว่าจะทำการค้ากับประเทศตงเหว้ย มีท่าเรือการค้าสี่แห่ง และหนึ่งในนั้นอยู่ในหลินผิง

เมื่อมองดูร้านธรรมดาๆ ในตอนนี้ จู่ๆ ก็กลายเป็นแหล่งรวมเงินทองหลังจากเปิดการค้าแล้ว แม้ว่าจะปล่อยเช่าออกไปเฉยๆ ก็เพียงพอแล้วที่จะหาเงินปัจจุบันกลับมาได้หลายเท่า

นางยังมีความรู้ไม่พอทางด้านการค้าขาย ยังต้องลงทุนศึกษาให้หนัก ตอนนี้ทำได้เพียงอาศัยประโยชน์จากชาติที่แล้ว พยายามสะสมทรัพย์สมบัติให้มากที่สุดอย่างมั่นคงที่สุด

มีเงินทองแล้ว นางถึงจะไปวางแผนได้มากขึ้น เพื่อจัดการกับวิญญาณชั่วร้ายของ จวนเฉิงเสี้ยง ที่จะมาในอนาคต

ฉินฮั๋วเหนียนพยักหน้า: “คุณหนูพูดถูก งั้นข้าจะซื้อร้านให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เมื่อคุณหนูมีชายที่ต้องใจในอนาคต สิ่งเหล่านี้สามารถใช้เป็นสินสอดทองหมั้นของท่านได้ เอาไปด้วยต้องมีเกียรติอย่างมากแน่ "

เฟิงฉิ้นหว่านสีหน้าชะงัก จากนั้นก็หัวเราะ: "จะจะไว้ทุกข์ให้ท่านพ่อสามปี ท่านอาฉินคิดพวกนี้ ก็เร็วเกินไปเสียจริง"

“ความผิดข้า พูดอะไรก็ไม่คิดวิเคราะห์ นายท่านอยู่บนฟ้าขออย่าถือโทษเลย” ฉินฮั๋วเหนียนคำนับอย่างเร่งรีบ

เฟิงฉิ้นหว่านอยู่จนถึงเย็นตามปกติ เตรียมตัวจะลุกจากไป

หยุนชียืนอยู่ตรงหน้าประตู สายตามองมาอย่างตั้งใน

“มีเรื่องอะไร?”

หยุนชีรีบเดินเข้ามา: “นายท่านไปๆมาๆคนเดียวไม่ปลอดภัย ข้าน้อยอยากรับส่งนายท่านกลับจวน

“ท่านอาฉินจัดเตรียมคนไว้แล้ว” เฟิงฉิ้นหว่านพูดจบก็เดินออกไป ท่าทางค่อนข้างเฉยเมย

“นายท่าน……”

“ยังมีเรื่องอะไร?”

“แม่นมคนก่อนของนายท่าน แม่นมฉีแพร่ข่าวลือมากมาย มีคนเห็นนางออกจากเมืองไปทางทิศตะวันออก ไม่ก็ไปจับนางกลับมาไหม”

เฟิงฉิ้นหว่านหันกลับมา มองด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ กวาดมองหยุนชีขึ้นลง ไปหนึ่งรอบ: "แม่นมฉีจากไปหนึ่งวันแล้ว และรู้เพียงว่าทางทิศตะวันออก แต่ไม่รู้ว่านางไปไหนกันแน่ เจ้าสามารถจับนางกลับมาได้หรือ”

“ข้าไม่กล้าบอกว่ารับประกันเต็มสิบ แต่เพียงแค่นายท่านสั่ง แม้จะต้องเสี่ยงชีวิต ข้าก็จะพานางมาหน้านายท่าน ให้ท่านจัดการ” หยุนชีคุกเข่าบนพื้น เหงนมองเฟิงฉิ้นหว่าน ดวงตาเต็มด้วยความคาดหวังอย่างระมัดระวัง

แสงวาบผ่านในดวงตาของ เฟิงฉิ้นหว่าน นางเอนตัวไปเล็กน้อย มองตรงเข้าไปในดวงตาสีเข้มของ หยุนชี: "ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน เจ้ามองข้าด้วยสายตาแปลก ๆ เจ้ารู้จักข้ามาก่อนใช่หรือไม่? "

หยุนชีแข็งทื่อไปทั้งตัว: “นายท่านยังจำเจ้ายาจกคนหนึ่งที่ท่านคอยคุ้มกันได้ไหม?”

หยุนชีทั้งกายแข็งทื่อ ไม่กล้าจะขยับ: "นายท่านยังจำเจ้ายาจกที่ท่านปกป้องไว้เมื่อหกปีก่อนได้หรือไม่"

“หกปีก่อน?” เฟิงฉิ้นหว่านจำไม่ได้แล้ว

“ใช่ หกปีก่อน นายท่านเล่นที่ถนนหนานฮั๋วถูกข้าชนโดยไม่ตั้งใจ นายท่านไม่โกรธ กลับเอาแป้งกรอบในมือให้ข้า ต่อมายาจกหลานคนเห็นข้าผอมแห้ง จะมาแย่งของกินข้า เป็นนายท่านวิ่งเข้ามาช่วยบังไม้นั้นให้ข้า ยาจกพวกนั้นเห็นว่าทำร้ายโดนนายท่าน กลัวจะสร้างปัญหา ก็หนีไปแล้ว ตอนนั้นข้าถูกตีทั้งตัวเป็นเลือด นายท่านยังให้ข้าง้วนป้อเงินหนึ่งอัน……”

เฟิงฉิ้นหว่านก้มต่ำลง: “ข้าจำได้แล้ว เพราะงั้นเจ้ามาตอบแทนบุญคุณหรือ?”

“ใช่ ตอนนั้นหากไม่มีนายท่านบังไม้นั้นให้ข้า ข้าคงตายไปแล้ว ถึงแม้ง้วนป้อเงินที่นายท่านให้ข้า แม้ไม่สามารถช่วยชีวิตแม่ข้าได้ แต่กลับให้นางมีชีวิตอยู่ต่ออีกครึ่งปี ในใจข้าค่อยขอบคุณเสมอ ตอนนี้ถึงแม้นายท่านจะเอาชีวิตข้า ข้าก็ให้อย่างเต็มใจ”

เฟิงฉิ้นหว่านยกมุมริมฝีปากเบา ๆ สายตาเต็มไปด้วยด้วยความสุข: "ข้าสามารถช่วยเจ้าได้ ในใจข้าก็ดีใจ เจ้าต้องมีชีวิตต่อไปดีๆ อย่าเอะอะก็พูดอะไรตายไม่ตาย"

นางยังคงจำไม่ได้ แต่รู้ว่าควรตอบกลับอย่างไร ถึงจะให้หยุนชีมีใจภักดีมากขึ้น

เขาต้องการพิสูจน์ว่าเขามีประโยชน์ต่อนายท่าน

“ดี ต้องการเงินเท่าไหร่ เจ้าไปเอากับท่านอาฉิน ข้าขอเจ้าไม่ทิ้งร่องรอย เอาคนเหล่านี้ไว้ได้อย่างดี รอเมื่อถึงเวลามีประโยชน์แล้ว เพียงข้าพูดคำเดียว พวกเขาก็จะทำการทันที”

“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”

เฟิงฉิ้นหว่านยิ้มอย่างชื่นชม: "หยุนชี เจ้าวางใจ เขาไม่มีวันเอาชีวิตของเจ้ากับคนพวกนี้มาล้อเล่น มากสุดก็สืบถาม ถามเกี่ยวกับราคาในที่ต่างๆ และข่าวที่แพร่กระจายออกไป ดังนั้นเจ้าไม่ต้องรีบร้อนมากเกินไป นิ่งๆมั่นใจ เข้าใจหรือไม่ค่อยๆสำคัญที่สุดคือ ปกป้องตัวเจ้าเองให้ดี”

หยุนชีรู้สึกว่าหัวใจเต็มไปด้วยความอบอุ่น เขาตามหานายท่านมาหลายปี ในที่สุดก็พบ แล้วยังคิดเพื่อเขาเช่นนี้ ราวกับว่ากำลังฝัน: "ขอรับ"

มองไปที่สายตาที่แน่วแน่ของหยุนชี เฟิงฉิ้นหว่านยิ้มด้วยความพึงพอใจ: "อืม"

ออกจากหอหญิงงามเมือง เฟิงฉิ้นหว่านก็ขึ้นรถม้า รอยยิ้มอบอุ่นในที่แรกหายไปทีละนิด

หยุนชี นี่นับว่าเป็นเรื่องดีที่ไม่คาดคิดจริง!แต่ว่าอย่าให้ตัวเองผิดหวังถึงจะดี

ในตอนเย็นของวันที่สอง รถม้าคันหนึ่งวิ่งเข้าประตูเมืองไปอย่างเร่งรีบ รถม้าวิ่งเร็วมาก จนผู้คนเกือบถูกชนระหว่างทาง ทำให้โดนด่าทอขึ้นทันที

“วิ่งเร็นเช่นนี้รีบไปเกิดใหม่หรือไง เกือบจะชนโดนเด็กอยู่แล้ว?”

“ไม่เจอคนขับรถม้าเร็วเช่นนี้ในเมืองมานานแล้ว!”

“ก็ใช่ นี่มันคนเช่นไรกัน?”

“พวกเจ้าได้กลิ่นหรือไม่?บนรถม้าคันนั้นไม่รู้ใส่อะไรไว้ ถึงได้กลิ่นเหม็นชวนอ้วกเช่นนี้?”

“ข้าก็ได้กลิ่นแล้ว……”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ