ในศาลาพักม้า หลี่หยวนตื่นแต่เช้า เมื่อได้ยินรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาก็อารมณ์ดีไม่น้อย
“ใต้เท้า ในคุกที่ว่าการอำเภอวุ่นวายทั้งคืน เกาหนานคนนั้นมักจะบอกว่าตนทรมาน ทั้งยังได้รับพิษ แต่หมอสองคนที่ไป ไม่ว่าจะตรวจชีพจรอย่างไร ชีพจรก็ยังเหมือนเดิม”
หลี่หยวนจิบชาอย่างอารมณ์ดี “เข้าใจแล้ว อีกเดี๋ยวถ้าเฟิงฉิ้นหว่านมา ก็ให้นางมาหาข้า”
“ขอรับ”
ไม่นาน เฟิงฉิ้นหว่านก็มาตรงหน้าหลี่หยวน “ฉิ้นหว่านคารวะใต้เท้า”
หลี่หยวนมองไปที่เฟิงฉิ้นหว่าน ท่าทางดูใกล้ชิดกว่าเมื่อวานนี้หลายส่วน “แม่นางเฟิงรีบลุกขึ้นเถอะ ดูวันนี้เจ้าหน้าซีดๆ นะ เมื่อวานไม่ได้พักผ่อนเลยหรือ?”
เฟิงฉิ้นหว่านเหลือบตามอง ขอบตายังแดงไม่หาย “เมื่อวานข้านอนไม่หลับ ดังนั้นเลยคัดคัมภีร์ให้บิดาข้า”
ภายใต้การแต่งเติมใบหน้าที่พิถีพิถัน อยากจะวาดสิ่งใดลงไปก็ได้ตามที่เราต้องการ
“ฉิ้นหว่านช่างเป็นคนกตัญญูจริงๆ พระพุทธองค์ต้องเข้าใจ และคุ้มครองเจ้าแน่นอน” ใจของหลี่หยวนสั่นไหวเล็กน้อย แม้ว่าเฟิงฉิ้นหว่านจะสังหารคนอย่างเหี้ยมโหด แต่อย่างไรก็เป็นแค่สตรี หลีกเลี่ยงความกลัวไม่ได้ เมื่อคืนนางคงนอนพลิกตัวไปมา ยากจะข่มตาเป็นแน่
“ขอบคุณที่ใต้เท้าเข้าใจ” เมื่อได้ยินหลี่หยวนกล่าวเช่นนั้น สีหน้าของเฟิงฉิ้นหว่านก็ดีขึ้นมาไม่น้อย
“ข้าเตรียมตั๋วเงินให้เจ้าแล้ว เจ้าอารมณ์ดีเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เรื่องของตระกูลเกาไม่ต้องห่วง งานต่อไปต่างหากคือฉากสำคัญ”
สีหน้าของเฟิงฉิ้นหว่านดูแน่วแน่ยิ่งขึ้น “ใต้เท้าโปรดวางใจได้เลย ละครฉากต่อไปนี้ ข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถ ทำให้มันเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุด”
“เรื่องที่เจ้าทำข้าย่อมวางใจ” หลี่หยวนหมุนตัวไปหยิบกล่อง “ตั๋วเงินอยู่ในนี้ เจ้าเก็บมันไว้ให้ดี”
เฟิงฉิ้นหว่านหยิบสัญญาที่ตนเขียนไว้ล่วงหน้าออกมา “เมื่อวานใต้เท้าบอกว่า ชื่อของท่านจะมาประทับลงบนสัญญานี้ไม่ได้ ดังนั้นข้าจึงเว้นว่างไว้ ไม่ทราบว่าใต้เท้าอยากให้ข้าเขียนชื่อของใครลงไป เมื่อเติมชื่อครบแล้ว สัญญาก็จะเสร็จสมบูรณ์”
“เจ้าเขียนหลี่เซิ่งแล้วกัน”
“หลี่เซิ่ง? เซิ่งก็คือตัวเซิ่งใช่หรือไม่?”
“ใช่”
เฟิงฉิ้นหว่านไม่ได้ถามอะไรมาก ลุกขึ้นมองไปที่โต๊ะด้านข้าง “ข้าขอยืมใช้หมึกและพู่กดกันของใต้เท้าด้วย”
“แม่นางเฟิงใช้ตามสบายเลย”
เฟิงฉิ้นหว่านเดินไปที่หลังโต๊ะ ฝนหมึกเบาๆ และจากนั้นก็เขียนคำว่าหลี่เซิ่งลงไป
หลี่หยวนและหลี่เซิ่งเป็นพี่น้องกัน
หลี่หยวนชำนาญด้านการเรียน จึงเลือกเดินบนเส้นทางสอบขุนนาง สุดท้ายก็พึ่งพิงต้นไม้ใหญ่อย่างองค์ชายสาม
ส่วนหลี่เซิ่งเป็นน้องชายแท้ๆ ของหลี่หยวน ไม่ชอบเรียนหนังสือ แต่ชอบทำธุรกิจ คอยให้ความร่วมมืออย่างลับๆ และเป็นตะกร้าเงินในมือขององค์ชายสาม
และเหตุผลที่องค์ชายสามให้ความสำคัญกับหลี่หยวน ก็เพราะหลี่เซิ่งคอยให้เงินสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
สองพี่น้องคนหนึ่งอยู่ในที่ลับ อีกคนอยู่ในที่แจ้ง คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน กล่าวได้ว่าเป็นเส้นทางที่ก้าวหน้าในตำแหน่งอย่างรวดเร็ว สำหรับขุนนางทั่วไป หนึ่งแสนตำลึงนี้เป็นจำนวนที่มหาศาลมาก แต่สำหรับหลี่หยวน เขามีความทะนงตัว หยิ่งยโส เงินพวกนี้ไม่ได้อยู่ในสายตา
หลี่หยวนแน่ใจแล้วว่าสัญญานี้ไม่มีข้อผิดพลาด จากนั้นก็เก็บไว้อย่างดี
“แม่นางเฟิงเตรียมตัวให้พร้อม”
“เจ้าค่ะ เช่นนั้นฉิ้นหว่านขอตัวก่อน”
“อืม”
เมื่อเฟิงฉิ้นหว่านขึ้นไปบนรถม้า ก็เปิดกล่องออก และมองดูตั๋วเงินที่ทับซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบอยู่ด้านใน มุมปากก็ยกยิ้มเบาๆ เมื่อได้ตั๋วเงินมาแล้วจะทำอะไรก็ง่ายขึ้น
เฟิงฉิ้นหว่านกินอาหารไปสองสามคำ ก็วางตะเกียบลง “เตรียมตัวสำหรับเย็นวันนี้ไปไปถึงไหนแล้ว?”
“ตามที่ท่านชายน้อยสั่ง แม่นางที่ต้องขึ้นแสดงเหล่านั้นถูกจัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว เพียงแต่หอชมจันทราที่ไม่ค่อยจะลงลอยกับหอหญิงงามเมืองเท่าไร ดูเหมือนจะอยู่ไม่เป็นสุข ไม่รู้ว่าคืนนี้จะมาก่อเรื่องวุ่นวายที่นี่หรือไม่ ท่านชายน้อยระมัดระวังตัวหน่อยก็ดีนะเจ้าคะ ”
“สงบสุขตลอดเวลา ก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ เช่นนั้นก็ปล่อยให้มันเป็นไปเถอะ จะได้เหยียบชื่อของหอชมจันทราให้หอหญิงงามเมืองได้ก้าวระดับขึ้นไปพอดี”
“ท่านชายน้อยเป็นคนฉลาด ข้าเชื่อว่าแขกในวันนี้จะต้องประหลาดใจมากแน่นอน”
“แม่นางลี่กลับไปพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องมาเฝ้าข้าที่นี่ก็ได้”
“เจ้าค่ะ”
นางลี่ออกไปจากห้อง เฟิงฉิ้นหว่านลุกขึ้นบิดขี้เกียจ มุมปากยกยิ้มสะใจ ศึกหนัก? ถ้าเทียบการทรมานที่ไร้มนุษยธรรมในจวนเฉิงเสี้ยงแล้ว สถานการณ์ในตอนนี้ก็เป็นแค่อาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้น
ตอนเย็นก็มาถึง ด้านล่างหอหญิงงามเมืองก็ยิ่งคึกคักมากขึ้น เสียงของการสนทนาดังขึ้นไม่มีที่สิ้นสุด
“บุตรเอกชินอ๋องที่มาจากเมืองหลวงจะมาที่หอหญิงงามเมืองจริงๆ หรือ?”
“แล้วจะเป็นเรื่องเท็จได้อย่างไร ว่ากันว่าคำเชิญถูกส่งออกไปแล้ว”
“เหล่าบรรดากษัตริย์ขุนนางที่มาเมืองนครหลินผิง หากไม่มีหอหญิงงามเมืองก็ถือว่าเสียเที่ยว ชื่อเสียงของหอหญิงงามเมืองช่างโด่งดัง!"
ฉินฮั๋วเหนียนเดินเข้าไปในห้องของเฟิงฉิ้นหว่าน “คุณหนู ได้เวลาแล้วขอรับ”
เฟิงฉิ้นหว่านลุกขึ้นมา และจัดระเบียบคอเสื้อพร้อมกับแขนเสื้อให้เรียบร้อย หลังจากมั่นใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาดแล้ว มุมปากจึงยกยิ้มเป็นรอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบมาก ก่อนจะเดินลงไปที่ชั้นอย่างรวดเร็ว
ฟู่ลั่วเฉิน ยินดีต้อนรับ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ