ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 76

สองวันต่อมา หอหญิงงามเมืองยังคงคึกคักเช่นเดิม

แต่เฟิงฉิ้นหว่านกลับไม่เปิดชั้นสี่ของหอหญิงงามเมืองอีก สิ่งนี้ทำให้คนที่ได้ยินข่าวเกิดความอยากรู้ จึงส่งสารมาเพื่อหยั่งเชิง แต่เฟิงฉิ้นหว่านกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย

หลังจากรู้ข่าวนี้แล้ว พวกของหวางจื้อหยวนก็ยิ่งรู้สึกยินดี : โอกาสไม่อาจพลาดได้จริง ๆ เวลาจะไม่ย้อนคืนมาอีก

ถ้าหากคืนนั้นพวกเขาไม่คว้าโอกาสที่ฉิ้นหว่านหยิบยื่นมาให้ ไม่แน่ว่าตอนนี้คนที่รอฟังข่าวอย่างใจจดใจจ่อ อาจจะเป็นพวกเขาก็ได้ ?

เพื่อสืบหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลี่หยวน สองวันต่อมานางจึงเดินทางไปขอเข้าพบยังเรือนรับรอง แต่ผลสุดท้ายกับถูกขวางเอาไว้ด้านนอก จึงไปขอเขาพบฟู่ลั่วเฉิน

เรื่องที่เกิดขึ้นกับหลี่หยวน ฟู่ลั่วเฉินย่อมรู้ดีแน่นอน ถึงขั้นว่าอาจเป็นแผนการของเขา ลองไปถามดูคงไม่ผิดหวังแน่นอน

ภายในคฤหาสน์ ฟู่ลั่วเฉินกำลังนั่งจิบชาอยู่

หยุนชวนนั่งอยู่ด้านข้าง กำลังยกชาขึ้นมาจิบเช่นกัน : “หลงจิ่งก่อนฤดูฝนที่ตระกูลฉือผลิต ดูเหมือนรสชาติจะไม่ได้ดีสักเท่าไรนะขอรับ ?”

“เจ้าไม่เข้าใจการลิ้มรสชา ก็อย่าทำให้ใบชาชั้นดีต้องเสียของ”

“ท่านอ๋องกล่าวว่าสิ่งใดที่ไม่รู้ก็สามารถศึกษาได้ ตอนนี้ข้าน้อยไม่รู้จักการชิมชา ต่อไปหากข้าน้อยดื่มมากเข้าก็จะเข้าใจเอง” หยุนชวนพูดอย่างมั่นใจ

“มีใบชาให้เจ้าสิ้นเปลืองได้มากมายเช่นนั้นที่ไหนกัน ?”

“รอให้เถ้าแก่จินครอบครองสวนชาของตระกูลฉือได้เสียก่อน อยากจะดื่มเท่าไหร่ก็ย่อมได้”

หยุนชวนเพิ่งจะพูดจบ จินหมิงก็เดินเข้ามาพอดี

ฟู่ลั่วเฉินค่อย ๆ วางถ้วยชาลงบนโต๊ะทำงาน ก้นถ้วยกระทบกับโต๊ะ เกิดเสียงที่คมชัด

“คารวะท่านชาย” บนหน้าผากของจินหมิงเต็มไปด้วยเหงื่อ “ท่านชาย เรื่องการซื้อสวนชาของตระกูลฉือ เกิดปัญหาเล็กน้อยขอรับ”

เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของฟู่ลั่วเฉินก็สงบลงเป็นพิเศษ : “เกิดเรื่องอะไรขึ้น ?”

“ก่อนหน้านี้ทำตามคำสั่งของท่านชาย มุ่งมั่นที่จะรองรับกิจการที่ว่างเปล่าออกมาจากสมาคมการค้าหนานเจียง จึงใช้เงินไปจำนวนไม่น้อย จากนั้นในตลาดก็มีใบชาและธัญพืชปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเป็นของที่คุณภาพสูงแต่ราคาตกต่ำ ข้าน้อยจึงอดไม่ได้ที่จะซื้อเข้ามาเก็บไว้เป็นจำนวนไม่น้อย เพื่อหวังที่จะขายต่อออกไป ซึ่งเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ดังนั้นจึงใช้เงินไปอีกจำนวนมาก”

“แล้วอย่างไรต่อ ?”

“หลังจากนั้นท่านชายกล่าวว่าต้องการซื้อสวนชาของตระกูลฉือ ข้าน้อยจึงจัดระเบียบทรัพย์สินดู คิดจะอาศัยช่วงชุลมุนซื้อสวนชาเอาไว้ คาดว่าคงยังไม่ทันถูกสังเกตเห็น เมื่อไม่เกิดการแข่งขัน คาดว่าใช้เงินจำนวนเจ็ดหมื่นตำลึงก็น่าจะเพียงพอ แต่คิดไม่ถึงว่าจู่ ๆ จะมีคนจำนวนมากที่ต้องการจะซื้อสวนชา ทำให้ตอนนี้ราคาพุ่งสูงขึ้นแล้ว......”

“ทำให้เงินไม่พอหรือ ?”

“ขอรับ” เหงื่อบนหน้าผากของจินหมิงยิ่งไหลออกมามากขึ้น “ต้องโทษที่ข้าน้อยโลภ ก่อนหน้านี้เมื่อเห็นใบชาและธัญพืชเหล่านั้น ไม่ควรจะซื้อเก็บเอาไว้จำนวนมาก”

“ขายออกไปตอนนี้ไม่ทันหรือ ?”

“ข้อแรกเวลากระชั้นชิดเกินไป ข้อสองหากต้องการส่งใบชาและธัญพืชเหล่านี้ออกไป จะต้องอาศัยเรือในการขนส่ง แต่ตอนนี้หวางจื้อหยวนซึ่งประกอบกิจการขนส่งทางเรือ กำลังแข่งขันกับข้าน้อยเพื่อแย่งชิงสวนชาอยู่ เขาจึงไม่ติดต่อค้าขายกับข้าน้อยเป็นการชั่วคราว ดังนั้นสินค้าพวกนี้จึงเก็บสะสมอยู่ในโกดัง”

ฟู่ลั่วเฉินขมวดคิ้วแน่น : “คนที่ต้องการแย่งชิงสวนชามีใครบ้าง ?”

“ล้วนเป็นพ่อค้าในหลินผิงขอรับ”

“เหอะ มิน่าล่ะ” ฟู่ลั่วเฉินหัวเราะเยาะออกมาทันที “ยังขาดเงินอยู่อีกเท่าไร ?”

“ขอบคุณท่านชายที่เป็นห่วง ฉิ้นหว่านเองก็ไม่มีเรื่องยุ่งอะไรมากนัก”

“จะไม่ยุ่งได้อย่างไร ? ตั้งแต่ที่วางเดิมพันกับข้า เจ้าก็ง่วนอยู่กับสร้างหอหญิงงามเมืองไม่หยุด ภายหลังคิดหาวิธีการต่าง ๆ นานาที่จะทำให้หอหญิงงามเมืองมีชื่อเสียงโด่งดัง จัดเตรียมกลอุบายต่าง ๆ เอาไว้มากมาย ทำให้หอหญิงงามเมืองขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของหลินผิง ทำให้แม้แต่ข้าเองก็คิดว่า เจ้าคิดจะใช้หอหญิงงามเมืองเพื่อพลิกฟื้นฐานะ”

แววตาของเฉินฉิ้นหว่านสดใส ใบหน้าดูไร้เดียงสา : “ท่านชายกำลังพูดเรื่องอะไรเจ้าคะ ? ฉิ้นหว่านเพียงแค่สูญเสียท่านพ่อไปอย่างกะทันหัน รวมถึงสูญสิ้นกิจการของครอบครัว ดังนั้นจึงจำต้องกัดฟันสู้เจ้าค่ะ”

“หึ หอหญิงงามเมืองมีชื่อเสียงแล้ว เจ้าจึงแต่งบทกวีที่ว่า : “เหล่าบรรดากษัตริย์ขุนนางมาหลินผิง หากไม่เข้ามาในหอหญิงงามเมืองเท่ากับว่ามาไม่ถึง เพื่อเป็นการเชื้อเชิญบรรดาพ่อค้าที่มีชื่อเสียงของหลินผิงเข้าไปในหอหญิงงามเมือง แล้วค่อย ๆ ทำความเข้าใจสถานการณ์ของพวกเขา จากนั้นก็อาศัยความแค้นที่พ่อถูกฆาตกรรม ทำให้หลี่หยวนเชื่อใจ ทำให้พ่อค้าเหล่านั้นคิดว่าหลี่หยวนคอยสนับสนุนเจ้าอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นจึงยินดีร่วมมือกับเจ้า”

“ท่านชาย ท่านคิดมากไปแล้ว ฉิ้นหว่านไม่มีความคิดมากมายขนาดนั้น”

ท่าทางของเฟิงฉิ้นหว่านยิ่งดูไร้เดียงสามากขึ้น แต่ฟู่ลั่วเฉินกลับไม่เชื่อแม้แต่น้อย

“ให้ข้าเดาอีกว่า สาเหตุที่พ่อค้าเหล่านี้เต็มใจร่วมมือกับเจ้า เป็นเพราะเส้นทางการค้าตงเหว้ยใช่หรือไม่ ? เจ้ารับปากเรื่องผลประโยชน์กับพ่อค้าเหล่านั้น ให้พวกเข้าเข้ามามีส่วนร่วม และย่อมไม่ใช่การเข้ามามีส่วนร่วมเปล่า ๆ เท่านั้น แต่จะต้องให้เงินกับเจ้าจำนวนหนึ่ง เจ้าจึงอาศัยโอกาสนี้กอบโกยเงินจำนวนมหาศาล”

“ท่านชาย......” เฟิงฉิ้นหว่านยิ่งแสดงสีหน้าไร้เดียงสามากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นทำสีหน้างุนงงและสับสน ราวกับว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่ฟู่ลั่วเฉินพูด

“ตระกูลฉือก็อยู่ในแผนการของเจ้าด้วย ตระกูลฉือเกิดเรื่องขึ้น ในสวนชามีเบาะแสสำคัญ ข้าจึงจำต้องซื้อสวนชาของตระกูลฉือเอาไว้ เจ้าจึงอาศัยโอกาสนี้สนับสนุนให้พ่อค้าที่เชื่อถือเจ้าเหล่านั้นเข้ามาแย่งชิง เพื่อฉวยโอกาสเพิ่มราคาของสวนชา หากเป็นเช่นนี้ เมื่อเงินของตระกูลจินมีไม่เพียงพอ เจ้าก็สามารถฉวยโอกาสซื้อกิจการของตระกูลเฟิงกลับไปได้”

เฟิงฉิ้นหว่านส่ายหัว : “ท่านชายคิดมากเกินไปแล้วจริง ๆ......”

ฟู่ลั่วเฉินสบตากับเฟิงฉิ้นหว่าน ราวกับว่าต้องการอ่านความคิดของทางผ่านทางสายตา : “เมื่อคืนเจ้าเพิ่งจะพูดว่าความซื่อสัตย์ที่มีต่อข้า ฟ้าดินเป็นพยานได้ วันนี้กลับพูดโกหกออกมา เฟิงฉิ้นหว่าน เจ้าอยากหรือไม่อยากให้ข้าเชื่อเจ้ากันแน่ ?”

บรรยากาศรอบตัวฟู่ลั่วเฉินเย็นยะเยือกขึ้นทันที โดยเฉพาะเฟิงฉิ้นหว่านที่อยู่ในสายตาของเขา รู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บที่ท่วมท้นขึ้นมา ทำให้คนรู้สึกตัวแข็งทื่อได้ทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ