ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 98

ฟู่ลั่วเฉินมองเฟินฉิ้นหว่านที่หลับตาลงแล้วอธิษฐานต่อต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ แววตาของเขาเคล้าไปด้วยความอ่อนโยน

หญิงสาวตรงหน้าหลับตาสนิท ขนตางอนยาวสั่นเทาเล็กน้อย เกิดเป็นเงาขนาดเล็กบนดวงหน้าที่ขาวเนียนดั่งหยก

เมื่อมองไม่เห็นดวงตาทอประกายคู่นั้น ทำให้ความเจ้าเล่ห์ที่อยู่รอบตัวนางลดน้อยลง แล้วเพิ่มความนิ่งสงบ เวลานี้นางยกมุมปากขึ้น คล้ายลูกแมวที่นอนหลับฝันถึงปลา มีความเชื่อฟัง

ฟู่ลั่วเฉินถอนสายตากลับ เงยหน้าขึ้นมองผ้าสองเส้นที่พริ้วไหวบนต้นไม้สูงใหญ่ ปลายผ้าถูกลมพัด แล้วค่อยๆ พันผูกกัน

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ความขุ่นเคืองในใจของเขาค่อยๆ ลดน้อยลง แทนที่ด้วยความดีใจ แม้จะไม่มากมาย ทว่าทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้น

หลังจากอธิษฐานเสร็จ เฟิงฉิ้นหว่านลืมตาขึ้น แววตาของนางคล้ายเจิดจรัสยิ่งกว่าเดิม: “ท่านชายฟู่ ท่านชายเย่ ในเมื่อพวกเราต่างอธิษฐานกันเสร็จแล้ว เช่นนั้นต่อจากนี้ก็ต้องไปลอยกระทง เมื่อครู่ตอนเดินมาข้าเห็นแผงลอยที่หนึ่ง มีกระทงขายสามกระทงพอดี เป็นอันประจวบเหมาะพวกเราคนละหนึ่งกระทง”

“อืม” ฟู่ลั่วเฉินอารมณ์ดีมาก ยากที่จะพยักหน้าแล้วตอบตกลง

ทั้งสามเดินไปด้านหน้า โดยมีองครักษ์หลายคนเดินตามหลัง

บอกว่าไปลอยกระทง แต่เวลานี้ยังไม่ค่ำมาก จึงไม่ได้รีบร้อน เฟิงฉิ้นหว่านเดินเตร็ดเตร่ที่ร้านแผงลอยทั้งสองข้างทางเป็นครั้งคราว

ก่อนอายุสิบห้า นอกจากเกลียดชังเสิ่นเยว่ผู้เป็นแม่เลี้ยงแล้ว ในความทรงจำของนางไร้ซึ่งเรื่องกังวล

ท่านพ่อชอบเลี้ยงนางเอาไว้ในเรือน ปกป้องนางอย่างดี ในจวนมีตำราและของเล่นมากมายให้อ่านและเล่นเพื่อฆ่าเวลา ด้วยเหตุนี้การที่นางอยู่เรือนหลังจึงไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่าย กล่าวได้ว่ามีความสุขกับตนเอง

มีเพียงเทศกาลเทพเจ้าดอกไม้ ที่นางจะต้องออกมาเดินเล่นบนท้องถนนให้ได้ ท่านพ่อเป็นห่วง วันนี้ในทุกปีท่านจะหาเวลามาเดินเที่ยวเล่นกับนาง พวกนางสองคนพ่อลูกเดินอยู่บนท้องถนนยาวเหยียดช้าๆ เดินผ่านร้านแผงลอยต่างๆ มามาย เดินผ่านผู้คน สุดท้ายหยุดลงที่ข้างต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ผูกผ้าแดง อธิษฐาน แล้วรู้สึกว่าปีนี้สมบูรณ์แบบแล้ว

เวลานี้มองร้านแผงลอย ความทรงจำต่างๆ ในอดีตฉายในหัวใจ นางคิดว่าความเจ็บปวดที่ประสบพบเจอจะทำให้ความเจ็บปวดเหล่านี้หายไป ทว่าคิดไม่ถึง หลังจากทำจิตในนิ่งสงบ ความทรงจำอบอุ่นเหล่านี้กลับส่องสว่างเพราะเรื่องราวเลวร้ายที่ประสบพบเจอ ล้ำค่าจนทำให้คนรู้สึกปวดใจ

ฟู่ลั่วเฉินไม่ได้สนใจร้านแผงลอยเหล่านั้น ทว่าก็ไม่ได้เร่งเร้า เพียงเดินตามหลังไม่กี่ก้าวกับเย่ลั่งหานเท่านั้น

“ท่านชายฟู่ ยากนักที่จะเห็นเจ้าจิตใจนิ่งสงบเช่นนี้......”

“เป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่ง ไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับนาง”

เย่ลั่วหานหัวเราะเสียงเบา: “หลังจากเข้าพิธีปักปิ่นตอนอายุสิบห้า ก็ไม่อาจเรียกว่าหญิงสาวได้แล้ว”

ฟู่ลั่วเฉินเงยหน้าขึ้น กำลังจะพูดบางอย่าง แต่กลับสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างด้วยความชาญฉลาด เพิ่มความระมัดระวังในหัวใจจนเกร็งไปหมด

รอยยิ้มของเย่ลั่วหานจางหาย สีหน้าหยอกล้อก็หายไป: “ลั่วเฉิง?”

“ไม่เป็นเช่นไร แค่หนูไม่กี่ตัวเท่านั้น”

“หนูตัวสองตัวไม่เท่าใด แต่เมื่อมีจำนวนมาก ต้องระมัดระวัง ถูกหนูกัดหนึ่งทีสกปรกยิ่งนัก” เย่ลั่วหานเก็บพัด นิ้วเคลื่อนผ่านด้ามพัด

“วางใจเถอะ”

เฟิงฉิ่นหวานซื้อปิ่นเงินงดงามหนึ่งอัน อยากจะซื้อกลับไปให้เสิ่นเยว่ เมื่อครู่สังเกตเห็นว่าคล้ายฟู่ลั่วเฉินและเย่ลั่วหานทั้งสองคนมีบางอย่างผิดปกติ:

“ท่านชายทั้งสอง รอจนเริ่มเบื่อแล้วใช่หรือไม่?”

ฟู่ลั่วเฉินเงยหน้าขึ้น: “ซื้อเสร็จแล้วหรือ?”

“เจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นพวกเราไปลอยกระทงกันเถอะ”

ทุกคนรีบถอยหนี โดยไม่ได้สนใจทิศทาง

เวลานี้พวกเฟิงฉิ้นหว่านที่ยืนอยู่บนบันไดจึงเคราะห์ร้าย ผู้คนมากมายแออัดกัน ผลักพวกเขาตกลงไปในน้ำ

เฟิงฉิ้นหว่านไม่อาจสนใจกฎระเบียบและมารยาท นางยกมือขึ้นคว้าแขนเสื้อของเย่ลั่วหาน: “ท่านชายเย่ โปรดระวัง!”

คนที่ถูกไม่คลอกเจ็บปวดรวดร้าวจนไม่สนใจสิ่งใด คิดแต่จะเอาชีวิตรอด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนึกขึ้นได้ว่าที่ตรงนี้อยู่ใกล้แม่น้ำหรือว่าอย่างไร ดังนั้นเขาจึงวิ่งมาทางพวกเฟิงฉิ้นหว่าน

ผู้คนมากมายต่างรีบถอยหนี ไม่คนถูกผลักจนตกลงไปในน้ำ

เฟิงฉิ้นหว่านยืนทรงตัวไม่อยู่ กำลังจะถูกคนผลักตกน้ำ นางรีบปล่อยแขนเสื้อเย่ลั่วหาน กลัวว่าเขาจะเดือดร้อนเพราะตน เดิมทีนางกัดฟันเตรียมรับความเจ็บปวด ทว่าคิดไม่ถึงแขนของนางกลับถูกคว้าเอาไว้แน่น จากนั้นซบอยู่ในอ้อมกอดที่หนาวเย็นดั่งหิมะและมีกลิ่นหอม

ฟู่ลั่วเฉินคว้าเฟิงฉิ้นหว่านด้วยมือข้างเดียว พานางเดินลงบันไดตามผู้คน

วินาทีต่อมา เฟิงฉิ้นหว่านคว้าเสื้อด้านหน้าของฟู่ลั่วเฉินไว้แน่น พูดเตือนด้วยน้ำเสียงร้อนรน: “ห้ามตกลงไปในน้ำเด็ดขาด!”

ก่อนหน้านี้มีผู้คนมากมาย กลิ่นผสมปนเป ไม่อาจแยกแยะได้ทัน เวลานี้เข้าใกล้แม่น้ำ เฟิงฉิ้นหว่านได้กลิ่นน้ำมัน

มีคนเทน้ำมันลงบนผิวน้ำ ทันทีที่พวกเขาตกลงไปในน้ำ ภายใต้สถานการณ์ที่น้ำมันถูกจุดไม่อาจผุดขึ้นเหนือน้ำได้ กลั้นหายใจก็กลั้นหายใจจนตาย

ฟู่ลั่วเฉินขมวดคิ้วเป็นปม จับมือเฟิงฉิ้นหว่านแน่น: “ไม่ทันแล้ว”

วินาทีต่อมา แรงผลักของผู้คนมากมายขึ้น ฟู่ลั่วเฉินโอบกอดเฟิงฉิ้นหว่านแล้วมีเสียงตกลงไปในน้ำดังขึ้น

เฟิงฉิ้นหว่านรีบกลั้นหายใจ ก่อนจะตกลงไปในน้ำ นางเห็นเย่ลั่วหานถูกหยุนซวนและพวกพากระโดดขึ้นบนเรือลำเล็กบนแม่น้ำ นางโล่งอกทันที:โชคดีที่ท่านชายเย่ไม่เป็นอะไร!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ