ดูเหมือนว่าสายตาของหยุนฝู้เฉินจะดีมากจริงๆ และเขายังมีคนที่มีความสามารถอยู่ใต้การบังคับบัญชาของเขาไม่น้อยเลยจริงๆ
ซ่งขุยถูกอาจารย์หานขัดขวางจนพูดอะไรไม่ออก แรกเริ่มเดิมทีเขาก็เป็นนักรบ พอได้มาเป็นนักปราชญ์เขาก็เลยมีเพียงท่าทางที่โกรธจนหน้าดำหน้าแดงเท่านั้น
หยุนฝู้เฉินที่ไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอด ก็ลุกขึ้นมาทันใด และพูดอย่างหนักแน่นว่า "ข้าเชื่อในตัวนาง"
คำพูดนี้ทำให้เซี่ยจินอานตกตะลึงไปพักหนึ่ง และมองไปยังหยุนฝู้เฉินด้วยดวงตาที่แวววาว
เขาเชื่อนางหรือ? เชื่อว่านางไม่ได้ทรยศต่อประเทศหรือ?
นับตั้งแต่ที่ทะลุมิติมา นางมักจะได้รับคำตำหนิอยู่บ่อยๆ ซึ่งทุกคนต่างก็ด่านางว่าคนทรยศต่อประเทศ
แต่ทันใดนั้นมีคนพูดขึ้นมาว่าเขาเชื่อในตัวเจ้า เชื่อว่าเจ้าไม่ได้ทรยศต่อประเทศ ความรู้สึกเช่นนี้ก็เป็นเหมือนกับนักพรตที่อยู่ในทะเลทราย ที่จู่ๆก็เห็นโอเอซิสผืนหนึ่งเข้าอย่างไรอย่างนั้น
มีความอบอุ่นบ้าง มีความรู้สึกซาบซึ้งบ้าง และยังมีความรู้สึกที่ไม่รู้จักชื่อกำลังแผ่ขยายไปเรื่อยๆ
ซ่งขุยถือว่าหยุนฝู้เฉินเป็นผู้ที่ตัวเองเคารพเลื่อมใสมาโดยตลอด ตอนนี้แม้แต่ผู้ที่ตัวเองเคารพเลื่อมใสก็ยังเชื่อในผู้หญิงคนนี้ เขายังจะมีสิ่งใดมาหักล้างได้อีก
และคำพูดของอาจารย์หานนั้นไม่ใช่ว่าจะไม่สมเหตุสมผลเลย ไม่สามารถเอาสายตาของคนทั่วไปมาตัดสินคนคนหนึ่งได้ ถ้าอยากรู้จักใครสักคนจริงๆ ไม่สู้ให้ตัวเองเข้าไปทำความรู้จักอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเองจะดีกว่า
"ข้ายินดีรับฟังคำสั่งของคุณหนูเซี่ย" ซ่งขุยพูด
เซี่ยจินอานยิ้มแล้วยิ้มอีก แล้วพูดว่า "พวกท่านไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้า ไม่จำเป็นต้องใช้คำว่าคำสั่งหรอก ฉันจะรักษาขาให้แม่ทัพซ่ง ในช่วงสามเดือนนี้แม่ทัพซ่งก็ช่วยข้าสอนศิลปะการต่อสู้และกลยุทธ์ทางการทหารให้กับพวกเด็กๆ หลังจากผ่านไปสามเดือนแล้วจะรั้งอยู่หรือว่าจะไป ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแม่ทัพซ่งก็แล้วกัน ในเดือนแรกแม่ทัพซ่งไม่ควรใช้กำลัง ท่านสามารถสอนกลยุทธ์ทางการทหารกับพวกเด็กๆก่อนก็ได้ ถึงแม้ว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือนอาการบาดเจ็บที่ขาจะยังไม่หายดี แต่ก็พอที่จะสอนพวกเด็กๆได้แล้วล่ะ"
"ตกลง" กล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณใบหน้าของซ่งขุยล้วนสั่นเทาไปหมดด้วยความตื่นเต้น
ในเวลาเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น เขาก็จะสามารถเป็นเหมือนคนปกติได้แล้ว
เขาสามารถกลับคืนสู่สนามรบและปกป้องประเทศได้! และไม่ต้องเอ้อระเหยลอยชายอยู่ที่บ้านเหมือนคนพิการอีกต่อไปแล้ว!
ในฐานะนายทหารคนหนึ่ง จะมีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าการที่ทำให้เขาได้เข้าสู่สนามรบได้ล่ะ!
ในฐานะหมอคนหนึ่ง สิ่งที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดก็คือวิชาแพทย์ ถ้ามันจะสามารถยกระดับวิชาแพทย์ของเขาให้สูงขึ้นได้ ถ่ายทอดความรู้ให้กับพวกเด็กๆจะเป็นไรไป!
"ได้อย่างแน่นอนเจ้าค่ะ" เซี่ยจินอานพูด หลังจากนั้นก็มองไปที่อาจารย์หาน แล้วถามว่า "ท่านอาจารย์ ท่านมีคำถามอะไรไหม?"
อาจารย์หานเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า "ไม่มี"
เมื่อเห็นว่าทั้งสามคนไม่คำถามอะไรแล้ว เซี่ยจินอานก็ยิ้มและพูดว่า "ข้าขออวยพรให้เราร่วมมือกันอย่างมีความสุขล่วงหน้าเลยก็แล้วกัน รอให้ข้าจัดการเรื่องที่อยู่อาศัยของพวกเด็กๆทางนี้ให้เรียบร้อยก่อน ข้าจะให้คนของท่านอ๋องไปแจ้งให้ทุกท่านทราบนะเจ้าคะ"
จากนั้นนางก็พูดกับซ่งขุยเป็นพิเศษว่า "ขาของท่านน่ะ หลังจากนี้สิบวันข้าจะเริ่มรักษาให้ท่านนะเจ้าคะ"
ซ่งขุยพยักหน้าไปมา
ทำไมเซี่ยจินอานถึงเลือกที่จะรักษาในหลังจากนี้สิบวันด้วยล่ะ? เพราะอีกไม่กี่วันนางก็จะออกไปจากจวนแล้ว หลังจากนี้สิบวันนางสามารถจัดเตรียมที่อยู่ให้กับตัวเองเรียบร้อยแล้ว และจัดเตรียมที่อยู่ให้เด็กๆกลุ่มนั้นเรียบร้อยแล้วเช่นกัน นางก็จะสามารถทำงานของตัวเองอย่างใจจดใจจ่อได้แล้ว!
เพียงแต่บางครั้งอุดมคตินั้นจะสวยงามมาก แต่ความเป็นจริงกลับโหดร้ายมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน
น่าติดตาอ่าน แต่ตอนหลัง จบคือจบ ขอขอบคุณที่สรุปให้...
ทุกคนไม่ต้องเสียอารมณ์ที่ตัดจบแบบนี้เข้าไปดูเรื่องนี้ในแอปเสียตังค์แล้ว...ตัดจบแบบนี้เหมือนกัน...
เรื่องนี้สนุกมากก ทั้งความฟิน ตลก ไม่ปวดตับ แต่เสียตรงที่ตอนจบ ตัดจบง่ายไป ยังมีหลายอย่างที่ไม่กระจ่าง 1. พระเอกหน้าเป็นยังไง? ทำไมต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา หน้าตาไม่ดี? เป็นแผลเป็นบนใบหน้า? หรือเกิดจากปมอะไร 2. ครอบครัวของเซี่ยจินอาน น่าจะมีบรรยายต่ออีกหน่อย สมควรได้รับกรรมมากกว่านี้ 3. เสิ่นหลีซู องค์หญิง และหมอผู้หญิงที่ชอบพระเอก ควรบรรยายว่าจะมีจุดจบเป็นแบบไหน 4. จุดจบของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน...
กำลังลุ้นอยู่ดีๆ ตัดจบจนปวดใจ แต่ก็ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ...
จบแบบรีบไปหน่อยเลยหรือเปล่า....สุกมาตั้งแต่ต้น..น่าจะแปลข้ามฟากไปเลยอ่ะ...
เป็นเรื่องที่สนุก เนื้อเรื่องตลก น่ารักดี แต่ตอนจบคือหักมุมจบแบบง่ายเกินไปหน่อยนะคะ...