เซี่ยจินอานก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเช่นกัน แล้วหันหลังเดินออกไปเลย
เรื่องอื่นๆ นางต้องวางเอาไว้ข้างๆ และสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือรักษาอาการป่วยของพ่อบ้านให้หายดี
ดังนั้นไม่กี่วันต่อมานางจึงไปที่เรือนของพ่อบ้านอย่างขยันหมั่นเพียรมาก และได้ทำความคุ้นเคยกับบรรดาสาวใช้เหล่านั้นที่อยู่ในเรือนของพ่อบ้านหมดทุกคนแล้ว
ส่วนพ่อบ้านก็พบว่าหลังจากได้รับการดูแลรักษาด้วยมือของเซี่ยจินอานเองขาของตัวเองก็ดีขึ้นมากจริงๆ และเขาก็รู้สึกเบาใจอย่างหาที่สุดมิได้
เพียงแต่การที่ไม่สามารถจับคนที่วางยาพิษอยู่เบื้องหลังได้ กลับทำให้เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
หมอจวนได้ประมาณจำนวนวันเอาไว้คร่าวๆแล้ว คิดว่าระยะเวลาที่ตัวเองได้วางยาพิษผ่านไปสองสามวันแล้ว ขาของพ่อบ้านน่าจะรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแล้ว เขาก็เลยไปหาพ่อบ้านเพื่อถามข่าวคราวสักหน่อย
ในช่วงหลายวันมานี้พ่อบ้านก็รู้เช่นกันว่าตัวเองกำลังถูกใครจับตามองอยู่ เพื่อไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น เขาจึงนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา เมื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้นบรรดาบ่าวรับใช้ชายก็จะมาหาเขาในเรือน
ดังนั้นตอนที่หมอจวนเดินเข้าประตูมา ก็เลยพบว่าพ่อบ้านกำลังนอนอยู่บนเตียง
หมอจวนก้าวไปข้างหน้าและแสร้งทำเป็นพูดด้วยความเป็นห่วงเป็นใยว่า "พ่อบ้าน อาการป่วยที่ขาของเจ้าดีขึ้นบ้างแล้วใช่หรือไม่ คุณหนูเซี่ยพูดว่าสามวันไม่ใช่หรือ? ตอนนี้เวลามันผ่านไปสามวันแล้วนะ!"
ในขณะที่พ่อบ้านกำลังมองหมอจวนอยู่นั้นกลับกำลังคิดหยุมๆหยิมๆอยู่ในใจ
ตั้งแต่ที่อยู่ด้วยกันมาในช่วงหลายวันมานี้ เขาก็ได้พบว่าถึงแม้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นจะทำตัวหยาบคายและเหลาะแหละ แต่นางกลับเป็นคนดีคนหนึ่ง
อีกทั้งเด็กผู้หญิงคนนี้ก็ยังเฉลียวฉลาด จุดที่นางสงสัยหมอจวนนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีมูลเลย
ดังนั้นแท้จริงแล้วเขาต้องคอยเฝ้าระวังหมอจวนหรือไม่กันแน่?
พ่อบ้านครุ่นคิดครั้งแล้วครั้งเล่าและพูดว่า "ดีขึ้นมากแล้ว ถึงแม้ว่าสองวันก่อนข้าจะมีอาการเจ็บขาอยู่บ้าง แต่คุณหนูเซี่ยก็ได้เปลี่ยนขี้ผึ้งให้ข้าแล้วตลับหนึ่ง อาการก็เลยดีขึ้นมาอีกครั้งน่ะ"
"ดีขึ้นแล้วก็ดี! หลายวันมานี้เจ้าต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อคุณหายดีแล้ว ค่อยไปทำงานในจวนก็ยังไม่สาย" หมอจวนพูด
"หมอเซวียผู้นี้ไม่น่าเชื่อถือเลยนะขอรับ" สุ้นจื่อกระซิบเบาๆ "ท่านต้องเฝ้าระวังเขาหน่อยนะขอรับ ข้าน้อยสงสัยว่าเรื่องที่ท่านโดนพิษเมื่อคราวก่อนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาขอรับ"
พ่อบ้านเหลือบมองสุ้นจื่อด้วยสายตาที่ความหมายลึกซึ้งอย่างอื่น แล้วถามว่า "ใครบอกเจ้า?"
สุ้นจื่อทำสีหน้างงงวยเมื่อได้ยินคำถามนี้ ใครบอกเขาอะไรกัน?
เมื่อพ่อบ้านเห็นปฏิกิริยาของสุ้นจื่อเขาก็เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถามต่อไปว่า "ทำไมคุณถึงได้พูดแบบนี้ล่ะ?"
สุ้นจื่อจึงพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า "ก่อนที่หมอจวนจะมาหาท่าน เขาได้ยินมาว่าท่านขอให้คุณหนูเซี่ยมาตรวจโรคให้ เขาจึงโกรธมากสีหน้าของเขายังน่ากลัวมากอยู่เลย แต่ในบ่ายวันนั้นตอนที่อยู่ต่อหน้าท่านกลับมีสีหน้าหวังดี และจงใจพูดถึงวิธีรักษาอาการป่วยของท่านขึ้นมาด้วย ข้าน้อยก็เลยคิดว่าหมอเซวียผู้นี้ไว้ใจไม่ได้ขอรับ"
"อีกทั้งตอนที่เขาเดินจากไปเมื่อสักครู่นี้ สีหน้าของเขาก็น่ากลัวมากเช่นกันขอรับ"
หลังจากที่พ่อบ้านฟังคำพูดเหล่านี้จบ เขาก็ถอนหายใจยาวๆเฮือกหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน
น่าติดตาอ่าน แต่ตอนหลัง จบคือจบ ขอขอบคุณที่สรุปให้...
ทุกคนไม่ต้องเสียอารมณ์ที่ตัดจบแบบนี้เข้าไปดูเรื่องนี้ในแอปเสียตังค์แล้ว...ตัดจบแบบนี้เหมือนกัน...
เรื่องนี้สนุกมากก ทั้งความฟิน ตลก ไม่ปวดตับ แต่เสียตรงที่ตอนจบ ตัดจบง่ายไป ยังมีหลายอย่างที่ไม่กระจ่าง 1. พระเอกหน้าเป็นยังไง? ทำไมต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา หน้าตาไม่ดี? เป็นแผลเป็นบนใบหน้า? หรือเกิดจากปมอะไร 2. ครอบครัวของเซี่ยจินอาน น่าจะมีบรรยายต่ออีกหน่อย สมควรได้รับกรรมมากกว่านี้ 3. เสิ่นหลีซู องค์หญิง และหมอผู้หญิงที่ชอบพระเอก ควรบรรยายว่าจะมีจุดจบเป็นแบบไหน 4. จุดจบของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน...
กำลังลุ้นอยู่ดีๆ ตัดจบจนปวดใจ แต่ก็ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ...
จบแบบรีบไปหน่อยเลยหรือเปล่า....สุกมาตั้งแต่ต้น..น่าจะแปลข้ามฟากไปเลยอ่ะ...
เป็นเรื่องที่สนุก เนื้อเรื่องตลก น่ารักดี แต่ตอนจบคือหักมุมจบแบบง่ายเกินไปหน่อยนะคะ...