ตอนที่127ร่วมมือพิชิตศัตรู
แสงไฟสีแดงส่องสว่างในจวนบ่งบอกถึงการเฉลิมฉลองข้าวของหลายสิ่งถูกเปลี่ยนเป็นสีแดงมงคลบรรดาสาวใช้กำลังยุ่งวุ่นวายกับการทำความสะอาดลานบ้านด้วยความเบิกบานใจส่วนเย่กั๋วกงนั่นก็ยุ่งวุ่นวายอยู่กับการเล่นไทเก็กกับขุนนางในราชสำนัก
ทั้งจวนมีเพียงแต่เจ้าของจวนทางปีกตะวันตกเพียงคนเดียวทุกข์ร้อนใจเย่เซียวหลัวได้ยินเสียงเฉลิมฉลองอย่างคึกคักจากข้างนอกก็แทบจะหาอะไรมาอุดหู
“จี๊ดจี๊ด……”เสียงที่ลอยจากข้างนอกสองครั้งฟังแล้วเหมือนเสียงร้องของหนูเย่เซียวหลัวที่นอนอยู่บนเตียง ชั่วพริบตาเดียวตาสองข้างก็ส่องประกายรีบลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็วพุ่งตัวไปข้างหน้าต่างและทำการเปิดหน้าต่างออกข้างหน้าต่างได้มีชายหนุ่งหน้าตาหล่อเหลางดงามปรากฏตัวขึ้นเขานำใบบัวและกระดาษมันที่มีสิ่งของบรรจุในมือของเขามอบให้เจ้า่เย่เซียวหลัวจากนั้นก็หมุนตัวเข้ามาในห้อง
“ขนมดอกท้อขาหมูหยางจี้เต้าหู้ราดน้ำตุ๋นตีนเป็ดมีแต่ของที่เจ้าชอบทั้งนั้นเลยรีบมากินเถอะพี่รองรู้ว่าเจ้าหิวมาเป็นวันแล้วพอถึงวันพรุ่งนี้เจ้าก็จะไม่ได้กินของอร่อยอย่างนี้แล้วน้า”เย่อวิ๋นกว่างนำเอาสิ่งของทั้งหมดวางลงบนโต๊ะเพียงเปิดออกกลิ่นหอมก็ลอยออกมา
เย่เซียวหลัวที่หิวมาแล้วทั้งวันก็ไม่คิดที่จะสนใจภาพลักษณ์ของหญิงงามมือหนึ่งถือขนมดอกท้อส่วนอีกยกขาหมูขึ้นมาแทะ
เย่อวิ๋นกว่างเทน้ำใส่แก้วให้ด้วยความปวดใจ“ช้าช้ามิมีผู้ใดแย่งเจ้าดอก”
เมื่อเย่เซียวหลัวออกแรงกลืนขนมดอกท้อลงไปอย่างยากลำบากทางเย่อวิ๋นกว่างก็ยกถ้วยน้ำส่งให้ถึงปากเมื่อได้กลืนลงไปหนึ่งคำในที่สุดนางหายใจสะดวก
“พี่รองพรุ่งนี้ท่านต้องช่วยข้า……”
เย่เซียวหลัวพึ่งพูดได้แค่ครึ่งเดียวประตูก็ถูกผลักเข้ามาส่งเสียงดังโครมครามเย่กั๋วกงเดินเข้ามาด้วยสีหน้าขมึงถึงเงากลมกลึงยืนหยุดอยู่ตรงหน้าคนทั้งสองก้มหน้ามองดูสิ่งของที่วางอยู่บนโต๊ะตาสองข้างกวาดมองไปที่หน้าเย่อวิ่นกวางอย่างดุดัน
“ใครอนุญาตให้เจ้ากิน?ใครก็ได้เข้ามาเก็บกวาดของพวกนี้ออกไปให้หมด”เย่วกั๋งกงให้คนเก็บกวาดของออกไปอย่างไม่ใยดีใช้มองที่เหนือกว่ามองไปที่เย่เซียวหลัว“พรุ่งนี้คิดจะหนีใช่ไหม?เย่อวิ๋นกว่างเจ้าออกไปซะพรุ่งนี้เข้าห้ามเหยียบเข้ามาที่นี้แม้เพียวก้าวเดียว ไม่มีข้า ข้าจะดูซิมาว่านางจะทำยังไง”
“เตียท่านจะเผด็จการอย่างนี้มิได้”เย่อวิ๋นพูดออกไปด้วยความโมโห
เย่กั๋วกงสะบัดแขนเสื้อพูดอย่างโมโห“อย่างไรเรียกว่าเผด็จการมีเรื่องใดบ้างที่ข้าไม่ได้ทำเพื่อพวกเจ้า?หลัวเอ๋อร์แต่งให้กับรัชทายาทก็เป็นรัชทายาทเฟ่ยคือว่าที่ฮองเฮาในอนาคตแค่เจ้าคนเดียวก็สามารถสร้างเกียรติยศให้แก่ตระกูลของพวกเราได้และยังสามารถเสพสุขความมั่งคั่งและยศถาบรรดาศักดิ์แบบนี้ยังไม่ดีหรอ?”
คำสั่งของพ่อแม่ยิ่งใหญ่เทียมฟ้าอีกทั้งยังมีฝ่าบาทถ้าพวกเขาสองคนไม่เห็นด้วยตัวเขาก็ไม่มีแรงกำลังที่จะโต้แย้ง
“ท่านนั้นคือตาแก่หัวดื้อ”เย่อวิ๋นกว่างตำหนิอาเตียด้วยความโมโห
ในใจของเย่กั๋งกงบีบแน่นโมโหลุกเป็นไฟในโลกนี้มีลูกชายที่ไหนที่ตำหนิอาเตีย?แต่ไม่ทันจะอ้าปากเจ้าลูกชายก็จ้ำเท้าออกจากห้องไปแล้ว
“วันนี้ค่ำคอยเข้าประตูเอาไว้ไม่อนุญาตให้เข้ามาทั้งนั้นแล้วก็ห้ามนางออกไปข้างนอก”เย่กั๋งกงสั่งเสร็จก็สะบัดแขนเสื้อเดินออกไปเจ้าลูกไม่รักดีทำให้เขาทุกข์ทรมานเสียจริง
หน้าของเย่เซียวหลัวแห้งแล้งความอยุติธรรมในใจที่ได้รับก่อให้น้ำตาไหลรินลงมานั่งแข็งค้างอยู่บนเก้าอี้ตาสองข้างมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างว่างเปล่า
สาวใช้เห็นเยี่ยงนั้นก็มิกล้าเข้าไปปรนนิบัติหลังจากพูดออกกี่ประโยคแล้วไม่มีการตอบรับก็รีบร้อนปิดประตูออกไป
ประตูพึ่งจะถูกล็อคข้างในก็มีเสียงดังเพล้งเพล้งเพล้งเพล้งออกมาของที่สามารถทุบแตกได้ก็โดนเย่เซียวหลัวทุบแตกทั้งหมดหลังจากได้ยินว่าข้างนอกไม่มีการเคลื่อนไหวใดใดแล้วก็ค่อยค่อยสงบลง
เย่เซียวหลัวสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้งก็พลิกเอาขวดกระเบื้องสีแดงออกมาแขนเสื้อของตัวเองนี่คือยาพิษที่เย่อวิ๋นกว่างนำมาให้นางเมื่อเข้ามาหาเมื่อสักครู่นี้เล่นละครก็ต้องเล่นให้สมจริงเพียงมียาพิษนี้ก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ลวงตาว่าดื่มยาพิษเข้าไปแล้วได้
นางหัวเราะหึหึหึจะสามารถหลุดพ้นจากที่นี้ได้หรือไม่ก็อยู่ที่ยาเจ้าล้งตายที่โล่หวินหลานให้ซะแล้ว
โล่หลินหลานยังไม่ทันลืมตาก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างขยับไปขยับมาบนตัวนางห่มผ้าที่แสนอบอุ่นอยู่ๆก็โดนคนกระชากออกแขนก็ถูกยกขึ้นอย่างไร้ความปราณีรู้สึกเหมือนก็สวมใส่บางอย่างเข้าไปและก็ถูกวางลงอย่างรุนแรงนางง่วงนอนมากจนไม่มีเรี่ยวแรงที่จะใส่ใจแล้วแต่คนคนนั้นจะจัดการละกัน
หลังจากโม่ฉีหมิงสวมรองเท้าบูทเสร็จก็มองดูท่าทางง่วงเหงาหาวนอนของโล่หวินหลานพูดอย่างจนปัญญาว่า“ไม่ต้องสวมชุดให้นางแล้วปล่อยให้นางนอนต่เถอะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่พวกเจ้าค่อยเข้ามาปรนนิบัติเถอะ”
เย่หวินพยักหน้ารับแล้วก็ถอดเสื้อตัวในที่สวมให้โล่หวินหลานได้เพียงครึ่งตัวออกหลังจากนั้นก็ช่วยห่มผ้าห่มอุ่นอุ่นให้แก่นาง นางแค่พลิกตัวจากนั้นก็เข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
โม่ฉีหมิงมองโล่หวินหวานที่ฝันหวานเพียงชั่วครู่ก็หมุนตัวเดินออกไป
“ฉินหยิ่นให้คนเตรียมม้าข้าจะเข้าวัง”โม่ฉีหมิงสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา
โม่ฉีหมิงชำเลืองหางตารัชทายาทที่อยู่ด้านข้างกลับเอ่ยขึ้นมาว่า“ท่านพ่อที่ลูกรู้มากลับมิเป็นเช่นนั้นพะยะค่ะเย่กั้วกงคนนี้แม้ว่าจะหยิ่งยโสอวดดีแต่ว่าหลายปีมานี้กลับระมัดระวังรอบคอบมาโดยตลอดไม่กล้าเข้ามาท้องพระโรงว่าราชการเอาอะไรมาพูดว่าจะดึงขุนนางมาเป็นพวกในวันงานแต่งงานระหว่างลูกและคุณหนูสามตระกูลเย่แบบนี้มันจะไม่ชัดเจนเกินไปหรอกหรือ?”
เจียเฉิงมิทรงตรัสออกมาเย่กั้วกงคนนี้เมื่อก่อนไม่มีการดึงขุนนางเป็นพวกจริงมักจะรักษาระหว่างกับพวกขุนนางมาโดยตลอด
“ที่รัชทายาทพูดมาก็มิถูกนักเพราะฉะนั้นเย่กั้วกงถึงรอถึงเวลานี้ทั้งหมดคิดจะอาศัยการแต่งงานระหว่างรัชทายาทกับคุณหนูสามยกฐานะของตัวเองรัชทายาทท่านรักคุณหนูสามตระกูลเย่จริงไหม?”โม่ฉีหมิงเอ่ยถามด้วยวาทะที่เต็มไปด้วยสัจธรรม
รัชทายาทส่ายหัวโดยไม่ลังเลและมองไปที่ร่างกายที่ยืนตรงของโม่ฉีหมิงเขาคิดภาพไม่ออกถ้าโม่ฉีหมิงไม่บาดเจ็บจะมีรูปร่างเป็นเยี่ยงไรอาศัยเพียงแค่ความสามารถของตัวเขาแน่นอนว่าจะได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญจากท่านพ่อ!
หมิงอ๋องที่เจ้าพูดมานี้มีหลักฐานรึเปล่า?”เจียเฉิงฮ่องเต้ทรงตรัสถามถ้าเป็นอย่างที่พวกพูดการสมรสครั้งนี้ก็ไม่สามารถจะจัดได้
ขณะกำลังรอโม่ฉีหมิงเอ่ยปากประตูก็ถูกผลักเข้ามาสตรีแต่งกายหรูหราทรงผมเต็มไปด้วยเครื่องประดับหยกกำลังค่อยๆเดินอย่างนวยนาดเข้ามาในห้องดูจากละลักษณะท่าทางของนางแล้วดูเหมือนกับว่าจะฟังอยู่ข้างนอกมานานแล้ว
"เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีหลักฐานแต่ใช้ใจก็สามารถสัมผัสได้"เย่ฮองเฮาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจียเฉิงฮ่องเต้พูดอย่างสงบนิ่ง"ฝ่าบาทหม่อมฉันทราบดีว่าตัวเองไม่ควรแทรกแซงงานราชการแต่ว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับความสุขทั้งชีวิตของซิวเอ๋อร์หม่อมฉันขอเอ่ยอะไรสักหน่อยขอฮ่องเต้โปรดอนุญาต"
เย่ฮองเฮาคุกเข่าอยู่ข้างหน้าเงาแผ่นหลังสะท้อนอยู่ต่อหน้าคนทั้งสองนี้เป็นครั้งแรกที่โม่ฉีหมิงค้นพบว่าผู้หญิงคนหนึ่งสามารถทำเรื่องยิ่งใหญ่แบบนี้ได้เพื่อลูกชายของตัวเองโดยไม่คำนึงถึงโทษที่ตามมา
ถ้าหากท่านแม่ของเขายังอยู่ก็คงทำแบบนี้เหมือนกันทำทุกอย่างโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเพื่อเขา
“ฮองเฮา เจ้าเป็นคนที่อยู่ในวังนี้แต่กลับไม่สนใจกฎระเบียบเข้ามาที่ห้องทรงอักษรจะให้ข้าเพิกเฉยได้อย่างไร?”ฮ่องเต้เจียเฉิงขมวดคิ้วแน่นน้ำเสียงเคร่งเครียด
รัชทายาทได้ยินดังนั้นกำลังอยากที่จะช่วยฮองเฮาพูดแต่นางกลับส่งสายตาบอกเป็นนัยน์ว่าอย่าทำอะไรโดยไม่คิดนางเป็นผู้หญิงของฮ่องเต้เจียเฉิงมานานนางรู้ดีว่าทำอย่างไรเขาถึงจะใจอ่อนและก็รู้ว่าจะต้องพูดจายังไงให้ไม่โดนลงโทษ
“ฝ่าบาทข้าเพียงอยากพูดเพียงไม่กี่คำเท่านั้นพูดจบฝ่าบาทจะลงโทษอย่างไรก็ได้ข้างนอกมีแต่ข่าวลือหลัวเอ๋อชอบเวินอ๋องข่าวลือพวกนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะแต่งขึ้นมาเองข้างนอกวังมีคนร้องเพลงซิวเอ๋อเป็นรัชทายาททำไมถึงแย่งผู้หญิงของพี่น้อง?พูดออกไปคนอื่นเขาจะมองยังไง?เพราะฉะนั้นข้าคิดว่าให้หลัวเอ๋อแต่งงานกับเวินอ๋องเป็นการดีที่สุดแล้ว”เย่ฮองเฮาพูดอย่างเรียบๆในแววตาไม่มีความกลัวแต่อย่างใด
หากมีผลต่อหน้าตาของราชวงศ์ถึงแม้จะเป็นฮ่องเต้เจียเฉิงเองก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรเขาคิดทุกอย่างอย่างรอบคอบเพียงแต่ไม่ได้คิดถึงความเป็นพี่น้องของเวินอ๋องกับรัชทายาท
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก