ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 143

ตอนที่ 143ฝึกฝนวรยุทธ์

คนในยุคโบราณนั้นเขาฝึกฝนวรยุทธ์สำเร็จกันได้อย่างไรโล่หวินหลานก็ไม่อาจทราบได้ หรือจะเป็นเหมือนอย่างในละครที่มีการสวดต่างๆ แล้วใช้พลังภายใน เพราะพลังภายในนั้นสำคัญมาก ต้องใช้ความพยายามอย่างสูง ซึ่งนางเองก็รู้ดี

โล่หวินหลานมองดูสวินโม่อย่างตื่นเต้น ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็น แต่นางก็สามารถรับรู้ได้ว่าอากาศในห้องค่อยๆต่ำลง เหมือนมีพลังบางอย่างล่องลอยอยู่ในอากาศ ทำให้คนรู้สึกสดชื่น

"สวินโม่ทำแบบนี้ต่อไปจะไม่เป็นอันตรายต่อตนเองหรือ? ใช้พลังภายในมากก็คงไม่ดีใช่ไหม?" โล่หวินหลานดูกังวล

ตอนนี้สีหน้าของสวินโม่ไม่สู้ดีนัก อากาศก็ค่อยๆเย็นลง นางรู้สึกเหมือนมีความเย็นเลื่อนผ่านตัวไป

"สวินโม่กำลังใช้ลมปราน ซึ่งจะทำให้พลังภายในของเขาแผ่ออกมา จากนั้นอากาศโดยรอบจะเย็นตัวลง เขาพยายามส่งพลังนี้ไปยังเย่เซียวหลัว เพื่อเปิดจุดทั้งร่างกายของนาง เพียงแต่หากคนที่ลมปรานไม่มากนั้น ใช้วิธีนี้อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้" โม่ฉีหมิงอธิบายสิ่งที่สวินโม่ แววตาของเขาจับจ้องไปที่สวินโม่

โล่หวินหลานพอจะเข้าใจบ้างแล้ว พูดสั้นๆก็คือการที่สวินโม่ถ่ายทอดพลังไปยังเย่เซียวหลานเพื่อให้จุดที่ถูกปิดไว้ของนางเปิดออก ซึ่งอันตรายมาก แต่ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด

"แต่ว่า สวินโม่จะไม่ไหวแล้วนะเพคะ เราสามารถใช้วิธีอื่นได้หรือไม่?" โล่หวินหลานพูดอย่างร้อนใจ

"ไม่ทันแล้ว" โม่ฉีหมิงตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย ตอนนี้ใบหน้าของสวินโม่นั้นขาวซีด ร่างกายของเขาเหมือนกระดาษที่เบาหวิน ที่พร้อมจะปลิวไปตามแรงลม

"อ๊า?" ดล่หวินหลานเห็นหมอกควันลอยไปทางเตียง โม่ฉีหมิงกำลังท่องคาถาบางอย่าง เขากำลังถ่ายพลังของตนไปให้สวินโม่

"ท่านอ๋อง......" สวินโม่สัมผัสได้ถึงพลังงานระดับสูงส่งผ่านมายังตนเอง ไม่นานเขาก็เหมือนมีพลังขึ้นมามากมาย

ไม่คิดเลยว่าโม่ฉีหมิงจะใช้ลมปรานของตนเองนั้นเพื่อช่วยเขา

"อย่าพูดเลย เจ้าต้องตั้งสติ ห้ามวอกแวกเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะเป็นอันตรายต่อเราทั้งสอง" โม่ฉีหมิงพูดเสียงเรียบ เขาพยายามถ่ายพลังลมปรานของตนเองไปยังสวินโม่

โล่หวินหลานที่มองดูเขาสองคนส่งถ่ายพลังงานกันอยู่นั้น ในใจของนางรู้สึกหนักอึ้งเสียเหลือเกิน

เวลายังคงดำเนินต่อไป ใบหน้าของเย่เซียวหลัวที่เขียวอมม่วงนั้นค่อยๆแปลเปลี่ยนเป็นสีขาว ริมฝีปากสีม่วงก็ค่อยๆจางหายไป ไม่นานร่างกายที่ซีดเซียวเหมือนศพก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

"ท่านอ๋อง ท่านหลีกไป ข้าจะส่งกระแสจิตเพื่อนำยาพิษแกล้งตายออกมา" สวินโม่นั่งหลังตรง น้ำเสียงของเขาดูอ่อนแรงเล็กน้อย เหลืออีกก้าวเดียวเท่านั้น

หากตอนนี้พวกเขาหยุดลง ความสำเร็จก็ยิ่งยาวไกลมากขึ้น เวลาก็จะนานเกินไปและจะทำให้ทั้งสองคนบาดเจ็บได้มากขึ้น ร่างกายของเขายังสามารถอดทนได้อีกอึกใจ หากเป็นอะไรขึ้นจริงอย่างมากก็แค่ต้องฝึกฝนวรยุทธ์ใหม่ แต่โม่ฉีหมิงนั้นแตกต่างจากเขา

"กำลังภายในของเจ้าอ่อนแรง หากข้าหยุดกะทันหัน เจ้าต้องไม่ไหวแน่ อีกแค่อึดใจเดียว เจ้ากับข้าร่วมใจกันเถอะ" โม่ฉีหมิงขมวดคิ้ว แล้วถ่ายทอดพลังของเขาออกไป

พวกเขาทำด้วยความรวดเร็ว จนโล่หวินหลานเองก็มองไม่ทัน นางรู้สึกเพียงว่ามีพลังบางอย่างไหลผ่านตัวนางไป

ในอึดใจสุดท้าย สวินโม่ที่ได้รับพลังจากโม่ฉีหมิงนั้นก็ได้ถ่ายพลังไปยังเย่เซียวหลัว เพื่อให้เลือดพิษสีดำไหลออกมา

หมอกควันต่างๆในห้องหายไปด้วยความรวดเร็ว โม่ฉีหมิงดึงมือกลับ เขาขมวดคิ้วแล้วก็ไอเป็นเลือดออกมา ริมฝีปากของเขาซีดขาว

"ฉีหมิง ท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ท่านบาดเจ็บตรงไหน?" โล่หวินหลานโผเข้าหาเขาด้วยความเป็นห่วง นางมองไปตรงหน้าเขา เหตุใดจึงได้ไอออกมาเป็นเลือดได้?

"ท่านอ๋อง!"สวินโม่รีบวิ่งไปตรงหน้าของโม่ฉีหมิง ทั้งสองช่วยกันพยุงตัวเขาลุกขึ้น

"ข้าไม่เป็นไร เพียงแต่ใช้พลังภายในมากไปก็เท่านั้น ไม่เป็นอะไรหรอก" โม่ฉีหมิงพูดจบ เขาก็อาเจียนออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง

ตอนนี้ชุดของเขามีเลือดเปื้อนเต็มไปหมด โล่หวินหลานจับมือเขาแน่นด้วยความกังวล นี่มันเกิดอะไรขึ้น? พลังภายในที่ถูกใช้ไปจะกลับมาในระยะเวลาสั้นๆไหม?

โม่ฉีหมิงที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้นยังคงยืนพิงเสาอยู่ ตอนนี้เขาหน้าซีดกว่าเดิมเล็กน้อย และชุดของเขานั้นก็มีรอยเปื้อนเลือดเหมือนนาง คงเป็นเพราะตอนที่นางพยุงเข้าขึ้น ทำให้เลือดบนตัวของเขาเปื้อนใส่ชุดของนาง เขามองดูเย่กั๋วกง ที่คิดว่าโล่หวินหลานบาดเจ็บเพราะลูกสาวของตนเองด้วยความเป็นห่วง

สวินโม่ยังคงยืนอยู่อีกฝั่งด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในมือของเขาถือกล่องยา มองไปยังเย่กั๋วกงอย่างว่างเปล่า

"หมิงอ๋อง หลังจากที่หลัวเอ่อหายดีแล้ว ข้าจะไปขอบคุณน้ำใจของท่านอย่างเป็นทางการ ข้าจะหาของที่ดีที่สุดมาให้พระชายา เพื่อแสดงความจริงใจของข้า!"เย่กั๋วกงรีบพูดขึ้น

"ท่านไม่ต้องทำเช่นนั้นหรอก ตอนนี้ก็สายแล้ว พวกเรากลับก่อน นี่คือยาของคุณหนูสาม ให้คนไปซื้อตามนี้ก็พอแล้ว" โล่หวินหลานนำยาบำรุงเลือดยื่นให้เย่กั๋วกง

เย่กั๋วกงรับมาด้วยความซึ้งในน้ำใจ

"ขอรับ ข้าจะให้คนไปส่งพวกท่านเอง"

เย่กั๋วกงที่พึ่งพูดจบก็ถูกโม่ฉีหมิงปฏิเสธทันที "ไม่ต้องหรอก รถม้าของข้ามารอด้านนอกแล้ว"

โล่หวินหลานเดินไปหาโม่ฉีหมิงอย่างร้อนใจ ทำเป็นเหมือนให้เขาช่วยพยุงนาง แต่ในความเป็นจริงนั้นนางต่างหากที่เข้าไปช่วยพยุงเขา ทั้งสองเดินออกไปจากห้อง

หิมะหยุดตกแล้ว รอยเท้าของทั้งสองที่เดินอยู่บนพื้นเต็มไปด้วยหิมะดัง "ซวา ซวา" หิมะและนางคล้ายรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ช่างเป็นภาพวาดที่งดงาม

จนกระทั่งเดินไปจนถึงรถม้า สีหน้าของโล่หวินหลานก็เป็นกังวลขึ้นทันทีเพราะหน้าของโม่ฉีหมิงในตอนนี้ซีดมาก นางไม่ได้ทำหน้าเรียบเฉยเหมือนตอนอยู่ในตำหนักเย่อีกแล้ว นางบอกกับเขาด้วยความเป็นห่วง "อย่านอน ท่านอย่านอน ไม่นานเราก็จะกลับถึงตำหนักแล้ว หม่อมฉันต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยท่านได้? อย่านอน......"

เสียงเรียกของนางดังที่ข้างหูของโม่ฉีหมิง เสียงนั้นค่อยๆหายไป ใบหน้าของเขายังคงหล่อเหลา เขาอยาจะยื่นมือออกไปเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของนาง แต่ก็น่าเสียดายที่ยังไม่ทันถึงตัวนางนั้นเขาก็หมดสติไปเสียก่อน

สวินโม่เปิดรถม้า ตาของโล่หวินหลานนั้นแดงก่ำเพราะน้ำตานางพูดกับเขาเสียงนั่น "ฉีหมิงสลบไปแล้ว......"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก