ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 145

ตอนที่ 145 ค่อยๆฟื้นตัว

อากาศในค่ำคืนลงต่ำทำให้หนาวเย็น ลมได้พัดพาหิมะไปมา ต้นบ๊วยนอกหน้าต่างพริ้วไหวไปตามแรงลม ลมที่หนาวเย็นนั้นพัดหิมะขึ้นมาอยู่ท่ามกลางอากาศ จากนั้นก็ลงสู่พื้น

หลังจากที่สวินโม่ปรับสมดุลในร่างกายของเขาเรียบร้อยแล้วนั้น ก็เดินเข้าไปหาโล่หวินหลาน

"พระชายา ท่านไปทานข้าวเถอะ เดี๋ยวข้าดูแลเอง" สวินโม่พูดขึ้นอย่างเสียไม่ได้ เขานั่งมองนายทั้งสองอยู่นาน โล่หวินหลานเฝ้าดูแลท่านอ๋องมานานแล้ว

"สวินโม่ เจ้าคิดว่าท่านอ๋องจะฟื้นเมื่อไหร่?" โล่หวินหลานถามอย่างร้อนใจ เพราะต่อให้เขาเป็นลมก็ไม่ควรนอนไปนานขนาดนี้

"พระชายา เมื่อถึงเวลาท่านอ๋องก็จะฟื้นขึ้นเอง ท่านดูแลสุขภาพของตัวท่านเองด้วยจะดีกว่าจะได้มีแรงดูแลท่านอ๋อง!" แววตาของเขาโศกเศร้า

โล่หวินหลานมองดูแววตาคู่นั้น เหมือนมีเส้นบางๆกั้นความรู้สึกของเขา สวินโม่มีอะไรปิดบังนางงั้นหรือ?

"ช่วยบอกเวลาที่ชัดเจนให้แก่ข้าได้หรือไม่?"

สวินโม่นิ่งไป "ข้าก็ตอบไม่ได้ แต่ร่างกายของท่านอ๋องแข็งแรงมาโดยตลอด ไม่นานคงจะฟื้น"

"คงจะฟื้นแล้ว หมายความว่าอย่างไร? ตอบไม่ได้? สวินโม่ เจ้ามีอะไรปิดบังข้าใช่หรือไม่" โล่หวินหลานขมวดคิ้ว "เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับฉีหมิง? เจ้าไม่อยากให้ข้ารู้?"

ความสงสัยมากมายถูกถามออกมา จนสวินโม่เองถึงกับก้าวถอยหลังสองก้าว เขาอยากจะหนีจากคนตรงหน้าเหลือเกิน

"จะไม่ฟื้นขึ้นมาแล้วใช่ไหม? สูญเสียพลังภายในไปหมดแล้ว? เจ้าไม่ต้องปิดบังข้า ข้าแค่อยากรู้ว่าตอนนี้ท่านอ๋องเป็นอย่างไรก็เท่านั้น"

สวินโม่เองไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นโล่หวินหลานที่ขาดสติ

"พระชายา ข้าไม่ได้ต้องการจะปิดบังท่าน ท่านอ๋องเคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน ซึ่งเป็นการบาดเจ็บที่สาหัส และการที่ครั้งนี้เขาใช้พลังภายในไปมาก จึงทำให้ไม่ฟื้นขึ้นมาง่ายๆ เพียงแค่ผ่านช่วงเวลานี้ไปไม่นานท่านอ๋องก็จะค่อยๆฟื้นขึ้นมา" สวินโม่ก้มหน้าก้มตาพูด เขาพยายามบังคับเสียงตนเองให้นิ่งเพื่อที่จะทำให้โล่หวินหลานเชื่อในสิ่งที่พูดไป

โล่หวินหลานค่อยๆไตร่ตรองสิ่งที่เขาพูด นั่งลงบนเตียงอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ตนได้ยิน

"แต่ แต่ว่า......ท่านอ๋อง.....ตอนนี้ข้าควรทำอย่างไรดี?" โล่หวินหลานไม่สามารถควบคุมตนเองได้แล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ หัวใจของนางบีบตัวจนเจ็บไปหมด ตอนนี้นางรู้สึกเหมือนตนเองนั้นหลงป่า

"พระชายา ท่านดูแลตนเองให้ดี จากนั้นท่านถึงจะมีแรงดูแลท่านอ๋อง ท่านต้องเชื่อมั่นในตัวท่านอ๋อง" สวินโม่บอกแล้วจับที่ไหล่ของนางอย่างเบามือ

ใช่สิ ขอเพียงนางดูแลตัวเองได้ดีแล้ว นางถึงจะดูแลโม่ฉีหมิงได้ดี

"ได้" โล่หวินหลานพยักหน้า

แววตาเปร่างประกายของนางเต็มไปด้วยความเชื่อและความพยายาม เหมือนมีความหวังนับล้านฝากไว้ในตัวสวินโม่

สวินโม่พยักหน้าให้นาง แล้วพยุงนางเดินไปที่ห้องโถง

ทางด้านเย่กั๋วกงนั้นที่เฝ้าดูคุณหนูสามมาทั้งวัน เริ่มมีอาการปวดหลัง

"นายท่าน แรงประมาณนี้ดีไหมเพคะ?" ฮูหยินสี่ถามขึ้นพร้อมนวดให้เขาอย่างเอาใจ

"อื้ม ดีมาก แรงอีกหน่อย!โชคดีที่มีเจ้าอยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นข้าคงนั่งรอไม่ไหว เหนื่อยหน่อยนะ!" เย่กั๋วกงบอกพร้อมตบไปที่บ่าของนางเบาๆ

"ท่านพูดอะไรเช่นนี้เล่า? การที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับท่านทำงานเพื่อท่าน นั่นเป็นเพราะความโชคดีของข้า ครั้งนี้ท่านอย่าได้ไล่หม่อมฉันไปเลยนะเพคะ!" ฮูหยินสี่ทำเสียงออดอ้อน

ความลำบากตลอดหลายที่ผ่านมานั้นของนาง ทำให้เย่กั๋วกงถอนหายใจ หากไม่ใช่เพราะฮูหยินใหญ่ใส่ร้าย เขาคงไม่จับนางไปขังถึงสองปีหรอก

สองปีที่ผ่านมานางคงลำบากมากแน่

"ไม่มีวัน ไม่มีวัน!" เย่กั๋วกงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

การกระทำของทั้งสองนั้นฮูหยินใหญ่ได้มองเห็น นางโมโหจนเลือดขึ้นหน้า นังแพศยาคนนี้ออกมาจากการคุมขังก็มั่วยั่วสามีนางทันที ในตำหนักแห่งนี้ยังไม่มีที่ยืนของนาง!

ตอนนั้นฮูหยินสี่ก็เป็นที่รักที่สุดในบรรดาฮูหยินทั้งหลาย นางกลัวว่าจะไม่ได้เป็นฮูหยินใหญ่อีกต่อไป จึงหาข้ออ้างทำให้ฮูหยินสี่ถูกจับไปขัง คิดไม่ถึงว่าผ่านไปเพียงสองปี เย่กั๋วกงกลับปล่อยตัวนางออกมาอีก!

ช่างขัดใจนางนัก!

"ฮูหยินสี่ นังแพศยา!ออกมาก็หาเรื่องข้าทันที ข้าจะจัดการเจ้าไม่ช้าก็เร็ว!" ฟ้าดินรู้ดีว่านางจงเกลียดจงชังฮูหยินสี่มากเพียงใด แค่เห็นหน้าก็อยากคว้ามีดมาฟันสักพันแผล

"ฮูหยิน ท่านอย่ากริ้วเลย มันไม่ดีต่อร่างกาย!คุณชายใหญ่อุตส่าห์กลับมา ฮูหยินใหญ่ควรจะไปพูดคุยตามภาษาแม่ลูกกับคุณชายนะเพคะ" สาวใช้ประจำกายของฮูหยินพูดขึ้น แล้วพยุงฮูหยินไป

แม่นางซู่หลันคนนี้แผนสูงนัก ตอนนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นกับฮูหยินสี่นางก็เป็นคนคิดขึ้น ทำให้เย่กั๋วกงขังฮูหยินสี่ถึงสองปีเต็ม ตลอดสองปีที่ผ่านมานั้นฮูหยินใหญ่เองก็ไม่มีคู่ปรับ นอกจากเย่กั๋วกงแล้วในตำหนักนี้ฮูหยินใหญ่ก็มีอำนาจที่สุด แต่ว่านี้เหมือนทุกอย่างจะค่อยๆเปลี่ยนไป

"เจ้าลองพูดสิ ตอนนั้นเจ้าเป็นคนคิดแผนนี้ขึ้นมา ข้าบอกแล้วอย่างไรก็ไม่สามารถขังนางได้ตลอดชีวิต แต่เจ้ากลับบอกว่าเมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนานก็จะลืมไปเอง เจ้าดูตอนนี้สิ? ยิ่งเวลาผ่านไปเย่กั๋วกงก็ยิ่งรักนาง ถ้าวันใดนางขึ้นมาเทียบชั้นข้า เจ้าก็เตรียมตัวตายเถอะ!" ฮูหยินพูดขึ้น

ซู่หลันพยักหน้า มองฮูหยินใหญ่น้ำตาคลอ ต้องรอฮูหยินใจเย็นลงก่อนถึงจะอธิบายได้

"ฮูหยิน มันต้องมีหนทางแน่นอนเพคะ ในตำหนักแห่งนี้ท่านทรงเป็นฮูหยินใหญ่ ต่อให้ฮูหยินสี่จะร้ายกาจเพียงใดก็ไม่มีวันเทียบชั้นกับท่านได้!ยิ่งไปกว่านั้นนางก็เป็นเพียงฮูหยินที่ไม่มีที่พึ่ง" ซู่หลันพูดขึ้น

จริงสิ!ซูหลันไม่มีลูก หากไม่ใช่เพราะความสาวและความสวยของนาง เย่กั๋วกงก็คงไม่รักนางถึงเพียงนี้?

ฮูหยินใหญ่พยักหน้าด้วยความพอใจ "งั้นเจ้าก็ต้อง....."

"คุณหนูสามฟื้นแล้ว คุณหนูสามฟื้นแล้ว......" เสียงดังขึ้นมาจากในห้อง จากนั้นก็มีเสียงวิ่งไปมา ท่ามกลางค่ำคืนที่หิมะตก

แววตาของฮูหยินใหญ่เปล่งประกาย นางพยายามทำตัวให้นิ่งสงบ แล้วค่อยๆเดินเข้าไป

ทุกคนล้วนอยากรู้ว่าเย่เซียวหลัวเป็นอย่างไรบ้าง เพราะนางเป็นคนตายที่ฟื้นคืนชีพ

ซู่หลันผลักประตูเปิดออก แล้วเปิดทางให้ฮูหยินใหญ่เดินเข้าไป ทุกคนล้วนมองไปยังฮูหยินสี่และเย่กั๋วกง รวมถึงเย่เซียวหลัวที่ตอนนี้ใบหน้าซีดเซียว

"หลัวเอ่อ เจ้าฟื้นแล้ว? บอกพ่อมาสิ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?" เย่กั๋วกงพูดเสียงต่ำ

เย่เซียวหลัวเองที่พึ่งฟื้นจึงยังไม่ค่อยได้สติ นางมองได้ไม่ชัดเจนนัก เห็นเพียงคนตรงหน้าซึ่งก็คือเย่กั๋วกงและฮูหยินสี่

"ท่านพ่อ แม่สี่......ข้า ข้าเป็นอะไรไป? แต่งงาน? ยังต้องแต่งงานหรือ? ไม่ ไม่เอา......" ภาพเหตุการณ์ต่างๆแล่นขึ้นในสมองของเย่เซียวหลัว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก