ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 169

ตอนที่ 169 สังหารอย่างสะใจ

โม่ฉีหมิงมองกลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้า ทั่วทั้งตัวของพวกเขาเน่าเปื่อยไม่มีชิ้นดี ใบหน้าถูกปิดไว้ด้วยผ้าสีดำเหลือเพียงแต่ดวงตา แต่ว่าวรยุทธ์ของพวกเขาร้ายกาจมาก เดาไม่ถูกเลยว่ามีที่มาจากไหน

“พวกเจ้ามาจากไหน? ทำไมถึงบุกมายังแคว้นโม่ฉีของเรา?” โม่ฉีหมิงเสียงดุ ในตรอกนี้เขาหนักแน่นมาก มันมีความสง่าน่าเกรงขามของคนที่เป็นอ๋อง

คนพวกนั้นมองหน้ากัน ไม่มีท่าทางอะไร กำกระบี่แล้วเดินบีบเข้ามา

ดูท่าน่าจะเป็นพวกหน่วยกล้าตาย หรือไม่ก็กลุ่มนักฆ่าอาชีพ ที่มาเพื่อบรรลุเป้าหมายให้สำเร็จเท่านั้น

ด้านหน้าเป็นกลุ่มคนสกปรกที่ดำมืดกำดาบ มีแต่กลิ่นไอสังหาร บนพื้นยังมีพวกของมันที่ตายไปแล้ว คนพวกนี้ไม่ใช่คู่ปรับของเขา พวกเขากระโดดเหยียบศพของพวกเดียวกัน แล้วพุ่งกระบี่มา

จากการกระทืบเท้าเหยียบของพวกเขา มันทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ มันห่างจากโม่ฉีหมิงแค่ไม่ถึงก้าวเดียว คิดไม่ถึงเลยว่าคนพวกนี้จะมีกำลังภายในมากขนาดนี้

พวกเขาบีบเข้ามา แล้วตั้งค่ายกลขึ้น เหมือนเป็นเกราะอย่างหนึ่ง โม่ฉีหมิงเคยเห็นในตำราโบราณ ค่ายกลแบบนี้ร้ายกาจมากสามารถทำลายกำลังภายในให้ได้รับบาดเจ็บได้ พูดง่ายๆก็คือมันเป็นค่ายกลที่กินแรงมาก แต่ทำไมพวกเขาถึงได้ตั้งค่ายกลแบบนี้มารับเขาล่ะ?

โม่ฉีหมิงถูกล้อมอยู่ท่ามกลางค่ายกล รอบๆตัวเขามีแต่รอยเท้ากับร่างกายที่เดินวนไปมา เขาพยายามหาช่องเพื่อฝ่าออกไป แต่ว่าพอซัดกระบี่ออกไป ก็เหมือนจะย้อนเข้าตัวเอง จากนั้นพวกเขาก็เริ่มเดินบีบเข้ามา

“ฉีหมิง ระวังด้านซ้าย” โล่หวินหลานตะโกน

โม่ฉีหมิงขมวดคิ้ว จากนั้นก็รีบตวัดกระบี่ในมือไปทางด้านซ้ายของตัวเอง เขาได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด

โดนตัวพวกมันแล้ว เขาเงยหน้าไปมองโล่หวินหลานที่อยู่บนหลังคา นางมองเห็นทุกอย่างชัดเจน

ยังดีที่พวกเขาตั้งค่ายกลแล้ว จะแยกตัวออกไปไม่ได้ โล่หวินหลานเลยปลอดภัยดี โม่ฉีหมิงเดิมยังนิ่งแต่เพราะนางทำให้เขาเริ่มเครียด เขารู้ว่าหากพวกเขาหลุดจากตรงนี้ไปได้ จะต้องลงมือกับนางแน่นอน

“ด้านหลังสามคนบุกมาพร้อมกัน ระวัง” โล่หวินหลานรีบเตือนเขา

โม่ฉีหมิงรีบตวัดกระบี่ไปทางด้านหลัง มีอีกหลายคนบาดเจ็บ

ค่ายกลเริ่มถูกตีแตก คนพวกนั้นเริ่มจ้องไปที่โล่หวินหลานที่อยู่บนหลังคา จากนั้นก็มีธนูพุ่งไปที่หลังคา สีหน้าของโม่ฉีหมิงเปลี่ยน อยากจะพุ่งไปที่หลังคาแต่ก็ไม่ทัน เขาทำได้แค่มองธนูพุ่งไปหานาง

เสียงเหล็กปะทะดังขึ้น โล่หวินหลานจับกระเบื้องหลังคาไว้แน่น จากนั้นก็ปล่อย มีคนตัดลูกธนูขาดสองท่อนจากด้านหลัง คนคนนั้นสวมชุดสีม่วง

“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?” เวินอ๋องพูด เสียงของเขาเข้าหูของโล่หวินหลาน

เขาช่วยนางไว้อีกแล้ว โล่หวินหลานตบไปที่หน้าอกของตัวเอง นางได้สติจากอันตรายเมื่อกี้ แล้วเขยิบออกห่างจากเขา นางยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าไม่เป็นไร ขอบใจเจ้ามาก”

เวินอ๋องก็ไม่ได้ใส่ใจมาก เขาพูดว่า “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” จากนั้นก็กระโจนเข้าร่วมวงค่ายกลไป

ค่ายกลเปลี่ยนรูปแบบไปมาเป็นล้านอย่าง แต่พอไม่มีคนที่ครบถ้วนสมบูรณ์ก็จะเผยช่องโหว่ออกมามาก

วรยุทธ์ของเวินอ๋องกับโม่ฉีหมิงไม่ใช่อาจารย์คนเดียวกัน ไม่ใช่รูปแบบเดียวกัน เพลงกระบี่ก็ต่างวิชากัน แต่ว่าพอมาอยู่ด้วยกันแล้ว กลับดูสอดคล้องเข้ากันอย่างดี

พวกเขาช่วยกันสู้จนพวกนั้นพ่ายแพ้ แล้วก็ตายไป

โม่ฉีหมิงถีบคนหนึ่งกระแทกไปที่กำแพง หิมะกองลงมาทับหน้า เขาพยายามควบคุมลมหายใจในนิ่ง เพราะโล่หวินหลานยังอยู่บนหลังคา เขาไม่อยากให้นางเห็นเขาในสภาพนี้

“พูด พวกเจ้าเป็นสายของแคว้นไหน? มาที่นี่เพื่ออะไร?” โม่ฉีหมิงพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน

“ฮ่าฮ่าฮ่า ......” คนคนนั้นหัวเราะ แล้วก็มองด้วยสายตาที่น่ากลัว “โม่ฉีหมิงวันหนึ่ง แคว้นเซิ่งโจวจะเป็นแคว้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”

แคว้นเซิ่งโจว เป็นแคว้นเซิ่งโจวจริงๆ

คิดไม่ถึงว่าผ่านไปหลายปี เขายังคิดที่จะรวบรวมแผ่นดินอยู่ ไม่ว่าจะการทหารหรือว่าอำนาจก็สู้แคว้นโม่ฉีไม่ได้แต่แคว้นเซิ่งโจวยังมีความคิดแบบนี้ได้?

“พวกเจ้าวางยาพิษอะไรในเมืองของเรา?” โม่ฉีหมิงถาม

เขาถูกจับแล้ว โล่หวินหลานเห็นดังนั้นก็เลยหาทางแล้วปีนลงมาจากหลังคา

“จริงๆจะบอกพวกเจ้าก็ได้ พิษนี้ไม่มีใครถอนได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เข้าไปสู่ร่างกายก็ต้องตายแน่นอน พวกเจ้าไม่ต้องเสียเวลาหรอก? รับชะตากรรมซะ ฮ่าฮ่า โม่ฉีหมิง ......” คนคนนั้นหัวเราะอย่างสะใจ สายตาโหดเหี้ยมมาก

เวินอ๋องเดินมา แล้วหยุดตรงหน้าเขา ไม่พูดอะไรแล้วยื่นมือไปเปิดหน้าของคนคนนั้น

คนคนนั้นล้มลง

“เจ้าฆ่าเขาทำไม?” โม่ฉีหมิงถาม

เวินอ๋องยิ้มแบบไม่พอใจ “คนแบบนี้อยู่ไปก็ทรมานเปล่าๆ แล้วทำไมมีโอกาสแล้วถึงไม่ช่วยเขาหลุดพ้นล่ะ”

“เขายังไม่ได้บอกเลยว่ามันพิษอะไร แล้วพวกเขาวางยาในเมืองหลวงที่ไหน แล้วลงมือกับใครไปบ้าง เจ้าทำแบบนี้แล้วชาวบ้านจะเป็นยังไง?” โม่ฉีหมิงพูดด้วยความโกรธ

เวินอ๋องทิ้งกระบี่ แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา แล้วเช็ดรอยเลือดที่มือจนสะอาด แล้วมองไปที่ศพ “พี่สี่ อย่าพูดเหมือนกับว่าท่านจะเป็นผู้กอบกู้แคว้นโม่ฉีของเราหน่อยเลย ท่านเห็นหมอหลวงเป็นอะไร? ท่านเห็นเสด็จพ่อเป็นอะไร? ท่านจะห่วงมากเกินไปหรือเปล่า”

เขาไม่พอใจมาก เหมือนอยากจะฆ่าเขาให้ตายตอนนี้เลย

“หากชาวบ้านต้องตายแม้แต่คนเดียว ข้าจะให้เจ้าอยู่เหมือนตายคอยดู” โม่ฉีหมิงพูด

เขาจะไม่ยอมให้คนใกล้ชิด คนรัก เพื่อนต้องได้รับบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว เขาไม่ใช่ผู้กอบกู้โลก แต่ว่าคนที่เขาอยากจะปกป้อง เขาก็จะต้องทำให้ได้

“พี่สี่ ท่านเป็นห่วงเรื่องอะไรกัน? ท่านคิดจะทำอะไรข้าท่านคิดว่าข้าไม่รู้หรอ? หากท่านมีปัญญาท่านก็ใช้กระบี่ของท่านเล่มนี้สังหารข้าต่อหน้าเสด็จพ่อสิ ข้าจะไม่โทษอะไรท่านเลย” เวินอ๋องยิ้มแล้วเดินเข้าใกล้โม่ฉีหมิง เหมือนคิดจะจับกระบี่เล่มนั้นชี้มาที่ตัวเอง

แต่ว่าโม่ฉีหมิงกลับยกกระบี่จี้ไปที่เขาก่อน ความเงาแหลมคมของกระบี่ มันสามารถส่องสะท้อนเห็นเงาคนได้ กระบี่ของเขาห่างจากคอของเวินอ๋องไม่ถึงคืบ

“ฉีหมิง อย่า” โล่หวินหลานลุกขึ้นมาจากพื้น แล้ววิ่งที่หน้าเขา นางไม่กล้าแตะกระบี่เลย นางยืนอยู่ข้างๆแล้วค่อยๆกดมือของเขาลง

“เจ้ากำลังทำอะไร?” โม่ฉีหมิงวางกระบี่ลงตามที่โล่หวินต้องการ แล้วถามด้วยน้ำเสียงเข้ม

นางจับมือของเขาเอาไว้แน่น แล้วพูดกับเขาด้วยความร้อนใจว่า “เขาเป็นน้องชายของเจ้านะ หากเขาเป็นอะไรไป ฝ่าบาทไม่ปล่อยเจ้าแน่ เราไปดูเย่หวินกับฉินหยิ่นก่อนดีกว่า เรื่องยาถอนพิษเจ้าต้องเชื่อใจข้ากับสวินโม่สิ”

“เจ้ากำลังปกป้องเขาหรอ?” โม่ฉีหมิงก้มหน้าลง

น้ำเสียงของเขาดูผิดหวัง ดูเสียใจ โล่หวินหลานปวดใจ นางรู้ว่าเขากำลังเข้าใจผิดอีกแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก