ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 168

ตอนที่ 168 ตั้งใจ

เมื่อนึกถึงเรื่องในตอนนั้น โม่ฉีหมิงเพิ่งจะสิบกว่าขวบ ร่างกายพิการ ใบหน้าถูกเผาเสียหาย ต้องสวมหน้ากากไม่ออกไปพบเจอใคร แต่ในใจกลับหนักแน่นเหมือนก้อนหิน เขาไม่ได้สนใจว่ากาฬโรคร้ายกาจรุนแรงแค่ไหน เขากลับออกมาช่วยเหลือชาวบ้านพร้อมกับหมอหลวง

เมื่อศึกษาอาการมากแล้ว เขาก็เลยเขียนอาการของโรคออกมาได้อย่างละเอียด

“ข้าเข้าใจแล้ว ตอนนั้นสถานการณ์บีบบังคับจริง หลายคนต้องบ้านแตกเพราะกาฬโรค เสียภรรยาเสียลูกเสียสามี ตายกันไปเกือบครึ่งเมืองหลวง ยังดีที่เพื่อนเจ้าไม่ได้เป็นกาฬโรค ไม่งั้นไม่อยากจะคิดเลย” คนนั้นถอนหายใจ

“ถ้าอย่างนั้นอาการของสหายข้าก็ไม่เหมือนกับโรคนี้ เจ้าพอจะรู้ไหมว่าสหายข้าเป็นโรคอะไร?” โล่หวินหลานถามไปที่คนนั้น ในเมื่อไม่ใช่กาฬโรค ก็ไม่รู้ว่าเป็นพิษอะไร

คนคนนั้นขมวดคิ้ว ไม่กล้ายืนยัน “ให้สหายของเจ้ามาให้ข้าตรวจดูได้ไหม? ข้าจะลองหาวิธีดู”

อาการของด่องห้วนโล่หวินหลานรักษาจนหายแล้ว ตอนนี้พามาก็ไม่มีประโยชน์ อาจจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ว่านางหลอกลวง โล่หวินหลานพูดว่า “ร่างกายของเขาไม่ค่อยดีนัก ตอนนี้ทำได้แค่นอนอยู่บนเตียง ไปไหนไม่ได้ ถ้ายังไงเจ้าลองจัดยามาให้ข้า ข้าเอากลับไปให้เขาลองกินดู ได้ไหม?”

คนคนนั้นฟังแล้วก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร เพราะคงไม่มีใครเอาชีวิตของเพื่อนตัวเองมาล้อเล่นแบบนี้ เขาพยักหน้า “ได้ ข้าจะไปลองจัดยามาให้เจ้าดู หากได้ผล ก็แสดงว่าเป็นโรคที่ข้าคิดไว้”

เมื่อได้ยาจากร้านหยกเห๋อมาหลายตำรับ อีกทั้งยังได้ข้อมูลมาอีกนิดหน่อย พวกเขาก็ออกจากร้านยาหยงเห๋อ

แต่ว่าพอออกจากร้าน โล่หวินหลานก็รู้สึกจุกที่หน้าท้องมาก นางเอามือจับที่หน้าท้องอย่างทรมานแล้วมองไปที่โม่ฉีหมิง สายตาของนางดูโมโหและไม่พอใจมาก ทำให้เขารู้สึกกังวล “หวินหลาน เป็นอะไรไป? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

เมื่อกี้นั่งอยู่ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอลุกขึ้นมา ถูกลมหนาวพัก ทำให้ทรมาน

นางจ้องไปที่โม่ฉีหมิง แล้วกัดฟันพูดว่า “ข้า จะไป ห้องน้ำ”

หากไม่ใช่เพราะเมื่อกี้เขาให้นางดื่มน้ำ นางจะเป็นแบบนี้ไหม?

โม่ฉีหมิงอดขำไม่ได้ เขาเบาใจลง จะว่าไปเขาเองก็ทำผิดจริง เขาส่ายหน้าแล้วพูดกับเย่หวินที่อยู่ข้างๆว่า “เจ้าไปกับหวินหลาน”

รถม้าของพวกเขาจอดอยู่ที่หน้าร้านยาหยงเห๋อ โม่ฉีหมิงยืนพิงรถม้า เขาเหมือนกำลังซึมซับความเงียบ เขาจะหันไปมองดูว่าโล่หวินหลานกลับมาหรือยังเป็นระยะ

โล่หวินหลานเดินรีบร้อนมาก เย่หวินพยุงนาง ทั้งสองเดินเร็วมาก ทำให้บนหิมะมีแต่รอยเท้า

ทั้งสองคนเดินเลี้ยวไปทางถนนข้างๆ เมื่อเดินตรงไปสุดซอยจะเป็นหลังประตูร้านยา ตรงนั้นมีห้องน้ำอยู่ ถึงแม้จะไม่ค่อยเต็มใจเข้า แต่ก็ไม่มีทางเลือก โล่หวินหลานสูดหายใจแล้วเดินเข้าไป

“พระชายาท่านระวังด้วย” เย่หวินพูดอยู่ด้านนอก

ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อโล่หวินหลานออกมาจากห้องน้ำ นางไม่เห็นเย่หวินแล้ว นางเดินไปตามหารอบๆ บนหิมะมีรอยเท้าเต็มไปหมด แล้วไปหยุดที่กำแพงสุดทางเดิน

หรือว่าเย่หวินจะถูกคนจับตัวไป? แต่เมื่อกี้นางก็ไม่ได้ยินเสียงต่อสู้เลย ไม่กี่นาทีจะใครจะมีความสามารถแบบนั้นได้ ใครกันที่สามารถจับคนที่มีวรยุทธ์สูงอย่างเย่หวินไปได้แบบไม่มีร่องรอยแบบนี้?

โล่หวินหลานรีบวิ่งกลับไป เมื่อนางเห็นโม่ฉีหมิงกับฉินหยิ่นนางก็เบาใจไปมาก

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมวิ่งมาแบบนี้?” โม่ฉีหมิงสีหน้าจริงจัง แล้วรีบจับบ่าของนางเอาไว้ เหมือนรู้ตั้งเกิดอะไรขึ้นแน่นอน

โล่หวินหลานหอบแล้วพูดว่า “เย่หวิน เย่หวินหายตัวไป หายตัวไปแบบไม่มีร่องรอยเลย”

ฉินหยิ่นหน้าเสีย ไม่พูดอะไรแล้วก็วิ่งเข้าไปในซอย ไม่แม้แต่จะพูดอะไรกับโม่ฉีหมิงเลย

“เดี๋ยวข้าจะตามไปดู หวินหลาน เจ้ากลับจวนไปกับพ่อบ้านก่อนห้ามไปไหน ...... ช่างเถอะ เจ้ามากับข้าดีกว่า” โม่ฉีหมิงคิดๆดูแล้วให้โล่หวินหลานอยู่ข้างเขาน่าจะปลอดภัยกว่า จากประสบการณ์ของเขา ให้นางกลับไปสุดท้ายก็ต้องหนีออกไปทำอะไรแน่นอน ไม่สู้ให้อยู่ด้วยตอนนี้ดีกว่า

“ตรงนี้แหละ เมื่อกี้ข้าลองดูแล้ว ตรงนี้มีรอยเท้าเต็มไปหมด ทั้งใหญ่ทั้งเล็ก แต่พอมาถึงกำแพงนี่ก็หายไป” โล่หวินหลานชี้ไปที่รอยเท้า

“ท่านอ๋อง ข้าจะปีนข้ามไปดู หากเย่หวินถูกพวกนั้นจับไปจริงต้องแย่แน่” สีหน้าของฉินหยิ่นแย่มากแล้ว เขาพูดอย่างร้อนใจ

โม่ฉีหมิงพยักหน้า เรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน จะตัดพวกนั้นออกไปไม่ได้ หากไม่สามารถเร็วกว่าพวกเขาได้ เย่หวินก็จะกลายเป็นหนูทดลองอีกคนหนึ่ง

“เราเดินอ้อมไปดูที่ตรอกครั้งที่แล้วกัน” โม่ฉีหมิงมองไปที่ฉินหยิ่นที่ปีนข้ามไปบนกำแพงแล้ว เขาวรยุทธ์แข็งแกร่ง อีกทั้งช่วยคนเป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องใช้แรงมากขึ้นแน่

รอยเท้าบนหิมะมีไม่กี่คน แสดงว่าเป้าหมายของพวกเขาน่าจะเป็นคนนอก บังเอิญเย่หวินกับโล่หวินหลานไม่ใช่คนที่ตรอกนี่ เลยกลายเป็นเป้าหมายของพวกเขา พวกเขายังบรรลุเป้าหมายคงไม่เลิกรา ไม่ว่าใครก็ตามที่ตกอยู่ในมือของพวกเขา ก็จะถูกพิษทันที

ทั้งคู่ขึ้นรถม้าไป พ่อบ้านรีบบังคับม้าไปอย่างรวดเร็ว โม่ฉีหมิงเปิดม่านออก แล้วพยายามมองหาร่องรอยของเย่หวิน แต่ว่ารถม้าวิ่งแต่ถนนใหญ่ มองไม่เห็นเงาของเย่หวินเลย มองไปครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงร้องขายของของร้านค้าต่างๆ

“ข้าไม่เป็นไร ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก คิดว่าพวกเขาน่าจะเตรียมตัวมาอย่างดี ใช้ที่นี่เป็นฐานลับ เมื่อมีคนเข้ามา ก็จะถูกพวกเขาโจมตีราวกับเป็นศัตรู” โม่ฉีหมิงวิเคราะห์

“ถ้างั้นเราก็เข้าไปไม่ได้แล้วสิ” โล่หวินหลานขมวดคิ้วถาม หากพวกเขาเข้าไปไม่ได้ จะช่วยเย่หวินได้ยังไง?

“การที่พวกเขารวมตัวกันอยู่ที่นี่มันมีประโยชน์ต่อเรามาก เราสามารถกำจัดพวกมันซะทีเดียว ลดต้นต่อของพิษได้ส่วนหนึ่ง ก็จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้บางส่วน” โม่ฉีหมิงยิ้ม

มันก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีโล่หวินหลานมองไปที่ด้านล่าง ตอนนี้พวกเขาจะต้องกำลังมองหาพวกเขาแน่ๆ

“แต่ว่าเราจะกำจัดพวกเขาด้วยวิธีไหนล่ะ?” โล่หวินหลานคิด

“มีหลายวิธีเลย” โม่ฉีหมิงยิ้ม เขาหันไปกำชับโล่หวินหลานว่า “เจ้ารออยู่บนนี้นะ ข้าจะลงไปดูว่าเย่หวินอยู่นี่หรือเปล่า อย่าดื้อนะ”

จะทิ้งนางไว้คนเดียวอีกแล้ว โล่หวินหลานกำลังจะลุกตาม แต่ว่าเขาดันตัวนางให้นั่งลง เขาจริงจังมาก “อย่าดื้อ เจ้าอยู่บนนี้ข้าจะได้เบาใจ ไม่งั้นข้าไม่มีสมาธิ”

เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ โล่หวินหลานก็ไม่ดื้ออีก เพราะเหตุการณ์เมื่อกี้ ทำให้รู้ว่าคนพวกนั้นเหี้ยมโหดมาก นางไม่มีวรยุทธ์ เข็มพิษก็ไม่ได้พกมา ลงไปก็ทำให้โม่ฉีหมิงวุ่นวายเปล่าๆ

“เจ้าไปเถอะ ระวังตัวด้วยนะ” โล่หวินหลานพยักหน้า เพื่อบอกเขาว่านางจะอยู่บนนี้ให้เขาวางใจ

พูดจบ พริบตาเดียวก็ได้ยินเสียงอาวุธปะทะกัน แล้วก็ได้ยินเสียงพุ่งยิงของธนูเป็นระยะดังขึ้นมาด้านบนหลังคา

“อย่าขยับไปไหน ข้าจะลงไปดู” โม่ฉีหมิงหันตัวกระโดดลงมา

ด้านล่างวุ่นวายมาก ฉินหยิ่นถือกระบี่สู้กับอีกสิบกว่าคน พวกเขาบาดเจ็บหนักจนถอยหลัง จากนั้นก็รีบลุกขึ้นมาสู้กับเขาอีก

โม่ฉีหมิงกระโดดลงมา ขมวดคิ้ว แล้วพูดกับฉินหยิ่นว่า “ไปช่วยเย่หวิน ข้าจัดการพวกเขาเอง”

ฉินหยิ่นตกใจมากที่เห็นโม่ฉีหมิง เมื่อกี้เขาตามชายชุดดำมา แล้วถูกล่อมาที่นี่ เมื่อเข้ามาในนี้กลับไม่พบเย่หวิน จากนั้นก็ถูกพวกเขาล้อมเอาไว้ อยากจะฝ่าออกไปแต่ก็ถูกพวกเขาล้อมตาย

“ได้ ที่นี่ฝากท่านด้วย” ฉินหยิ่นพยักหน้า แล้วก็ลอยตัวออกไปด้วยกำลังภายใน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก