ตอนที่181ฟังเสียงลม
บรรยากาศเงียบสงัด ทุกคนต่างก็ก้าวถอยหลัง
มีบางคนที่รู้ว่าองค์รัชทายาทคือใคร แต่ก็ไม่กล้าที่จะก้าวไปด้านหน้า พวกเขาต่างก็รู้ดีว่าเหตุการณ์คราวที่แล้วในร้านค้า คนคนเดียวกัน สถานที่เดียวกัน สุดท้ายคนที่ออกตัวเข้าไปช่วยแม่นางจิ่นชื่อก็คือองค์รัชทายาท เป็นเพียงแค่หญิงงามแห่งยองเชียงโหล แต่กลับให้องค์รัชทายาทออกตัวช่วยหลายต่อหลายครั้ง
ทุกคนต่างก็รู้สึกไม่ดีนัก
แววตาขององค์รัชทายาทนั้นคล้ายกับน้ำที่เย็นยะเยือก เขาค่อยๆเดินไปด้านหน้าของชายรูปร่างกำยำนั่น สายตาจับจ้องไปที่มือทั้งสองของเขา ในขณะนั้นเองตัวของชายรูปร่างกำยำนั้นก็สั่นเทาอย่างมิอาจควบคุมได้
"ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าน้อยไม่รู้ว่าแม่นางจิ่นชื่อคือผู้หญิงของท่าน ไว้ชีวิตข้าน้อยเถอะ!" ชายคนนั้นร้องอ้อนวอนให้เขาไว้ชีวิต
"ช้าไปเสียแล้ว" องค์รัชทายาทพูดเสียงเรียบ หลังจากที่เขาดึงดาบออกจากด้านหลัง เพียงแค่เขากระตุกมือเล็กน้อย ดาบของเขาก็สามารถฟันไปที่แขนนั้นให้หลุดทันที
ในเวลาที่คับขันเช่นนี้ แม่นางจิ่นชื่อก็รีบเข้าไปห้ามองค์รัชทายาท นางอ่อนแรงจนล้มลงกับพื้น "องค์รัชทายาท หม่อมฉันไม่เป็นอะไรเพคะ ท่านอย่าทำให้เรื่องมันใหญ่เลย พวกเราไปกันเถอะเพคะ!"
ร่างกายที่อ่อนแรงของนางนั้นซบลงที่ตัวขอองค์รัชทายาท นางรับรู้ได้ว่าบัดนี้ความโกรธของเขาค่อยๆลดลงแล้ว มือที่จับมือใหญ่นั่นก็ค่อยๆคลายลง สายตาที่มองมายังนางก็อ่อนโยนขึ้น
"ไปกันเถอะเพคะ องค์รัชทายาท ไม่นานนี้หม่อมฉันได้ชาใหม่มา หม่อมฉันว่าเราไปดื่มชากันเถอะเพคะ" จิ่นชื่อพูดขึ้นพร้อมควงแขนขององค์รัชทายาท จากนั้นก็ค่อยๆพาเขาเดินออกมาจากร้านค้านั่น
ชายคนนั้นยังคงคำนับขอบคุณที่นางช่วยชีวิตเขาไม่หยุด
องค์รัชทายาทเองก็ไม่อยากทำให้เรื่องใหญ่โตต่อหน้าประชาชน ยิ่งเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากนางด้วยแล้วนั้น หากฮ่องเต้รับรู้คงไม่ดีแน่
เมื่อเดินออกมาจากร้านค้าแห่งนั้น หิมะขาวบริสุทธิ์ก็พัดปลิวมาบนตัวของพวกเขา องค์รัชทายาทค่อยๆเดินไป แม่นางจิ่นชื่อเองก็ยังคงจับที่แขนของเขาแน่ องค์รัชทายาทไม่กล่าวสิ่งใด ก็คลายมือของนางทิ้ง จากนั้นก็เดินนำหน้าไป
"องค์รัชทายาท ท่านจะเสด็จไปไหนเพคะ?" จิ่นชื่อถามด้วยความไม่เข้าใจ แววตาของนางนั้นช่างทำให้คนที่มองอยู่ปวดใจยิ่งนัก
"กลับตำหนัก เจ้าเองก็กลับไปเถอะ!" องค์รัชทายาทตอบโดยไม่แม้แต่หันไปมองหน้า
แม่นางจิ่นชื่อเดินตามไปเพียงสองก้าว จากนั้นก็ไม่ได้ตามเขาไปอีกเลย หิมะยังคงร่วงหล่นลงมา ใบหน้าของนางตอนนี้ช่างซีดเซียวนัก
มองดูแผ่นหลังของเขาที่ไกลออกไป แม่นางจิ่นชื่อก็คลายยิ้มที่แฝงด้วยความเศร้าออกมา ท่ามกลางหิมะนี้นางช่างรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวเหลือเกิน
ระหว่างทางที่นางเดินกลับไปนั้น สองข้างทางก็ไม่มีผู้คนมากมายดั่งเช่นเมื่อครู่ มีเพียงหิมะที่ตกลงมาไม่หยุด หิมะสีขาวนั้นตกลงบนผมสีดำสนิทของนาง ใบหน้าที่งดงามนั้น ไม่อาจเดาได้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่
นางรู้สึกว่าตนเองไม่อาจคาดเดาความคิดและความรู้สึกขององค์รัชทายาทได้ ในเมื่อเขาไม่ได้รักนาง เหตุใดถึงต้องเข้ามาช่วยนางทุกครั้งไป ทุกครั้งที่นางถูกทำร้ายเหตุใดเขาต้องเข้ามาช่วย? คำถามมากมายพลั่งพรูออกมา
นางเดินไปเรื่อยๆจนไม่ทันสังเกตว่ามีเงาของชายร่างท้วมสองคนเดินตามมาอยู่
หนึ่งในนั้นคือชายคนที่ลวนลามนางจนเกือบที่จะถูกองค์รัชทายาทฟันแขน ชายคนนั้นพูดขึ้น "เรื่องที่เจ้าสั่งให้ข้าทำ ข้าทำสำเร็จแล้ว ไหนล่ะค่าตอบแทนของข้า?"
จิ่นชื่อดึงสติตนเองกลับมา นางพึ่งเห็นสองคนนั้น
ชายสองคนนี้คือคนที่นางหามา เพื่อให้มาตบตาองค์รัชทายาท และนางตั้งใจหาคนเช่นนี้มา เพื่อทดสอบความรักที่องค์รัชทายาทมีต่อนาง
"สิบตำลึงใช่หรือไม่? เอาไป" จิ่นชื่อนำเงินสิบตำรึงออกมาจากถุงผ้า จากนั้นก็โยนให้เขา เพื่อที่จะรีบจบเรื่องนี้เสียที
หลังจากที่ชายร่างท้วมนั้นได้รับเงินจากจิ่นชื่อสิบตำลึง เขาก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก แล้วพูดขึ้น "แม่นางจิ่นชื่อ สิบตำลึงมันน้อยไป!ต้องยี่สิบตำลึง เพราะแม่นาง ข้าเกือบที่จะถูกองค์รัชทายาทนั่นตัดแขนเป็นสองท่อนเสียแล้ว แม่นางต้องให้ข้าเพิ่ม?"
รอยยิ้มที่น่ารังเกียจบนใบหน้านั้นเผยออกมา จิ่นชื่อเองก็ไม่อยากพูดคุยกับเขาต่อ จึงเอาเงินออกมาอีกสิบตำลึง จากนั้นก็เอาให้ชายสองคนนั่น เงินนี้ไม่ได้สำคัญอะไรกับนางมากมาย สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการปิดปากชายสองคนนี้ต่างหาก
"ฮ่าๆ ขอบใจแม่นางมาก" ชายที่รับเงินนั้นยิ้มด้วยความดีใจ
"ลุกขึ้น เจ้ามานั่งตรงนี้!" เย่ฮองเฮาพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
นางกำนัลด้านนอกก็รีบยกน้ำชาเข้ามา กลิ่นหอมอ่อนๆของชาคละคลุ้ง ด้านในห้องโถงนี้ช่างอุ่นเหลือเกิน
"ฉีหมิง เจ้าไม่ได้มาที่ตำหนักนี้นานเหลือเกิน ลองดื่มชานี้ดูสิ ว่าเจ้าชอบหรือเปล่า หากชื่นชอบแม่จะรับสั่งให้นางกำนัลจัดเตรียมไว้ให้เจ้าเอากลับไปที่ตำหนัก เพื่อให้ทุกคนลองชิมดู" เย่ฮองเฮาพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น คล้ายเป็นฮองเฮาที่ดี
โม่ฉีหมิงไม่ได้ต้องการที่จะสู้กับนางซึ่งๆหน้าอยู่แล้ว ที่มาพบนางวันนี้ก็เพียงเพราะอยากทราบข่าวบางอย่างก็เพียงเท่านั้น
"หม่อมฉันผิดไปแล้ว ที่ไม่ได้มาเยี่ยมท่าน วันนี้หม่อมฉันมาที่นี่ก็เพราะช่วงนี้หม่อมฉันเริ่มที่จะจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้องค์รัชทายาทเองก็หายาถอนพิษมาได้แล้ว หม่อมฉันก็รู้สึกสบายใจ วันนี้เข้ามาในวังหลวงจึงมีเวลาว่าง เลยเข้ามาเยี่ยมท่าน" โม่ฉีหมิงเองก็พูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มอ่อนๆ
หากตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูดแล้วนั้น ก็สามารถรู้ได้เลยว่ามีการประชดประชันอยู่ เย่ฮองเฮาก็ไม่กล้าที่จะเชื่อทุกอย่างที่เขาเอ่ยออกมา
"ก็จริง ช่วงนี้ในวังหลวงมีเรื่องมากมาย แต่อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องพักผ่อนให้มาก ต้องดูแลตนเองให้ดี!" เย่ฮองเฮาพูดด้วยรอยยิ้มที่อาบยาพิษ
"ขอบพระทัยเพคะ หม่อมฉันจะปฏิบัติตามแต่โดยดี แต่ไม่ว่าหม่อมฉันจะขยันหมั่นเพียรเพียงใดก็มิอาจสู้องค์รัชทายาทได้ หากหม่อมฉันเก่งได้สักครึ่งหนึ่งขององค์รัชทายาท ท่านพ่อคงเห็นค่าในตัวหม่อมฉัน " โม่ฉีหมิงพูดอย่างถ่อมตน
"เจ้าเองก็มีความสามารถ ทุกครั้งที่ฮ่องเต้มาที่ตำหนักนี้ต่างก็เอ่ยถึงเจ้า เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้เองก็รักและเอ็นดูเจ้าไม่แพ้องค์ชายคนอื่นๆ" เย่ฮองเฮาเมื่อได้ยินคนอื่นชมบุตรชายของตนนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มด้วยความดีใจ
"ท่านแม่ วันนี้องค์รัชทายาทไม่ได้มาพบท่านหรือ?" โม่ฉีหมิงถามขึ้น จากนั้นก็มองไปทั่วห้อง แต่ก็ไม่พบองค์รัชทายาท
"องค์รัชทายาทมีเรื่องมากมายให้ต้องจัดการ แม่เลยรับสั่งให้เขาไม่ต้องมาทุกวันก็เท่านั้น หากว่างวันใดก็มาเยี่ยมแม่วันนั้นก็พอ" เย่ฮองเฮาตอบกลับ ซึ่งความหมายของนางที่แฝงไว้ก็คือการที่องค์รัชทายาทไม่ได้มาเยี่ยมนางนั้น เพราะฮ่องเต้ทรงรับสั่งให้ทำงานราชการแทน แต่โม่ฉีหมิงที่มีเวลามาเยี่ยมนางนั้น ก็เพราะฮ่องเต้ไม่เห็นค่า จึงมีเวลาว่าง
องค์รัชทายาทไปไหนกันแน่นะ แม้แต่ตัวนางเองก็คงไม่ทราบ โม่ฉีหมิงมองดูเย่ฮองเฮาที่พูดจาเย้ยเหยินเขาอยู่ ก็รีบพูดขึ้นต่อ
"ถ้าเป็นเช่นนี้ ท่านแม่ก็พักผ่อนนะเพคะ หม่อมฉันขอทูลลา" เย่ฮองเฮาเองในใจก็อยากจะไล่เขาไปเหลือเกิน เมื่อได้ยินเขาพูดขึ้นเช่นนั้น ก็รีบบอกให้นางกำนัลมาส่งเขากลับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก