ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 185

ตอนที่185 ใจสามัคคี

หิมะขาวโพรนด้านนอกยังคงตกลงมาไม่ขาดสาย เกล็ดหิมะลอยพริ้วมายังขนตายาว ที่คล้ายกับปีกของผีเสื้อ

โล่หวินหลานนั่งลง จากนั้นก็หยิบถ้วยเซรามิกสีฟ้าครามเอาไว้ในมือ นางเปิดฝาของถ้วยออก กลิ่นหอมลอยฟรุ้ง จากนั้นก็หยิบช้อนแล้วตักรังนกกิน ทำให้โม่ฉีหมิงถึงกับกระตุกยิ้มมุมปาก

ตอนนี้เขารับรู้บางอย่าง ทุกครั้งที่สามารถให้โล่หวินหลานทำในสิ่งที่นางไม่ชอบใจ เขาจะรู้สึกคล้ายว่าตนเองประสบความสำเร็จ เพราะการที่เฝ้ามองนางทำตามสิ่งที่เขาต้องการนั้น เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย

“หากวันนี้ไม่ได้ออกมาเดินตลาด หม่อมฉันคงมิอาจรู้ได้ว่าหมิงอ๋องและหมิงอ๋องหวังเฟยรักกันมากเพียงใด ช่างเป็นความรักที่น่าอิจฉา จริงไหมเพคะองค์รัชทายาท?’ จิ่นชื่อพูดเสียงอ่อนคล้ายกำลังถอนหายใจ ทางด้านองค์รัชทายาทที่ได้ยินดังนั้น ก็เจ็บปวดราวกับมีมีดมากรีดที่หัวใจ

เหตุใดสิ่งที่ไม่อยากเห็นที่สุด ไม่ต้องการที่จะพบเจอที่สุด กลับฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

มือของเขาค่อยๆกำเป็นหมัดแน่น เส้นเลือดตรงหน้าผากค่อยๆเห็นชัดขึ้น สองมือกำแน่นโดยไม่ทันรู้ตัว แม้ว่าตอนนี้เล็บยาวของเขาจะจิกเข้าในฝ่ามือ แต่กลับไม่ได้สนใจ

“วันนี้น้องสี่และน้องสะใภ้มารักษาชาวบ้านด้านนอกตำหนัก แต่พี่ชายอย่างข้ากลับไม่รู้ จิ่นชื่อ หากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าเองก็คงไม่มาถึงที่นี่” องค์รัชทายาทพูดขึ้น

มุมกำแพงอีกด้าน มีเงาของร่างสูงและร่างเล็กยืนเอาไว้ ชุดโทนมืดทำให้พวกเขาดูกลืนเข้ากับสีของกำแพง ทำให้มองไม่เห็นพวกเขา

จิ่นชื่อขมวดคิ้วเป็นปม สองมือจับกำแพงเอาไว้อย่างเสียไม่ได้ ตอนนี้ความรู้สึกของนางเต็มไปด้วยความไม่พอใจและอิจฉา

หากไตร่ตรองในสิ่งที่เขาพูด คำพูดที่ว่าหากไม่ใช่เพราะนาง เขาคงไม่มาที่นี่?

หรือว่าเขามองออกแต่แรกแล้ว?

สีหน้าของนางเปลี่ยนไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้ม ” ได้ข่าวว่าหวังเฟยเป็นหมอเทวดา หม่อมฉันเองก็อยากให้นางจับดูชีพจรให้เสียหน่อย เนื่องด้วยช่วงนี้หม่อมฉันกินอะไรก็ไม่อร่อย อีกทั้งยังชอบเวียนหัวอีกด้วย”

เมื่อพูดจบนางก็จับที่ขมับของตนเอง ราวกับว่าตนเองรู้สึกเวียนหัว ใบหน้างดงามนั้น ทำให้คนที่มองดูรู้สึกน่าทะนุถนอมยิ่งนัก

เพียงแต่ คนข้างกายของนางนั้นยืนนิ่งไม่ขยับ

“เจ้าพาข้ามาที่นี่ คงไม่ได้ต้องการให้ข้ามาหาหมอเป็นเพื่อนเจ้าใช่หรือไม่?” องค์รัชทายาทถามอย่างเหลืออด

จิ่นชื่อส่ายหน้า”ไม่ใช่มาเป็นเพื่อนหม่อมฉัน แต่เราสองคนไปพบนางด้วยกันต่างหาก”

แววตาของนางตอนนี้เต็มไปด้วยความลนลาน อีกทั้งน้ำตาก็เริ่มคลอเบ้าแล้วเช่นกัน ใช่ นางตั้งใจที่ถามเช่นนั้น นางตั้งใจพาเขามาที่นี่ นางตั้งใจบอกว่าตนเองรู้สึกไม่สบาย แต่นั่นก็เพราะว่านางอยากรู้ว่าองค์รัชทายาทจะแสดงอาการเช่นไรก็เท่านั้น

และทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามที่นางคิด องค์รัชทายาทมีสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นก็หันหลังกลับ”ข้าไม่อยากไป”

จิ่นชื่อหลบตาลงต่ำ นางกัดริมฝีปากแน่น แล้วเดินไปตรงหน้าเขา”องค์รัชทายาท ไม่ไปที่นี่ก็ได้เพคะ เช่นนั้นท่านพาหม่อมฉันไปโรงหมออื่นได้หรือไม่?”

แต่คำตอบที่นางได้รับ มีเพียงชุดสีม่วงดำเข้มของเขาที่โบกสะบัดไปตามแรงลม ในทุกย่างก้าวของเขา ที่กำลังห่างออกไปเรื่อยๆ นางทำได้เพียงพยายามที่จะวิ่งตามไป แต่แผ่นหลังนั้นก็ไกลออกไป

ชายหนุ่มทุกคนในเมืองนี้ต่างทะนุถนอมนางดั่งไข่ในหิน เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของยองเชียงโหลว รูปร่างหน้าต่างของนางก็งดงามหาที่ติไม่ได้ ไม่ว่านางต้องการชายใด ขอเพียงกระดิกนิ้วชายที่ต้องการก็จะมาหานางแต่โดยดี

แต่ว่า องค์รัชทายาทกลับเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของนาง เขาเอาความเย่อหยิ่งทระนงตนของนางไปจนหมดสิ้น

หลังจากที่นางตามเขาไปไม่กี่ก้าว เขาก็หยุดลง แล้วหันกลับมา

“ข้าจะกลับตำหนักแล้ว เจ้าไม่ต้องตามข้ามา หากต้องการจะไปโรงหมอข้าจะสั่งบ่าวรับใช้ไปเป็นเพื่อนเจ้าเอง" องค์รัชทายาทพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแล้วเดินจากไป โดยไม่รอฟังคำตอบจากนาง

ครั้งนี้ จิ่นชื่อไม่ได้วิ่งตามต่อ นางยื่นมือจับใบหน้าของตนเอง ตอนนี้นางไม่อาจห้ามน้ำตาที่ไหลรินลงมาได้

"ท่านแม่ ท่านแม่ตื่นแล้วหรือ? ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?" เสียงดีใจของหนุ่มน้อยดังขึ้น

ทุกคนในตลาดต่างก็ลุกขึ้นยืน แล้วมองมาที่ซุ้มด้วยความตกใจ คล้ายกับมีปฏิหาริย์เกิดขึ้น

โล่หวินหลานเมื่อได้เห็นเช่นนั้น ก็มองสบตากับโม่ฉีหมิง นางวางช้อนในมือลง แล้วเดินไปที่ซุ้ม

ตอนนี้แม่ของเด็กหนุ่มคนนั้นกำลังลุกนั่งอยู่บนเตียงแล้ว ถึงแม้ว่าใบหน้าของนางจะไม่ได้สดใสเลือดฝาดเหมือนคนปกติ แต่ก็ไม่ซีดจนน่ากลัวเหมือนตอนแรกแล้ว นางมองด้วยความแปลกใจแล้วจับผ้าพันแผลที่ตัว "ลูก นี่......นี่คือหมอท่านใด ช่วยชีวิตแม่เอาไว้หรือ?"

เด็กหนุ่มร้องไห้และเช็ดน้ำตาของตนเองจากนั้นก็โผเข้ากอดผู้เป็นแม่ ความรู้สึกมากมายพรั่งพรูออกมา ทั้งกลัวที่จะเสียแม่ไปและดีใจที่แม่หายป่วย ตอนนี้เขาไม่อาจพูดสิ่งใดได้

นางยื่นหอบผ้านั่นให้สองแม่ลูก พวกเขารับมาด้วยความดีใจ เด็กหนุ่มอุ้มหอบผ้านั้นแล้วเดินออกจากซุ้ม ตอนที่พวกเขาเดินออกไปนั้น ทุกสายตาต่างก็จับจ้องมา

"ดูสิๆๆ นางหายแล้ว และยังเดินได้อีกด้วย ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!”

ชาวบ้านอีกคนพูดขึ้น “ข้าบอกแล้ว ว่าหมิงอ๋องหวังเฟยเป็นหมอเทวดา ไม่ว่าอย่างไรนางก็สามารถรักษาแม่นางคนนั้นได้ มันไม่ใช่เรื่องยากเลย?"

อีกคนก็พูดขึ้นเช่นกัน “หมิงอ๋องหวังเฟยเป็นหมอเทวดา ข้าจะให้นางรักษาข้า ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรข้าก็ยอม!”

คำพูดนี้ คือคำพูดในใจของใครหลายๆคน ที่พวกเขาดั้นด้นมาถึงที่นี่ ก็เพื่อที่จะให้โล่หวินหลานรักษาอาการป่วยของตนเอง แล้ววันนี้พวกเขาก็ได้เห็นความสามารถของนางด้วยตนเอง นางไม่เพียงแต่รักษาคนป่วย แต่ยังมอบของให้ด้วย ใต้ฟ้านี้จะมีเรื่องดีๆแบบนี้ที่ไหนอีก!

ความเงียบสงบของหิมะ ชาวบ้านมากมายเดินมาทางโล่หวินหลาน พวกเขาล้วนแต่เป็นคนที่ป่วย ในใจก็ไม่อยากที่จะทิ้งโอกาสตรงหน้าไป

เมื่อเห็นชาวบ้านเดินมาทางโล่หวินหลานไม่หยุด โม่ฉีหมิงก็มีใบหน้านิ่ง เขามองไปที่ฉินหยิ่น แล้วสั่งให้เขากันคนพวกนั้นไปให้ไกลจากโล่หวินหลาน

ชาวบ้านไม่หยุดที่จะเข้าหาโล่หวินหลาน นางไม่คิดเลยว่าที่นี่จะมีคนป่วยมากถึงเพียงนี้

"ทุกคนอย่าเบียดมาอีกเลย!” นางลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้ แล้วร้องตะโกนขึ้น

เสียงใสของนางร้องตะโกน ถึงแม้ว่าจะไม่ดังมาก แต่ก็ทำให้ทุกคนยืนนิ่ง แล้วหันมามองที่นาง

"วันนี้ที่ข้าออกมารักษาก็เพื่อที่จะช่วยพวกท่านทั้งหลายจากโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะไม่มีวันทิ้งพวกเจ้าไป ทุกคนมีโอกาสที่จะรักษากับข้าเท่ากัน ดังนั้นอย่าเบียดเสียดกันอีกเลย ไม่เช่นนั้น ใครก็ไม่ต้องหวังที่จะมีโอกาสมาให้ข้ารักษา" โล่หวินหลานพูดเสียงเรียบ ในสายตาของชาวบ้านนั้น ตอนนี้นางไม่ต่างกับเทพธิดาบนฟ้าแม้แต่น้อย

นางยืนอยู่บนที่สูง ทุกสายตาเงยหน้าขึ้นมองนาง เสียงใสดังก้องในหูของทุกคน พวกเขายืนนิ่งไปสักพัก จากนั้นก็รีบถอยหลังกรู

ชาวบ้านพวกนั้นก็คล้ายกับสาวกของนาง ทุกคนล้วนมองมาที่นางดั่งมองเทพธิดา และเชื่อฟังคำพูดของนางเป็นอย่างดี

ทางด้านโม่ฉีหมิงนั้น สีหน้าไม่ดีนัก โดยเฉพาะสายตาคู่นั้น ที่ไม่อาจอ่านออกว่าคิดสิ่งใดอยู่

"ข้าจะแจกจ่ายยาให้พวกท่านก่อน หากไม่มีโอกาสในการรักษา แต่อย่างน้อยพวกท่านทุกคนก็จะมีอาการดีขึ้น พวกท่านต้องต่อแถวให้ดี แล้วมารับ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก