ตอนที่186 คำท้าทาย
ผู้คนมากมายเดินกันขวักไขว่ ชาวบ้านต่างทำตามสิ่งที่หวิงเฟยพูด พวกเขาเข้าแถวรอรับยากันอย่างเชื่อฟัง ปากต่อปาก จนชาวบ้านชวนกันมาที่นี่มากมาย การแจกยาและสมุนไพรในครั้งนี้ แจกกันจนพลบค่ำกว่าจะหมด
โล่หวินหลานที่ตอนนี้เหนื่อยมากทำได้เพียงยืนพิงไหล่ของโม่ฉีหมิง สองเท้าของนางรู้สึกอ่อนแรง นางไม่อายที่ตอนนี้ยืนพิงเขาแม้แต่น้อย
"ยืนดีๆ" โม่ฉีหมิงบอก จากนั้นก็ยืนนิ่ง
โล่หวินหลานยืนตรงด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย แล้วหันไปมองค้อนใส่เขา ทำไมถึงไม่ให้เธอพิง?
"ตอนนี้เหนื่อยแล้วหรอ? บอกตั้งนานแล้วว่าให้เจ้ากลับไปพัก นั่งนี่สิ" โม่ฉีหมิงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นก็เทน้ำให้นาง "ดื่มสะ แล้วกลับตำหนักกัน"
มองดูน้ำในแก้วนั้น โล่หวินหลานพึ่งนึกได้ว่าวันนี้ตนเองไม่ได้ดื่มน้ำเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้นางเองก็เริ่มรู้สึกคอแห้งแล้ว คล้ายกับเดินอยู่กลางทะเลทราย
นางรีบยกน้ำขึ้นดื่ม ตอนนี้รู้สึกชุ่มคอมาก
"ขอแค่ชาวบ้านทุกคนได้ยาไปหม่อมฉันก็ดีใจแล้ว หม่อมฉันกลัวเหลือเกินว่าพิษนั้นจะทำให้ทุกคนล้มป่วย ตอนนี้เราต้องหาให้เจอว่าคนจากแคว้นเซิ่งโจวนำยาพิษไปซ่อนไว้ที่ใด" โล่หวินหลานพูดขึ้น
"เรื่องนี้ ข้าจะสืบให้กระจ่างเอง" โม่ฉีหมิงบอกแล้วมองไปไกล
สาวใช้กำลังเก็บของ ยาและสมุนไพรที่เตรียมมานำก็ได้แจกจ่ายชาวบ้านไปจนหมดแล้ว โดยเฉพาะยาถอนพิษที่สวินโม่คิดสูตรขึ้นมา หมดไปด้วยความรวดเร็ว ส่วนสมุนไพรตัวอ่านนั้นที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิแก้ลมหนาว ร้อนใน ก็แจกไปจนหมดแล้วเช่นกัน
พวกเขาเก็บข้าวของจนเรียบร้อย จากนั้นก็นำเงินไปมอบให้กับร้านยาหรงเห่อเพื่อแสดงความขอบคุณ จนเฒ่าแก่นั้นยิ้มไม่หุบ พื้นหิมะที่ขาวโพรนนั้นเต็มไปด้วยรอยเท้า แต่ไม่นานก็โดนหิมะที่ตกลงมากลบจนหมด
"ท่านอ๋องเพคะ เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วเพคะ" เย่หวินที่เดินมาจากรถม้าพูดขึ้น จากนั้นก็ชี้ไปที่รถม้าทั้งสองคันที่เตรียมพร้อมไว้
"กลับกันเถอะ !” โม่ฉีหมิงยื่นมือไปโอบแขนโล่หวินหลานเอาไว้ ถึงแม้ว่านางจะสวมเสื้อคลุมตัวหนา แต่นางก็ยังดูบอบบางและน่าทะนุถนอมเหลือเกิน เขาขมวดคิ้ว เหตุใดไม่ว่าเขาจะเลี้ยงดูนางอย่างไรนางก็ยังตัวเล็กเช่นนี้
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงของใครบางคนดังขึ้น “พี่สี่ พี่สะใภ้ พวกท่านจะกลับแล้วหรือ? หม่อมฉันว่าจะมาดูพวกท่านรักษาชาวบ้านเสียหน่อย เพื่อจะได้เรียนรู้บ้าง"
เสียงที่คุ้นหูดังขึ้น โล่หวินหลานที่กำลังจะหันหน้าไปนั้น ก็ถูกคนที่โอบไหล่อยู่กดไว้แน่น ความสูงของโม่ฉีหมิงและวินว๋องนั้นใกล้เคียงกันมาก แต่สถานการณ์ของพวกเขาทั้งคู่ดูไม่เป็นมิตรนัก ให้ความรู้สึกคล้ายกับพลุที่ถูกจุดแล้วชนกัน
"พวกพี่กำลังจะกลับ วันนี้ทำการรักษาเสร็จสิ้นแล้ว น้องหกหากจะมาต่อแถวละก็ เห็นทีต้องรอพรุ่งนี้เช้า" โม่ฉีหมิงพูดเสียงเรียบจนเวินอ๋องนิ่งไป ทุกครั้งไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาก็นิ่งได้
"หม่อมฉันไม่ได้จะมารักษาอันใด เพียงแต่อยากเห็นว่าพี่สี่รักษาชาวบ้านอย่างไร นี่เป็นรับสั่งของเสด็จพ่อหม่อมฉันก็ห้ามไม่ได้" เวินอ๋องพูดขึ้นแล้วกระตุกยิ้มที่มุมปาก รอยยิ้มร้ายกาจนั้นมองมาที่โม่ฉีหมิง
"รับสั่ง? หากท่านพ่อต้องการมาพบพี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ได้ เจ้าไม่จำเป็นต้องมาหรอก เป็นการทำให้เจ้าเสียเวลามากกว่าและเสียเวลาคุณหนูเย่ด้วย" โม่ฉีหมิงมองต่ำ แล้วใช้คำพูดเสียดสีจนเวินอ๋องขมวดคิ้ว จากนั้นก็พูดต่อ "เดือนหน้าเจ้าก็จะอภิเษกสมรสแล้ว จัดงานไปถึง? เราเป็นถึงเชื้อพระวงศ์อย่าให้น้อยหน้าเขียวล้ะ"
สำหรับเวินอ๋องแล้ว หากถามว่าเรื่องไหนที่ทำแล้วเขารู้สึกเสียใจที่สุด ก็คงเป็นการที่ได้พบเจอกับเย่เซียวหลัว
แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนั้นคนที่เข้าไปสนิทนางก็เป็นตัวเขาเอง ต้องการให้นางรักก็เป็นความตั้งใจของเขา วันนี้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาหวังแล้ว แต่คล้ายกับพระเจ้ากำลังเล่นตลก เพราะเขากลับไปตกหลุมรักยิ่งอื่น
เรื่องที่เขาคิดมาถึงชีวิตว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ มาวันนี้กับเป็นเรื่องที่อยู่ในใจของเขา
"พี่สี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ตอนนี้งานดำเนินไปได้ด้วยดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องกังวล" แววตาของเวินอ๋องในเวลาที่พูดนั้นดูอิดโรยเหลือเกิน บางทีเวลาอาจจะช่วยเยียวยาทุกสิ่งได้
"งั้นก็ดีมาก คุณหนูเย่เป็นหญิงที่ดี เจ้าต้องรักและทะนุถนอมนางให้มาก" โม่ฉีหมิงบอกแล้วตบบ่าเขาเบาๆ คล้ายกับพี่ชายกำลังปลอบใจน้อง "ข้ากลับตำหนักก่อนล่ะ เชิญเจ้าตามสบาย"
โม่ฉีหมิงไม่อยากอยู่ที่นี่นาน เขาแปลกใจที่วันนี้คนที่มาที่นี่ไม่ใช่องค์รัชทายาทแต่เป็นเวินอ๋อง จากหลักการแล้วเมื่อได้ข่าวว่ามียาถอนพิษคนที่มาน่าจะเป็นองค์รัชทายาท แต่วันนี้เขากลับไม่เห็นแม้แต่เงาขององค์รัชทายาท
เขาหันหลัง แล้วจับมือของโล่หวินหลาน สิบนิ้วประสานกัน มองดูแล้วช่างเป็นคู่สามีภรรยาที่รักกันเสียเหลือเกิน เวินอ๋องอยากจะรั้งพวกเขาไว้ แต่ความรู้สึกในใจของเขากลับทำให้ความคิดของเขาสับสนไปเสียหมด
"พี่สี่ กระหม่อมอยากให้ท่านพี่พูดถึงการรักษาวันนี้ให้ฟังหน่อย กระหม่อมจะได้กลับไปกราบทูลเสด็จพ่อได้" เวินอ๋องบอก
โม่ฉีหมิงไม่ได้หันหลังกลับ “น้องหกไม่ต้องกังวลไป พี่จะไปกราบทูลท่านพ่อด้วยตนเอง"
โล่หวินหลานที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาไม่แม้แต่จะหันมา จนเดินไปถึงรถม้าเขาก็ไม่อาจเดาสีหน้าของนางได้ โม่ฉีหมิงนั่งรถม้าคันเดียวกับนาง แผ่นหลังกว้างของเขาปิดบังตัวนางจนมิด
เวินอ๋องที่อยู่ท่ามกลางหิมะนั้นเมื่อเห็นหน้าโล่หวินหลานไม่ชัดเจนแววตาของเขาก็ดำมืดลง หลังจากที่ได้ยินเสียงรถม้า เมื่อเขาลืมตาขึ้น เบื้องหน้าก็เหลือทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า เขากุมมือตนเองแน่น
จิ่นซื่อกระตุกยิ้มที่มุมปากแล้วคลี่ยิ้มออกมา “หม่อมฉันไม่อาจให้เวินอ๋องรักท่านได้ แต่หม่อมฉันก็มีวิธีที่จะให้ดวงใจของเขาว่างเปล่า มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น ท่านถึงจะเข้าไปอยู่ในใจเวินอ๋องได้"
คำพูดของนางทำให้หัวใจของเย่เซียวหลัวเบิกบาน ขอเพียงได้ครอบครองเวินอ๋อง ของเพียงหัวใจของเขามีพื้นที่ให้นาง ไม่ว่าจะให้ทำอะไรนางก็ยินดี
เพียงแต่ สติบางส่วนในใจของเย่เซียวหลัวกำลังบอกกับตนเองว่าอย่าไปหลงกล
นางฝืนยิ้มออกไป “เดือนหน้าข้าก็จะอภิเษกกับเวินอ๋องแล้ว และการแต่งงานนี้เป็นรับสั่งของฮ่องเต้ เขาไม่อาจขัดคำสั่ง ดังนั้นอย่างอื่นก็ไม่มีความจำเป็นทั้งสิ้น"
ถึงแม้ว่าไม่จำเป็น แต่นางก็หวังให้ในใจของเวินอ๋องมีนางเพียงคนเดียว
นางกำลังจะเดินไป ถึงแม้ว่าจะทำเป็นไม่สนใจ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าความคิดในใจของนางได้เปลี่ยนไปแล้ว
"คุณหนูเย่ ท่านคิดหรือว่าการที่เวินอ๋องอภิเษกกับท่านแล้วหัวใจของเขาจะอยู่กับท่าน? เวินอ๋องเป็นคนฉลาดการที่แต่งงานกับท่านก็เพียงแต่ทำตามรับสั่งของฮ่องเต้ แต่ในใจของเขายังคงไม่มีท่าน และเขาก็จะมีสนมอีกมากมาย ท่านคิดที่จะเฝ้าเรือนหอด้วยความว่างเปล่าหรือ ท่านจะเหงาเช่นนี้ไปจนตาย?" คำพูดแต่ละคำของจิ่นซื่อช่างแทงใจดำเย่เซียวหลัวนัก
ก็จริง นางไม่สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าหลังจากอภิเษกกับเวินอ๋องแล้วในใจของเขาจะมีแต่นาง จิตใจที่อ่อนโยนของนางนั้นค่อยๆหายไป
ตอนนี้สิ่งที่นางกำลังเฝ้ารักษาคือหัวใจของตนเองหรือเพียงความเงียบสงบเท่านั้น คำพูดไม่กี่คำของจิ่นซื่อก็ทำให้นางโอนอ่อนเสียแล้ว แต่เมื่อนางกลับมาคิดอีกครั้ง สิ่งที่จิ่นซื่อพูดก็เป็นสิ่งที่นางอยากทำมาโดยตลอดไม่ใช่หรือ?
นางหยุดเดินท่ามกลางหิมะ ไม่หันหลังกลับ
"แล้วเจ้า คิดว่าข้าควรทำเช่นไร?"
จิ่นซื่อยิ้มที่มุมปาก ทุกอย่างเป็นไปตามที่นางคิดเอาไว้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเย่เซียวหลัว นางก็รู้เลยว่าจะใช้วิธีไหนมาควบคุมนาง
"ง่ายมากเพคะ ไปที่ยองเชียงโหลวเพคะ หม่อมฉันจะอธิบายแผนให้ฟังเอง" จิ่นซื่อเดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าว จากนั้นก็ควงแขนของเย่เซียวหลัวเอาไว้ สบตานาง แล้วพานางไป
ท่ามกลางพายุหิมะ เย่เซียวหลัวกำมือตนเองไว้แน่ นางขอทำผิดเช่นนี้อีกครั้งเถอะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก