ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 191

ตอนที่191 อยู่อย่างไร้คนวิญญาณ

เจ็บนะ เจ็บ

ในใจของโม่ฉีหมิงรู้สึกเจ็บปวดมากว่าบาดแผลของโล่หวินหลานเป็นร้อยเท่า เขาไม่รู้ว่าถ้าไม่มีนาง ชีวิตต่อจากนี้จะอยู่อย่างไร

ตอนเช้า นางยังเต้นไปโดดมาตรงหน้า และยังกินขนมถั่วเขียวที่ตนเองชอบ ก่อนที่นางจะไป นางยังถือโอกาสตอนที่ไม่มีคนอยู่แอบหอมแก้มตนเอง แค่เวลาสั้นๆแค่นี้ก็ทำให้กลายเป็นแบบนี้ได้ด้วยหรือ?

“ฉี ฉีหมิง……” น้ำเสียงแหบๆของโล่หวินหลานดังขึ้นข้างหูของโม่ฉีหมิง เขาลืมตาขึ้นโตๆ และมองโล่หวินหลานอย่างตกใจ ขยับริมฝีปากแล้ว แต่กลับพูดอะไรไม่ออก

เพราะว่าความเจ็บปวดทำให้โล่หวินหลานมีกำลังภายในที่อ่อนแอลง ตาของนางลืมไม่ขึ้น แค่ลืมตาขึ้นได้เพียงเล็กน้อย ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยคราบดำจากควันไฟ ขนาดนัยน์ตาปกติดูมีชีวิตชีวากลับมองไม่เห็นเลย มีแค่ริมฝีปากที่ยังค่อยๆขยับอยู่ มองแล้วถึงแม้จะไม่ค่อยสวยงามเหมือนปกติ แต่ว่าโม่ฉีหมิงเหมือนรู้ว่าชีวิตของเขามีสีสันมากขึ้นอีกครั้ง

เขากุมมือเย็นๆของนางไว้

“ข้าอยู่ที่นี่ ข้าอยู่ที่นี่” โม่ฉีหมิงเสียงสั่นเบาๆ

มุมปากของโล่หวินหลานกระตุกขึ้นเบาๆ สองมือของนางอยากจับหน้าของโม่ฉีหมิงขึ้น แต่กลับไม่มีแรง นางยิ้มได้อ่อนแอมากๆ “จะบอก ความลับอะไรบางอย่าง……จริงๆแล้ว ข้าไม่ได้เป็นคนที่นี่…..ข้า คือคนที่อยู่ในสมัยหลายพันปีในอนาคต ที่ข้ามาที่นี่ได้ ก็เพราะว่าทุกอย่างมันเกินความคาดคิด….. ข้าไม่รู้ว่าตัวข้าเองจะไปไหนอีก แต่ว่า เพียงแค่เจ้าจำข้าได้ ข้าต้องกลับมาอย่างแน่นอน……. ถึงเวลาอย่าลืมข้านะ !”

โม่ฉีหมิงเห็นไปมองนาง เมื่อเขาได้ยินคำพูดพวกนี้ จู่ๆน้ำตาก็ไหลริมออกมาแบบไม่รู้ตัว เขาก้มหน้าลง พูดขึ้นอย่างเสียงสั่น “ข้ารู้ การรักษาโรคของเจ้าคนของพวกข้าที่นี่ไม่มีใครเป็นเลย เจ้าร้องเพลงที่พวกข้าร้องไม่ได้ และบางครั้งยังพูดคำพูดที่พวกข้าฟังไม่รู้เรื่อง ข้าเคยสงสัยในตัวตนของเจ้า ยังเคยไปแอบสืบด้วยซ้ำ เพื่อที่จะไม่อยากให้เจ้าต้องจากไป แต่ว่าตอนนี้……” เขาร้องไห้แล้วทำให้ฟังไม่รู้เรื่องว่าพูดอะไร “ทำไมเจ้าต้องถอดทิ้งข้า?"

ท่าทางที่เขาก้มหน้าก้มตาร้องไห้เหมือนเด็กไม่มีใครช่วยเหลือ โล่หวินหลานอยากกอดเขามาก แต่ก็ทำไม่ได้

เสียงของนางยิ่งอยู่ยิ่งเล็ก หายใจยิ่งอยู่ยิ่งช้าและอ่อนแอลง “อย่า อย่าเป็นเพราะการตายของข้าแล้วไปโกรธผู้ใดก็ตาม….เจ้า ต้องใช้ชีวิตอยู่ดีๆ วันข้างหน้า วันข้างหน้าเราต้องได้พบกันอีก”

“เจ้า อย่าลืมข้า”

คำพูดของนางยังคงส่งเข้าไปในหูของโม่ฉีหมิง รอไปสักพัก และมิอาจได้ยินเสียงของนางอีก เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้น เห็นแต่นางนอนหลับไปอย่างสนิท

จู่ๆเขาก็ไม่มีสติขึ้นมา

“ไม่หรอก” เขาใช้แรงกัดริมฝีปากตนเอง “ข้าจะไม่ลืมเจ้า”

แค่กลัวเจ้าลืมข้า

ไม่กลัวอะไรเลย กลัวแค่จากกันเป็นเวลานั้นขนาดนี้ เจ้าจะลืมข้า

ข้าจะรอ จะรอวันนี้เราได้พบกันใหม่

ข้าจะไม่โทษใคร ข้าจะใช้ชีวิตอยู่อย่างดีๆ

ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นมนุษย์ห่างจากข้ากี่พันปี ตอนนี้เจ้าเป็นพระชายาของข้า และจะเป็นของข้าเพียงผู้เดียว

“พระชายา!” เย่หวินและจินหยิ่นคุกเข่าลงบนพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะ

หิมะหยุดตกหนัก ไม่มีเสียงใดๆเกิดขึ้นอีก

หิมะขาวๆลอยไปลอยไปในเวลาหลังเที่ยง ทำให้ยิ่งรู้สึกเงียบเหงา

เสียงวุ่นวายของชาวบ้านดังขึ้นไม่หยุดจากข้างนอก บางคนกำลังร้องไห้ บางคนกำลังหัวเราะ บางคนไม่ได้ทำสีหน้าใดๆ บางคนมีความสุข…… คนพวกนี้ได้ผ่านสายตาของโม่ฉีหมิงทั้งหมด เขาได้เดินผ่านผู้คนพวกนี้ เขารู้ตัวว่ามีคนมากมายกำลังชี้มาทางเขา

แต่นัยต์ตา หูของเขามีแต่ความว่างเปล่า

เย่หวินและจินหยิ่นติดตามเขาอยู่ข้างหลังโดยไม่พูดไม่จา ขอบตาของทั้งสองบวมแดง

เดินผ่านประตูกำแพงเมือง คนที่เฝ้าเมืองรู้จักโม่ฉีหมิง ไม่มีตรวจอะไรใดๆก็ให้พวกเขาเดินเข้าไป และยังทำสายตาแปลกใจมองคนที่อยู่ในอ้อมกอดของโม่ฉีหมิง น่าจะเป็นพระชายาหมิงอ๋อง แต่ว่าอกของพระชายาหมิงอ๋องมีดาบเสียบอยู่ สีหน้าขาวซี้ด ขาวจนผิดปกติ

เดินผ่านถนนตามแนวกำแพง เหยียบพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาวหนาๆ ผู้คนที่สัญจรไปมาอยู่บนถนนก็มองมายังเขา และรู้สึกแปลกใจที่ทีท่าอันแปลกๆของเขา แต่เพราะว่าฐานะที่เขามี ทำให้ชาวบ้านพวกนั้นไม่กล้าออกเสียง

กำลังอ้อมผ่านตรอกซอยที่ลึกลับและทั้งสองข้างของทางเดินมีผนังกั้นยาวไป นี่ถือว่าเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองหลวง ในนั้นไม่มีแม้แต่ผู้คนเดียว

สุดท้ายก็เดินไปถึงประตูทางเข้าตำหนักหมิงอ๋อง

ผู้ดูแลตำหนักเห็นโม่ฉีหมิงอยู่ไกลๆ มือของเขาอุ้มหญิงสาวผู้หนึ่งไว้ น่าจะไม่ใช่พระชายา? ท่านอ๋องเจอพระชายาแล้วสักที คราวก่อนเขารู้สึกโล่งอกสักที

“ยังนอนอยู่? รีบตื่น ท่านอ๋องและพระชายากลับมาแล้ว” ผู้ดูแลตำหนักตบไหล่ของคนเฝ้าประตูและพูดขึ้น

“รับทราบชอรับ” ชายผู้เฝ้าประตูยืดตัวตนเองให้ตรง และเปิดประตูตำหนักทั้งสองบาน

โม่ฉีหมิงเดินมาถึงหน้าประตูแล้ว ผู้ดูแลตำหนักเปิดประตูเสร็จรู้สึกเหมือนมีอะไรผิดปกติ ทำไมขอบตาของทั้งสามดูบวมแดง?

แต่ว่าเขาก็ไม่กล้าถาม ยิ่งไม่กล้ามอง ก้มหน้าลงครึ่งหนึ่งมองโม่ฉีหมิงที่อุ้มเสื้อที่ดูเก่าเดินผ่านตนเอง อกของโล่หวินหลานมีมีดเล็กๆแทงไว้ ดูแล้วน่าสะดุ้งตกใจมากๆ

จินหยิ่นไม่พูดไม่จา มือของเขายังห่ออยู่เลย ตัวของเขาเดินผ่านศาลาแถวนั้น เหมือนเขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

“เย่หวิน เรื่องที่มันผ่านไปก็ปล่อยมันไป อย่ามาโทษตัวเองอย่างนั้น มันไม่มีประโยชน์ พระยาชาคงไม่ฟื้นคืนชีพ” จินหยิ่นปลอบใจคนไม่เป็น เขารู้ว่าตนเองพูดไม่ดี แต่ว่าเขาก็ยังอยากพูด “พระชายาอยู่ที่นี่ เห็นเจ้าอยู่อย่างไม่มีความสุขเยี่ยงนี้ อีกอย่าง เจ้าก็ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย”

เย่หวินไม่ได้เงยหน้าขึ้น และยังคงส่ายหัวไม่หยุด นางไม่รู้ว่าตนควรทำเยี่ยงใด ดังนั้นเรื่องทุกอย่างไม่ได้เกี่ยวข้องกับนางเลย

“ไม่ใช่ จินหยิ่น ไม่ใช่แบบนี้ ครั้งนี้เป็นความผิดของข้าจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะข้า ท่านชายาก็คงไม่ตาย……”

คนที่ไม่เคยพูดปลอบใจใครก็ไม่รู้ว่าควรปลอบยังไง แต่ว่าเขารู้ว่าตนเองต้องทำอะไรต่อไป

เขาค่อยๆยื่นมือออกไป ดึงนางเข้ามากอดในอ้อมกอดของตนเอง เหมือนฝันที่เขาเคยเพ้อมาหลายรอบ จนวันนี้นางก็ได้มาอยู่ในอ้อมกอดของตนเอง

“เย่หวิน เจ้าต้องเชื่อ สิ่งที่ฟ้าลิขิตมาย่อมมีเหตุผลเสมอ” เขาหยุดชะงักไป และสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “เจ้าก็ได้ยินพระชายาหมิงอ๋องพูดแล้ว นางเป็นคนในยุคสมัยหลายพันปีข้างหน้า นางสามารถมาถึงที่นี่ได้ ก็สามารถกลับไปได้ด้วยเช่นกัน นางบอกไปแล้วว่าเราจะได้เจอกันอีก งั้นก็ควรเชื่อนาง

น้ำตาของนางค่อยๆเปียกไปทั่วชุดที่เขาสวมใส่ วันนี้เย่หวินร้องไห้จนน้ำตาของนางหลั่งไหลออกมาหมดจนถึงชาติ ปกตินางทำเป็นเข้มแข็งแต่วันนี้เหมือนดูอ่อนแอมากๆ

“แต่ว่า แต่ว่าพระชายาบอกหรือว่านางจะกลับมาเมื่อใด” เย่หวินกำลังสะอื้น

จินหยิ่นหยุดชะงักไปสักพัก และโอบกอดนางแน่นกว่าเดิม

“นางไม่ใช่ว่าไม่พูด แต่ว่าขนาดนางยังไม่รู้ตนเองด้วยซ้ำ ถ้าฟ้าได้กำหนดไว้แล้ว นางก็จะปรากฏอยู่ในชีวิตของพวกข้า” จินหยิ่นพูดอย่างเข้มแข็ง

หรืออาจเป็นเพราะว่าใจของเขาเข้มแข็งมากเกินไป หรืออาจจะเจ็บจนชา ดังนั้นตอนนี้เหมือนไม่มีความรู้สึกใดๆ

จวบจนถึงกลางคืน สวินโม่ที่พึ่งได้ข่าวรีบมาถึงตำหนักหมิง คนที่ตามมากับเขาก็คือหยูซู

“เย่หวิน จินหยิ่น พวกเจ้าบอกที่มาของเรื่องให้ข้าฟังทั้งหมด พระชายาเป็นอะไรไป?” สวินโม่มาถึงตำหนักก็รีบหาเย่หวินและจินหยิ่นมาคุยก่อน เขารู้ว่าตอนนี้โม่ฉีหมิงก็เหมือนแค่ศพที่เดินได้

พอเห็นสวินโม่ ทั้งสองคนก็ได้แต่ก้มหน้าแล้วถอนหายใจ จินหยิ่นขมวดคิ้วอันหนาเป็นปม

“พระชายาถูกฆ่าจนตายขอรับ” เสียงของเขาทั้งต่ำทั้งแหบ และเอาทุกคำพูดที่ฟังจากเย่หวินเล่าให้สวินโม่ฟังทั้งหมด

นี่มันชัดเจนมากๆ ว่าเป็นแผนการร้ายที่ได้ถูกวางไว้ตั้งแต่แรก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก