ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 74

ตอนที่74ความมีน้ำใจ

ท้องฟ้าค่อยๆมืดลงโล่หวินหลานล้างแผลเสร็จเรียบร้อยจริงๆเย่หวินที่อยู่ข้างๆเห็นคราบแล้วเยอะจนรู้สึกมึนๆถ้าไม่ใช่เพราะว่าหรูซูได้รับบาดเจ็บนายหญิงก็คงไม่ต้องลำบากรักษานางตอนที่เย่หวินไม่พอใจหรูซูขึ้นมาอีกแล้ว

“เย่หวินไหมละลายและเข็ม”โล่หวินหลานยื่นมือมานานแต่ไม่มีการตอบสนองใดๆหันหลังกลับไปเห็นเย่หวินกำลังยืนเหม่อเมื่อครู่นางยังดีๆอยู่เลยทำไมตอนนี้เริ่มเหม่อล่ะ?

โล่หวินหลานกดเสียงตัวเองต่ำลง“เย่หวินเจ้าเป็นอะไรไป?ตอนทำการผ่าตัดต้องตั้งสติมากๆอย่าไปแบ่งใจให้อย่างอื่น”

พอพูดจบนางก็ยื่นมือไปหยิบเครื่องมือที่ตลับยาและเริ่มเย็บแผล

ผู้ที่ถูกว่าตักเตือนอย่าเย่หวินรู้สึกอึดอัดเบาๆนางคิดในใจว่าโล่หวินหลานไม่ยุติธรรมพระชายาจิตใจอ่อนโยนช่วยรักษาหรูซูแต่นางกลับไม่คิดแบบนี้

ตอนที่เย็บแผลเสร็จหรูซูยังไม่ฟื้นโล่หวินหลานมองไปยังช่วงสะโพกที่ขาวเนียนของนางมีรอยแผลคล้ายรูปตะขาบนางส่ายหัวเบาๆยังดีจุดที่บาดเจ็บคือส่วนสะโพกถ้าเป็นจุดอื่นสำหรับสาวน้อยแล้วคงทำให้ผิวไม่สวย

“พระชายาจะดื่มน้ำหน่อยเถอะเจ้าค่ะและล้างหน้าแต่งตัวอีกรอบ”เย่หวินเทน้ำเย็นและตามความน้ำร้อนให้นางล้างหน้า

โล่หวินหลานเองก็รู้สึกกระหายน้ำเหมือนกันพอดื่มน้ำเสร็จและล้างหน้าอีกรอบและออกไปข้างนอก

พอเปิดประตูออกไปเห็นโม่ฉีหมิงและสวินโม่ยืนรอนางอยู่ตรงหน้าประตูโม่ฉีหมิงเหมือนภูเขาหินที่ไม่ขยับเขาใช้สายตาเย็นชาจ้องนางปากของเขาเม้มเป็นเส้นตรงไม่พูดไม่จาใดๆ

นี่เขาโกรธอยู่ใช่ไหม?ตอนที่เขาโกรธเขามักจะเม้มปากให้แน่นๆรู้สึกแววตาของเขาเต็มไปด้วยความเฉยชาแค่นางเดาไม่ออกจริงๆว่าเขาโกรธอะไร?หรือเป็นเพราะนางช่วยหรูซู?

โล่หวินหลานนั่งลงข้างๆเขาและถามขึ้น“เป็นอะไรไป?”

แววตาของโม่ฉีหมิงยังคงเหมือนเดิมและจับแก้วบนมือหมุนไปหมุนมายังคงเฉยชายไปสักพักและพูดขึ้นด้วยเสียงนิ่งเฉย“ต่อไปอย่ายุ่งกับบ่าวนั้นเยอะไม่ใช่ทุกคนที่เจ้าสมควรต้องช่วย”

พูดจบเขาไม่สนสีหน้าที่รู้สึกแปลกใจของโล่หวินหลานเข็นรถเข็นของตัวเองออกจากประตู

สวินโม่ที่อยู่ข้างๆเห็นโม่ฉีหมิงจากไปทีแรกอยากจะถามที่มาของเรื่องอย่างชัดเจนทีแรกอยากช่วยทั้งสองดีกันแต่ดูท่าทางของนางตอนนี้ถึงถามไปก็ไม่ได้คำตอบอะไร

ออกจากที่นี่ก่อนดีกว่าไม้งั้นเดี๋ยวจะพลอยซวยไปด้วย

“พระชายาข้าไปก่อนมีเรื่องอะไรก็ส่งคนมาบอกข้าได้”สวินโม่พูดจบและรีบเดินออกจากประตู

ทั้งสองเดินจากไปอย่างติดๆอย่างนี้ทำให้นางรู้สึกพึ่งใครไม่ได้เลยนี่เป็นครั้งแรกที่นางรักษาคนแล้วเหมือนทำผิด

นางพลาดมือข้างเดียวลงบนเก้าอี้และยิ้มแห้ง

“พระชายาเจ้าคะพระชายาเจ้าค่ะ......”เย่หวินเปล่งเสียงเรียกไปสองครั้งแต่ไม่ได้ยินโล่หวินหลานตอบกลับยิ้มของนางเต็มไปความเย็นชานางเรียกแม่หญิงด้วยความเป็นห่วง

“ข้าไม่เป็นไร”โล่หวินหลานลุกขึ้นและเข้าในตำหนักตัวเองเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเปลี่ยนเสื้อกราวของตัวเองลงและให้เย่หวินตักน้ำมาอาบน้ำ

สมัยก่อนอะไรก็ดีไปหมดยื่นมือใส่เสื้ออ้าปากกินข้าวมีแค่ของใช้บางอย่างที่มีไม่ครบไม่ค่อยอำนวยความสะดวกเท่าสมัยนี้อย่างเช่นตอนอาบน้ำ

นางนั่งอยู่ในห้องนอนรอให้บ่าวต้มน้ำร้อนและผสมน้ำเย็นเทเข้าไปในอ่างไม้นี่ใช้เวลาอาบน้ำจนธูปหนึ่งเล่มเกือบดับคนสมัยก่อนเน้นเวลาอาบน้ำมากโรยกลีบดอกกุหลาบดอกมะลิหยดน้ำหอมและมีการนวดเวลาตอนอาบน้ำหมอนวดฝีมือกว่าระดับโรงแรม5ดาว

แต่ว่าโล่หวินหลานรู้สึกเหนื่อยตรงที่กลัวการเปลือยกายนี่ไม่ใช่แค่สูญเสียทรัพยากรมนุษย์และทรัพยากรน้ำร่างของนางต้องเปลือยเปล่าสำหรับหญิงที่รักนวลสงวนตัวคงไม่ชินยิ่งวันนี้นางรู้สึกแย่นางมองบ่าวผสมน้ำเสร็จก็ให้พวกนางออกไป

นางอยากอยู่คนเดียวเพื่อผ่อนคลายหน่อยและพิงตัวลงตรงอ่างไม้อาบความเหน็ดเหนื่อยออกไปให้หมดน้ำอุ่นทำความสะอาดความคิดของนางวันนี้ให้หมด

แค่แววตาอันเย็นชาของโม่ฉีหมิงยังคงติดตานางอยู่

โล่หวินหลานค่อยๆหลับตาลงนางคร่ำเคร่งอยู่ท่ามกลางความอบอุ่นและไอร้อนของน้ำบรรยากาศของห้องเต็มไปด้วยไอร้อนที่แสนอบอุ่นเหมือนนางกำลังหลุดไปในโลกที่ดุจดั่งสวรรค์

ทันใดนั้นข้างหูของนางมีเสียงแหบๆดังขึ้นเบาๆ“หวินหลานอาบได้สบายไหม?”

คนที่กำลังผ่อนคลายท่ามกลางไอร้อนอย่างโล่หวินหลานสะดุ้งขึ้นทั้งตัวของนางถอยไปพิงอยู่ข้างหลังสุด น้ำที่อาบกระเด็นขึ้นทำให้โม่ฉีหมิงเปียกไปทั้งตัวนางมองเขาด้วยสายตาที่ตกใจ

“เจ้าเจ้าเจ้าทำไมจู่ๆถึงเข้ามาที่นี่ได้?”โล่ฉีหมิงเริ่มหน้าแดง จ้องหน้าเขาด้วยความเขินอายแล้วถามขึ้นอย่างติดๆขัดๆ

โม่ฉีหมิงใช้ตาอันเหลียวยาวกวาดสายตามองตัวของนางแล้วขมวดคิ้วขึ้นเขาจ้องไปยังไหปลาร้าของนาง“ที่นี่เป็นที่ของข้ามีที่ไหนบ้างที่ข้าไปไม่ได้?”

ไหปลาร้าอันผ่องใสของนางปรากฏต่อหน้าเขาแสงเทียนในห้องมืดมัวเพราะไอร้อนของน้ำระเหยขึ้นมาแววตาของเขายิ่งอยู่ยิ่งเปล่งประกายและจ้องนางแบบไม่กระพริบตาเลยเหมือนกำลังจะกลืนกินนางสดๆ

เสียงในใจของเขาได้สงบลงโล่หวินหลานสวมใส่ชุดสีขาวและผูกหูกระต่ายในโทนสีเดียวกันและผมของนางที่ยังแห้งไม่สนิทดุจดั่งสาหร่ายที่พาดยาวไปถึงเอวหน้าที่ไม่ผ่านการแต่งใดๆของนางดูผุดผ่องและสวยงาม

“ฉีหมิง.......”โล่ฉีหมิงเรียกเสียงเบาด้วยความเขินอาย

ยังไม่ทันฟังนางพูดจบโม่ฉีหมิงรีบพูดแทรกขึ้นกดเสียงที่แหบลง“เดี๋ยวอีกไม่กี่วันพวกข้าไปเมืองอูด้วยกันถือว่าไปพักผ่อนหย่อนใจ”

เมืองอู?จู่ๆไปที่โน่นทำอะไร?ถึงแม้โล่หวินหลานมาหลุดในโลกสมัยโบราณไม่นานแต่นางเคยทำความเข้าใจอาณาเขตนี้ทั้งอาณาเขตโม่ฉีมีเมืองอะไรบ้างนางรู้หมดและเมืองอูเป็นที่ๆเต็มไปด้วยธรรมชาติและอุดมสมบูรณ์และเป็นเมืองที่งดงามน่าประทับมากๆเหมือนแหล่งท่องเที่ยวของหางโจวตอนนี้

นี่เขาอยากนางไปพักผ่อนหย่อนใจจริงๆหรือ?ช่วงนี้ในวังเกิดเรื่องวุนวายมากมายแค่เรื่องของเวินอ๋องกับตระกูลเย่ก็ปวดหัวมากพอละพวกเขาไปเมืองอูไม่กี่วันเรื่องพวกนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไหม?

“เป็นอะไรไป?เกิดอะไรขึ้นหรือไม่?”โล่หวินหลานขมวดคิ้วถามขึ้น

โม่ฉีหมิงหัวเราะถึง“ข้าแค่เห็นว่าเจ้าช่วงนี้ดูเหนื่อยๆเลยพาเจ้าไปพักผ่อนหย่อนใจก็แค่นี้”

“ดีพอดีช่วงนี้ในวังก็เกิดเรื่องมากมายออกไปข้างนอกเดินเล่นๆหน่อยก็ดี”อารมณ์ของโล่หวินหลานจู่ๆก็ร่าเริงขึ้นมา

อากาศของสมัยก่อนสดชื่นมากๆวิวสวยถ้าไม่ได้ไปเที่ยวแบบธรรมชาติคงจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก

โม่ฉีหมิงพูดจบแล้วจากไปแสงอาทิตย์อันเจิดจ้าสอดส่องลงบนพื้นนางจับประตูที่ทำจากไม้ไว้

โล่หวินหลานเอายาในตลับที่มีประโยชน์ต่อหรูซูขึ้นมาและให้พวกบ่าวที่อยู่ในห้องให้ไปช่วยทายา

ไหนๆโม่ฉีหมิงไม่อยากให้นางเข้าใกล้หรูซูนางก็จะไม่ไปอีกทั้งสองต้องใช้ชีวิตคู่เรื่องที่นางสามารถทำได้ก็คือไม่ทำให้โม่ฉีหมิงโกรธ

ถ้าเพื่อบ่าวที่ช่วยมากลางทางมาทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาต้องแตกแยกก็จะไม่ดี

โล่หวินหลานจับพู่กันที่โม่ฉีหมิงให้นางจุ่มหมึกเบาๆมองกระดาษที่วางอยู่ต่อหน้าใช้พู่กันเขียนลง

“พระชายาเจ้าค่ะหรูซูมาแล้วเจ้าค่ะ”เย่หวินเข้ามาจากประตูเพื่อมารายงานนาง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก