ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 114

ตอนที่ 114 พี่อย่าถูกเฉินถิงเซียวหลอก

มู่น่อนน่อนยื่นน้ำให้กับเฉินถิงเซียว ก็หันกลับไปที่ห้องครัว ดังนั้นก็เลยไม่เห็นรอยยิ้มที่เผยออกมาจากใบหน้าเขา

กลับเป็นเฉินเจียฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ เก็บทุกอย่างนี้ไว้ในสายตา

เขาหยิบตะเกียบมาข้างนึง เอียงตัวจิ้มน้ำซุปที่ชามของเฉินถิงเซียวแล้วเอามาชิมดู พริบตาเดียวสีหน้าก็เปลี่ยนเลย

 เฉินเจียฉินทิ้งตะเกียบ ดื่มน้ำจนความเค็มในปากจางลง ถึงแบะปากพูดพึมพำ:“ร้ายกาจ!”

 ทั้งๆที่เค็มจะตายอยู่แล้ว เขากลับแกล้งกินจนหมด มู่น่อนน่อนใจอ่อนขนาดนั้น ไม่นานก็ต้องค่อยๆให้อภัยเขาแน่นอน

ฮื้อ!ผู้ชายร้ายกาจที่ใช้เป็นแค่แผนทำร้ายตัวเอง เพื่อให้คนอื่นใจอ่อน!

เฉินถิงเซียวจ้องเขาอย่างเย็นชาทีนึง:“เสียงดังหน่อย”

เฉินเจียฉิน: “……” เขาไม่กล้า

เขาหดคอเล็กน้อย ลุกขึ้นก็วิ่งเข้าไปในห้องครัว

 มู่น่อนน่อนกำลังพิงอยู่ที่บนเคาน์เตอร์ครัวกำลังดื่มนมเปรี้ยวอยู่ บะหมี่ชามของเธออืดจนทานไม่ได้แล้ว พอดีเลยเธอก็ไม่อยากอาหาร ดื่มนมเปรี้ยวแก้วนึงรองท้องก็แล้วกัน

 เห็นเฉินเจียฉินเดินเข้ามา มู่น่อนน่อนหยิบจากตู้เย็นกล่องนึงแล้วยื่นให้กับเขา

 เฉินเจียฉินยืนอยู่ที่ข้างกายเธอ ดูดนมเปรี้ยวไปกรึ๊บนึง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อาบน้ำมาก่อน:“มู่น่อนน่อน เธออย่าถูกเฉินถิงเซียวหลอกนะ คนอย่างเขาร้ายกาจมาก”

“อืม”มู่น่อนน่อนตอบอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวคำนึง แล้วหันไปมองเฉินเจียฉิน:“ฉันแก่กว่านายหกปี ถึงนายไม่เรียกฉันพี่สะใภ้ ก็ควรจะเรียกฉันว่าพี่นะ”

เด็กวัยรุ่นที่อายุสิบสี่ยืนอยู่ข้างกายของมู่น่อนน่อนที่สูง167เซนติเมตร ยังสูงกว่าเธอนิดหน่อย

แต่เป็นเพราะยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นอยู่ ดังนั้นเฉินเจียฉินดูแล้วผอมมาก ถึงสูงกว่าเธอนิดหน่อย แต่ก็เป็นแค่เด็กคนนึงเท่านั้น

เฉินเจียฉินแบะปาก:“งั้นก็เรียกพี่สาวก็แล้วกัน……”

 ไม่อยากเรียกมู่น่อนน่อนว่าพี่สะใภ้เลยสักนิด พอนึกถึงพี่ชายร้ายกาจของเขาได้เปรียบขนาดนี้ เขาก็รู้สึกเสียดายเลย แถมยังถอนหายใจด้วย

 มู่น่อนน่อนสีหน้าแปลกประหลาด เด็กคนนี้ดื่มนมเปรี้ยวยังสามารถดื่มความเศร้าออกมาได้เหรอ?

..............

 ทั้งสามคนออกจากบ้านพร้อมกัน สือเย่ขับรถมารับ

 มู่น่อนน่อนไม่อยากนั่งกับเฉินถิงเซียว จึงได้ดึงเฉินเจียฉินขึ้นรถก่อน

 เฉินเจียฉินแอบมองเฉินถิงเซียวแว๊บนึง ถึงตามมู่น่อนน่อนขึ้นรถไป

 จากนั้นในรถก็เกิดภาพเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา เฉินเจียฉินนั่งอยู่ตรงกลาง มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวนั่งอยู่คนละฝั่ง

 เฉินเจียฉินรู้สึกตลอดถึงความกดดันที่ฟุ้งกระจายออกมาจากบนตัวของเฉินถิงเซียว เขารู้สึกตัวเองอาจจะได้ทำเรื่องที่ไม่ฉลาดไปเรื่องนึง

 สือเย่ส่งมู่น่อนน่อนไปที่บริษัทมู่ซื่อก่อน ต่อมาเดิมทีควรจะไปส่งเฉินถิงเซียวไปที่โรงเรียน

แต่หลังจากมู่น่อนน่อนลงจากรถ สือเย่เพิ่งขับรถไปได้ไม่ไกล เฉินถิงเซียวก็สั่งสือเย่:“จอดรถ”

พอรถจอดสนิทปุ๊บ เฉินถิงเซียวก็ชายตามองไปที่เฉินเจียฉิน:“ลงรถ”

 “นี่ยังไม่ถึงโรงเรียนเลยนะ!”เมื่อวานเฉินถิงเซียวเคยพาเขาไปที่โรงเรียน จากที่นี่ไปโรงเรียนอย่างน้อยต้องขับรถอีกประมาณสิบกว่านาที

“ไม่ใช่ทางผ่าน”

“ห๊ะ?”

ในขณะที่เฉินเจียฉินยังไม่ได้ดึงสติกลับมา เฉินถิงเซียวก็ได้เปิดประตูรถและไล่เขาลงจากรถโดยตรงแล้ว

“เดิมทีการ์ดดำใบนั้นก็เป็นของเฉินถิงเซียวอยู่แล้ว ถึงพ่อไม่ช่วยหนูตามหากลับมา เวลานานเข้า ตัวเขาก็จะพบว่าหนูทำการ์ดดำใบนั้นหายเหมือนกันค่ะ ถึงเวลา เขาเองก็สามารถตามหากลับมาเหมือนกัน ไม่แน่อาจจะตามเงินที่ถูกใช้ไปแล้วกลับมาด้วยก็ได้.......”

หลังจากมู่ลี่เหยียนและมู่หวั่นขีโกหกเรื่องการ์ดดำ ใช้เงินไปไม่น้อยเลย โชคดีที่การ์ดดำไม่ได้อยู่ในมือของพวกเขานาน พวกเขายังไม่ทันเอามาใช้ที่บริษัท ถึงจะอย่างนี้ก็เถอะ พวกเขาก็ใช้ไปเกือบสิบล้านหยวนแล้ว

เงินที่เข้าไปในกระเป๋าของพวกเขาแล้ว ถ้าอยากตามหากลับมาอีก มีความเป็นไปได้ต่ำมาก

มู่น่อนน่อนรู้สึก เธอต้องขายหุ้นของบริษัทมู่ซื่อที่มีอยู่ในมือทิ้ง ถึงจะสามารถเอาเงินพวกนี้ไปคืนให้กับเฉินถิงเซียวแล้ว

เพราะยังไงซะหุ้นบริษัทมู่ซื่อที่อยู่ในมือของเธอก็มู่ลี่เหยียนเป็นคนให้เธอ เธอสามารถขายต่อให้มู่ลี่เหยียนอีก ถ้าเขาไม่เอาเงิน งั้นเธอก็ขายหุ้นให้คนอื่นโดยตรงเลย

บริษัทมู่ซื่อคือธุรกิจเก่าแก่ที่มีรากฐาน ถึงชื่อเสียงได้รับความเสียหายไม่รุ่งโรจน์แล้ว แต่ก็ยังมีคนอยากซื้ออยู่

จริงๆซะด้วย มู่ลี่เหยียนได้ยินคำพูดของมู่น่อนน่อนแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนเลย

“คุณพ่ออย่าเพิ่งร้อนรนใจไปค่ะ หนูจะช่วยพ่อคิดหาวิธีอื่นเองค่ะ” มู่น่อนน่อนพูดอย่างไม่มีความจริงใจเลยแม้แต่น้อย มู่ลี่เหยียนก็ไม่มีกะจิตกะใจไปสืบสาวราวเรื่อง

หลังจากมู่น่อนน่อนออกมา มีเพื่อนร่วมงานเดินมา:“น่อนน่อน มีคนมาหาเธอจ้า”

เธอเดินไปดู ก็พบว่าคือเฉินเจียฉิน

“นายมาอยู่นี่ได้ยังไง นายไปโรงเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ?”มู่น่อนน่อนดูนาฬิกา ตอนนี้ก็เก้าโมงกว่าแล้ว

เฉินเจียฉินสะพายกระเป๋าไว้ยืนพิงอยู่ที่ผนังอย่างชิวๆ ถอนหายใจทีนึงและพูด:“พี่ไม่รู้ หลังจากพี่ลงจากรถ พี่ถิงเซียวก็ไล่ผมลงจากรถเลย จากที่นี่ไปโรงเรียนไกลขนาดนั้น ผมก็ไม่มีเงินนั่งรถ ก็เลยต้องมาหาพี่ครับ......”

“เขาไล่นายลงจากรถทำไม?”มู่น่อนน่อนพูดจบ ก็เอาเงินหนึ่งร้อยหยวนออกมาจากกระเป๋าและยื่นให้เขา:“ต่อไปไม่มีเงินก็มาหาพี่กับพี่ชายนาย อย่าหลอกลวงที่ข้างนอกไปเรื่อย”

 ถึงแม้สามารถหลอกลวงคนก็เป็นความสามารถอย่างนึง แต่เฉินเจียฉินยังเด็กเกินไป ความคิดแบบนี้ไม่ถูกต้อง ถ้าไม่ดัดความคิดดีๆง่ายมากที่จะเดินทางผิด

“ขอบคุณครับ พี่น่อนน่อน”เฉินเจียฉินรับเงินมา ยิ้มแก้มปริให้เธอพร้อมกล่าวขอบคุณ

มู่น่อนน่อนก็ได้ยิ้มตาม นิสัยที่แท้จริงของเด็กคนนี้ดีอยู่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม