ตอนที่ 118 ราชาภาพยนตร์ซือเป็นพี่ชายนาย
มู่น่อนน่อนหยิบกระดาษทิชชู่สองใบอย่างเงียบๆแล้วยื่นให้กับเสิ่นเหลียง
เธอยังไม่ได้เล่าเรื่องของเฉินถิงเซียวให้เสิ่นเหลียงฟัง ดังนั้นเสิ่นเหลียงได้ยินคำพูดของเฉินเจียฉินถึงได้ตื่นเต้นขนาดนี้
เฉินเจียฉินไม่รู้เรื่องที่วกไปวนมาพวกนี้เลยสักนิด เห็นได้ชัดว่าเขาก็ถูกปฏิกิริยาของเสิ่นเหลียงทำเอาตกใจ หลังจากเขานั่งลง ก็ถามมู่น่อนน่อนด้วยสีหน้ามึนงง:“ชื่อของผมมีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ไม่มีอะไรจ้า ชื่อของนายเพราะดี”มู่น่อนน่อนลูบศีรษะเขาเบาๆ
เฉินเจียฉิน“อ๋อ”คำนึง จากนั้นก็นั่งอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆและเป็นเด็กดี ไม่ป่วนเหมือนปกติตอนที่อยู่กับเธอเลยสักนิด
คนแซ่เฉินนี่ คนนึงแสดงเก่งกว่าคนนึงจริงๆ
“เฉินเจียฉิน ลูกพี่ลูกน้องของเฉินถิงเซียว”มู่น่อนน่อนเรียบเรียงคำพูดไปครู่นึง พูดต่อในขณะที่แววตาของเสิ่นเหลียงเบิกตาโตอย่างตื่นตะลึง:“เฉินเจียฉินที่เธอเจอก่อนหน้านั้น ก็คือเฉินถิงเซียวตัวจริง”
“ห๊า?”เสิ่นเหลียงฟังจนสีหน้ามึนตึ๊บ
สักพัก เธอขมวดคิ้วและพูด:“เธอหมายความว่า ‘เฉินเจียฉิน’ก่อนหน้านั้นคือเฉินถิงเซียว ส่วนเจ้าน่ารักคนนี้ถึงเป็นเฉินเจียฉินที่แท้จริงงั้นเหรอ?”
“ใช่ แบบนี้แหละ”มู่น่อนน่อนพยักหน้า
หันสายตาไปมองโดยไม่ได้ตั้งใจ มู่น่อนน่อนก็เห็นเฉินเจียฉินหน้าแดงแล้ว
“นายหน้าแดงอะไร?”มู่น่อนน่อนตกใจ
“ก็อายไง”ตอนนี้เสิ่นเหลียงก็ยังมีสีหน้ามึนงงสับสน:“ไม่ใช่ ทำไมเฉินถิงเซียวต้องแกล้งแสดงว่าตัวเองคือเฉินเจียฉินด้วย? เขาเป็นโรคจิตเภท?แยกหลายบุคลิกภาพ? ไม่ถูก พวกนี้ล้วนไม่ใช่จุดสำคัญที่สุด จุดสำคัญที่สุดคือเขาไม่เพียงแต่ไม่ได้เสียโฉมแถมยังหล่อโคตรๆด้วย!”
เฉินเจียฉินที่แยกแยะสถานการณ์ไม่ออกมาโดยตลอด ในที่สุดนาทีนี้ก็เข้าใจแล้ว
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วมองไปที่มู่น่อนน่อน มู่น่อนน่อนรินน้ำให้เขาแก้วนึง:“เด็กดี ดื่มน้ำนะ”
พอพูดจบ เธอก็เงยหน้ามองไปที่เสิ่นเหลียงอีก:“เธอเบาเสียงหน่อย”
เสิ่นเหลียงรีบยื่นมือกุมปากตัวเองไว้ แถมยังทำท่าทางรูดซิปปากอย่างโอเวอร์
ไม่นึกเลยว่า“เฉินเจียฉิน”ก็คือเฉินถิงเซียว เขาไม่เพียงไม่ขี้เหร่ อีกทั้งยังโคตรหล่อด้วย ด้านนั้นก็คงไม่มีปัญหามั้ง!
เธอคำนึงถึงว่ายังมีเฉินเจียฉินเด็กคนนี้อยู่ที่นี่ ก็ไม่ได้พูดออกมา แต่ได้ใช้มือถือส่งวีแชทให้มู่น่อนน่อน:“งั้นสมรรถภาพทางเพศของเขาคงไม่ได้เสื่อมมั้ง? เธอเคยลองมั้ย?”
มู่น่อนน่อนไม่ได้ตอบคำถามลามกของเธอ
เสิ่นเหลียงหยอกเฉินเจียฉินอย่างยิ้มแฉ่ง:“พ่อหนุ่มน่ารัก นายอายุเท่าไหร่แล้ว?”
ใบหน้าของเฉินเจียฉินแดงก่ำอีกแล้ว:“สิบสี่ครับ”
“อ๋อ อายุสิบสี่ก็สูงขนาดนี้แล้ว ต่อไปโตขึ้นต้องเป็นหนุ่มหล่อแน่นอน”
เฉินเจียฉินก็ไม่ถ่อมจนเลย:“น่าจะมั้งครับ”
มู่น่อนน่อนที่เคยรู้ระดับการหลงตัวเองของเฉินเจียฉิน ได้เกิดภูมิคุ้มกันแล้ว
เสิ่นเหลียงประหลาดใจก่อน จากนั้นก็กุมท้องหัวเราะขึ้นมา
มู่น่อนน่อนเอียงศีรษะ เรียกเฉินเจียฉินคำนึง:“พ่อหนุ่มน่ารัก?”
เฉินเจียฉินหน้าแดง:“ไม่ต้องเรียกแล้ว……”
“อายจริงๆเหรอเนี่ย?” มู่น่อนน่อนสีหน้าประหลาดใจ ที่แท้เฉินเจียฉินถูกชมแล้วอาย
ไม่อยากจะเชื่อเลย......จริงๆ
นิสัยของเสิ่นเหลียงร่าเริง เฉินเจียฉินก็เป็นเด็กที่พูดมาก ทั้งสามทานข้าวได้อย่างมีความสุขมาก
ตอนที่ทานข้าวอิ่มพอสมควรแล้ว เฉินเจียฉินลุกไปเข้าห้องน้ำ มู่น่อนน่อนถึงมีโอกาสพูดเรื่องของเฉินถิงเซียวให้เสิ่นเหลียงฟัง
“มีเรื่องนึงที่ผ่านมาฉันไม่เคยเล่าให้เธอฟังเลย เฉินถิงเซียวเคยถูกปืนยิง ฉันผ่าเอากระสุนออกให้เขา ทั้งกระบวนการเขาไม่ร้องเลยสักแอะและไม่สลบด้วย”
มู่น่อนน่อนพูดจบ ก็เห็นสีหน้าของเสิ่นเหลียงเปลี่ยนเล็กน้อย
ตระกูลเฉินคือตระกูลไฮโซ สืบทอดมาเป็นร้อยปี ในตระกูลสลับซับซ้อนยากแก่การแก้ไขมาก
“ไม่รู้ ดูกันไปทีละก้าวเถอะ”มู่น่อนน่อนหัวเราะเยาะตัวเองขึ้นมา
ตั้งแต่ตอนที่เธอแต่งงานเข้ามาในตระกูลเฉิน เธอก็ใช้ชีวิตตามใจตัวเองไม่ได้แล้ว
บางครั้ง ชีวิตของคนเราคือถูกโชคชะตาบีบบังคับ
คุณหยุดลงมาไม่ได้ และถอยหลังกลับไปไม่ได้ คุณได้เพียงถูกบีบบังคับให้เดินไปข้างหน้า บางทีข้างหน้าอาจจะมีทางออก บางทีข้างหน้าอาจจะเป็นเหวลึก ไม่อาจทำตามใจตัวเองได้
เสิ่นเหลียงไม่รู้พูดอะไรดี ทั้งสองเงียบลงมาในชั่วขณะ
ในขณะนี้ เฉินเจียฉินกลับมาแล้ว
ข้างหลังเขายังมีคนตามมาด้วยคนนึง
หลังจากเฉินเจียฉินเดินเข้ามาใกล้ หลีกทางไปข้างๆ ก็ได้เผยคนที่อยู่ด้านหลังออกมา:“พี่น่อนน่อน นี่คือพี่ชายของผมครับ”
มู่น่อนน่อนเงยหน้า ที่เห็นคือใบหน้าอ่อนโยนที่คุ้นเคย
“ราชาภาพยนตร์ซือ!”
“ซือเฉิงหยู้!”
เสิ่นเหลียงกับมู่น่อนน่อนส่งเสียงตกใจออกมาพร้อมเพรียงกัน
เสิ่นเหลียงถามก่อน:“ราชาภาพยนตร์ซือเป็นพี่ชายนาย?”
เฉินเจียฉินเกาหัว:“ก็ใช่น่ะสิครับ พี่ชายผมเอง”
“ทำไมเขาแซ่ซือ แล้วนายแซ่เฉินล่ะ?”มู่น่อนน่อนเคยเจอซือเฉิงหยู้หลายครั้ง แต่ยังไงก็คิดไม่ถึงว่าเขาก็มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินด้วย
เฉินเจียฉินอธิบาย:“พี่ชายผมใช้นามสกุลตามพ่อ ส่วนผมใช้นามสกุลตามแม่ครับ”
ซือเฉิงหยู้ยิ้มให้มู่น่อนน่อน:“เสี่ยวฉินซุกซน สร้างความวุ่นวายให้คุณแล้วครับ”
“……ไม่หรอกค่ะ”สมองของมู่น่อนน่อนวุ่นไปหมดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...