ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 158

บทที่ 158 มองข้ามความสามารถในการต่อสู้ไม่ได้

มู่น่อนน่อนกระตุกมุมปากยิ้มอย่างแสนเย็นชา “คุณไม่กล้าตอบ เพราะใจคุณรู้ดี มันเป็นเพราะฉันเหมือนชิงหนิง คุณถึงได้มาใกล้ชิดฉัน”

เฉินเจียฉินเคยบอก ว่าชิงหนิงแซ่ซู

ที่เฉินถิงเซียวดีต่อเธอ ทำกับเธอเป็นคนพิเศษ แต่ไหนแต่ไรมันไม่ใช่เพราะเธอคือมู่น่อนน่อน แต่เป็นเพราะเธอเหมือนผู้หญิงที่ชื่อซูชิงหนิงคนนั้น

ตลอดเวลาเขามองเธอผ่านไปหาผู้หญิงอีกคน

เขาทำดีกับเธอ โดยการคิดถึงผู้หญิงคนอื่น ส่งมันต่อไปถึงตัวเธอ

ไม่มีอะไรทั้งนั้นที่เธอเป็นเจ้าของ ทั้งหมดนี้เป็นของผู้หญิงที่ชื่อซูชิงหนิงคนนั้น

แม้มู่น่อนน่อนจะรู้เรื่องทั้งหมดอยู่แก่ใจแล้วก็ตาม แต่ใจเธอก็ยังหวังจะได้รับคำตอบปฏิเสธจากเฉินถิงเซียว

เธอหวังจะได้ยินคำว่า “ไม่ใช่” จากปากของเขา

แต่ทว่าเฉินถิงเซียวไม่มี

เขาหันหลังกระแทกประตูออกไป ด้วยแผ่นหลังร้อนรน

มู่น่อนน่อนเอนศีรษะพิงเตียง ดวงตาโตมองเพดาน

แหงนเงยหน้า ให้แน่ใจว่าน้ำตาจะไม่ไหลลงมา

……

วันจันทร์

มู่น่อนน่อนพยุงไม้ค้ำยันไปทำงานที่บริษัทมู่ซื่อ

เพราะคุณปู่มู่กลับมาเป็นประธานบริหารใหญ่ ทั้งบริษัทจึงจัดโครงสร้างใหม่ ทุกคนต่างกำลังยุ่งมาก

มู่น่อนน่อนที่เท้าบาดเจ็บ ก็ยังถูกมอบหมายงาน แต่มันค่อนข้างง่าย

ช่วงเวลาที่วุ่นวายมักจะผ่านไปไวเสมอ จนเมื่อเสร็จงาน มันก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว

เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ที่อยู่แถวนั้นกำลังคุยกันว่าจะไปทานอาหารเย็นกันที่ไหนดี

พวกเขาเห็นมู่น่อนน่อนยังอยู่ ไม่รู้ว่าถามตามมารยาทหรือจากใจจริง “น่อนน่อน คุณจะไปด้วยกันไหม”

“เอาสิ” มู่น่อนน่อนบอกด้วยรอยยิ้ม

พวกเธอชะงักไป ดูเหมือนจะรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย

แต่สุดท้ายแล้วมู่น่อนน่อนก็ไม่ได้ไปทานกับพวกเธอ เพราะเสิ่นเหลียงโทรมาหาเธอเสียก่อน เสิ่นเหลียงขอให้เธอช่วยเอาชุดเสื้อผ้าไปส่งให้

ทันทีที่มู่น่อนน่อนได้ยินก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ปกติ “ทางเธอเกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“พูดแล้วเรื่องมันยาว ยังไงก็เถอะตอนนี้ฉันติดอยู่ในห้องแต่งตัว เปลือยกายอยู่ไม่มีเสื้อผ้า อาจจะมีใครเข้ามาเวลาไหนก็ได้”

น้ำเสียงของเสิ่นเหลียงฟังดูสงบมาก แต่มู่น่อนน่อนใจเต้นแรง “ส่งที่อยู่มาให้ฉัน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่เสิ่นเหลียงเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง มักจะบ่นกับมู่น่อนน่อนว่าคนพวกนั้นและพวกเด็กใหม่อย่างไรก็ไร้ยางอาย

เสิ่นเหลียงยังถึงขนาดบอกด้วยว่า “ออกจากวงการบันเทิงสำคัญอะไร ยังไงฉันนอนอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายๆ อยู่แล้ว”

แต่ปรากฏว่าเช้าวันรุ่งขึ้นยังไม่ทันสว่าง เธอก็รีบลุกออกไปให้ทันประกาศเป็นทางการเสียแล้ว

เพราะว่าเธอชอบการแสดง

คนที่ไร้ความปรารถนาไร้การร้องขอ ถึงจะสามารถใช้ชีวิตผ่านไปได้อย่างเรียบง่าย

แต่ว่าถ้าคุณมีสิ่งที่ต้องการ มีคำขอที่มากเกินควร แน่นอนว่าจะต้องเดินไปบนเส้นทางที่ยากลำบาก

ก็เหมือนกับที่เธอตัดสินใจยอมรับเฉินถิงเซียว ตั้งแต่นั้นมา เธอก็เดินไปบนเส้นทางที่ไม่ได้ลิขิตให้ราบรื่น

ต่อให้จะเจ็บปวด จะล้มลุกคลุกคลาน จะถูกทิ้งขว้าง มันก็เป็นทางที่เธอเลือกเอง

ถ้าตอนนี้เธอตัดสินใจถอยออกมา จะสามารถกลับไปยังจุดเริ่มต้นได้หรือเปล่า ทุกอย่างจะเป็นดั่งเริ่มต้นไหม

มู่น่อนน่อนยังไม่ทันได้คิดให้ลึกไปกว่านั้น แท็กซี่ก็ตรงไปยังห้างสรรพสินค้าแล้ว จึงรีบซื้อเสื้อผ้าทั้งในและนอกให้กับเสิ่นเหลียงอย่างรวดเร็ว

……

สถานที่ที่เสิ่นเหลียงถ่ายโฆษณาคือสตูดิโอถ่ายทำที่สร้างขึ้นชั่วคราว แม้แต่ห้องแต่งตัวก็ถูกสร้างขึ้นเฉพาะหน้า ไม่มีความปลอดภัยแม้แต่น้อย

หลังจากที่มู่น่อนน่อนแอบเข้าไป ใช้เวลาหาอยู่สักพักถึงได้พบห้องแต่งตัว

เสิ่นเหลียงอดรนทนไม่ไหวอยู่นานแล้ว ตรงเข้าต่อยหน้าผู้ชายคนนั้นดังพลั่ก ชายที่อยู่ด้านหลังเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีจึงจะวิ่งหนี

มู่น่อนน่อนพยุงไม้ค้ำยันกระโดดขึ้นและฟาดเข้าหัวเขาอย่างแรง

เสิ่นเหลียงจัดการชายทั้งสองคนด้วยความรวดเร็ว มือหนึ่งยก เท้าหนึ่งเหยียบ “คนที่จ้างพวกแกมาถ่ายรูปเปลือยฉัน ต้องเป็นคนโง่แน่เลยใช่ไหม แค่ถ่ายรูปไม่ใช่หรือไง ต้องทำให้มันลำบากซับซ้อนขนาดนี้เลย”

ได้ยินเสิ่นเหลียงพูดอย่างนั้น มู่น่อนน่อนถึงได้รู้สึกเพิ่งหวาดกลัวกับเรื่องนี้

โชคดีที่คนที่พยายามทำร้ายเสิ่นเหลียงเป็นคนโง่

……

เสิ่นเหลียงกับมู่น่อนน่อนแจ้งตำรวจ แล้วไปสถานีตำรวจด้วยกันทันที

ตำรวจมองเสิ่นเหลียงกับมู่น่อนน่อนที่สภาพปกติดี แล้วไปมองชายสองคนที่ต้องการแอบถ่ายนั้นสภาพหน้าบวมจมูกเขียวไปหมด ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างแปลกประหลาด

สาวน้อยสมัยนี้ มองข้ามความสามารถในการต่อสู้ไม่ได้จริงๆ

ทั้งสองคนยังลงบันทึกไม่เสร็จ เฉินถิงเซียวกับกู้จือหยั่นก็มา

กู้จือหยั่นเหมือนรีบวิ่งมา ผมยุ่งเหยิง บนร่างกายสวมเสื้อโค้ต เสื้อคอเต่าด้านในคอม้วนเข้าม้วนออกไม่เป็นระเบียบ

เขาวิ่งเข้ามาและวิ่งตรงไปหาเสิ่นเหลียง ถามอย่างตึงเครียดว่า “เสิ่นเสี่ยวเหลียง คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

เสิ่นเหลียงพูดแผ่วเบาในลำคอ “ไม่เป็นไร...แค่รู้สึกกลัวมาก...”

มู่น่อนน่อนตัวสั่น ถึงแม้ว่าเมื่อครู่จะได้ยินเสิ่นเหลียงพูดด้วยน้ำเสียงโทนนี้แล้ว แต่เธอยังคงรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว

แต่กู้จือหยั่นกลับหลงเชื่อจริงๆ “ไม่ต้องกลัวๆ ผมจะช่วยฆ่าพวกเขาให้คุณเอง!”

ตำรวจส่งเสียงออกมาว่า “นี่คือสถานีตำรวจ”

เสิ่นเหลียงหันหน้ามองไปที่ตำรวจ สูดจมูกแล้วพูดเบาๆ “ฉันไม่ได้ตีพวกเขาจริงๆ นะคะ พวกเขาหกล้มกันไปเอง”

นักแสดงเจ้าบทบาทโกหกตาใส ต้องยกให้เสิ่นเหลียง

“ใช่ค่ะ พวกเราสองคนเป็นผู้หญิง เป็นไปได้ยังไงที่จะตีพวกเขาแบบนั้น อีกอย่างเท้าของฉันก็ยังเป็นแบบนี้ด้วย...” มู่น่อนน่อนพูดหน้าตาจริงจัง ไม่อยากเชื่อว่าตำรวจจะเชื่อจริงๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม