ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 51

ตอนที่51 มู่น่อนน่อนหน้าตาเปลี่ยนไป

พอมู่น่อนน่อนเข้าวิลล่ามา ก็ถามบอดี้การ์ดว่า “เฉินเจียฉินอยู่มั้ย?”

“อยู่ด้านบนครับ”

มู่น่อนน่อนถือของว่างยามบ่าย แล้วก็เดินขึ้นไปข้างบนอย่างอารมณ์ดีเพื่อไปหา“เฉินเจียฉิน”

ห้องเขาคือห้องไหนกันล่ะ?

เธอคิดอยู่แปปนึง เมื่อวานตอนเช้าเธอออกมาจากห้องเขา...

ในที่สุดเธอก็เจอห้องของ“เฉินเจียฉิน”เธอมองซ้ายขวา ตำแหน่งของห้องนี้ ดูก็รู้ว่าเป็นห้องหลักของบ้านหลังนี้

ความสัมพันธ์ของเฉินถิงเซียวกับเขาดีมาก จนถึงขนาดที่ให้ห้องนอนหลักของบ้านนี้ให้เขาอยู่เลยงั้นหรอ?

มู่น่อนน่อนยกมือขึ้นมาเคาะประตู ทันใดนั้นก็มีเสียงของ“เฉินเจียฉิน”ดังลอดออกมาจากในห้องอย่างรวดเร็ว “มีอะไร?”

น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำและเยือกเย็น มันเย็นชากว่าที่พูดกับเธอปกติเล็กน้อย

มู่น่อนน่อนตอบว่า “ฉันเอง ฉันเอาของว่างมาให้นาย”

ในห้องนั้น เฉินถิงเซียวกำลังถอดเสื้อผ้าเพื่อสำรวจบาดแผลจากกระสุนปืนของตัวเอง

หลังจากที่มู่น่อนน่อนช่วยเขาจากกระสุนปืนในครั้งนั้น เขาก็ไปรักษาร่างกายที่โรงพยาบาลเอกชน ชีวิตของเขารอดมาได้เพราะว่าแม่ของเขายอมแลกชีวิตของตัวเอง เพราะฉะนั้นเขาต้องรักษามันให้ดี

ตอนนั้นที่ให้มู่น่อนน่อนเป็นคนเอากระสุนออกให้ ก็เป็นแผนที่ได้ถูกวางมาแล้ว

ตอนนี้แผลหายดีแล้ว แต่ก็ยังเป็นแผลเป็นอยู่

เขาใส่เสื้อผ้า พอเปิดประตูออกไปก็เห็นมู่น่อนน่อนถือกล่องนึงอยู่ที่หน้าประตู

มู่น่อนน่อนเงยหน้ามองหน้าเขาพอดี ใบหน้าของเธอใสสะอาดและเรียบร้อย เธอยืนกล่องของว่างตอนกลางวันไปตรงหน้าเขา “นี่ ให้นาย”

พอเห็นของในกล่อง เขาก็รู้ทันทีว่ามันมาจากร้านอาหารจีนติ่ง

เขารับมาแล้วถามว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยมั้ย?”

“เรียบร้อยมาก ขอบคุณนายด้วย” มู่น่อนน่อนยิ้มออกมาอย่างไม่ทันตั้งใจ ใบหน้าของเธอเหมือนกับแมวน้อยที่ยิ้มจนตาหยี สามารถทำให้คนอื่นประทับใจได้

เฉินถิงเซียวกลืนน้ำลายลงไปเล็กน้อย แล้วก็ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “อืม”

หลังจากนั้นก็ปิดประตูดัง ‘ปัง’

มู่น่อนน่อน:“……” ทำไมท่าทางของเขาเมื่อกี้เหมือนว่ากลัวเธอเลยล่ะ?

เธอเดินกลับไปที่ห้อง แล้วก็ได้รับข้อความจาก“เฉินเจียฉิน”เนื้อหาในข้อความนั้นเป็นชื่ออาหาร

หลังจากนั้นก็มีข้อความเข้าต่อมาเรื่อยๆ

ในนั้นมีแต่ชื่อเมนูอาหาร

อยากกินอะไรบอกมาตั้งแต่เมื่อกี้ก็จบแล้วไม่ใช่หรอ ทำไมต้องส่งข้อความมาด้วย คนรวยนี่ชอบใช้อำนาจจริงๆ

ตอนที่เธอยังจนอยู่นั้น….ไม่ได้จ่ายค่าโทรศัพท์มาเกือบครึ่งปี นับประสาอะไรกับการส่งข้อความแบบสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้ล่ะ

ตอนที่เธอลงมาชั้นล่างนั้น ก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรที่ฟุ่มเฟือยมากกว่านั้นอีก

……

ตอนแรกมู่น่อนน่อนวางแผนจะลงไปข้างล่างเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ในตู้เย็นบ้าง

ตอนที่มาถึงห้องครัวนั้น ก็เห็นบอดี้การ์ดสองคนเอาอาหารต่างๆออกมาจากตู้เย็น

เธอเดินเข้าไปแล้วถามด้วยความสงสัย “พวกคุณเอาอาหารออกมาทำไมหนะ?”

“นี่เป็นอาหารสำหรับมื้อกลางวันของเมื่อวานครับ วันนี้ต้องเปลี่ยนใหม่”

“ทำไมต้องเปลี่ยนใหม่ด้วยล่ะ อาหารพวกนี้ยังไม่เสียเลยนะ!”

มู่น่อนน่อนก้มลงดู อาหารพวกนั้นยังสดใหม่อยู่เลย

บอดี้การ์ดมองหน้ากัน “มันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะครับ...ต้องเปลี่ยนอาหารใหม่ทุกวัน”

มู่น่อนน่อน:“……โอเคค่ะ”

ทุกครั้งที่เธอทำอาหารนั้น ในตู้เย็นก็จะมีอะไรเต็มไปหมด เธอก็นึกว่ามีคนเอาอาหารใหม่มาเติมทุกวัน ไม่คิดเลยว่าจะต้องเปลี่ยนเมนูใหม่ทุกวัน...

เขาคิดไปคิดมาจนเหม่อ ขนาดมู่น่อนน่อนเข้าห้องครัวไปแล้วเขายังมองตามอยู่เลย

เฉินถิงเซียวเดินเข้ามา แล้วก็เตะไปที่ขาของเขาทีหนึ่ง แล้วก็มองหน้าเขาอย่างเย็นชา “ดูจนพอใจแล้วก็กลับไปได้แล้ว”

กู้จือหยั่นจับขาที่เจ็บปวดของตัวเอง แล้วก็ร้องออกมา ‘โอ้ย’ : “เฉินถิงเซียว แกมันไม่มีหัวใจ!”

ยังพูดไม่ทันขาดคำ เฉินถิงเซียวก็มองหน้าเขาด้วยสายตาเยือกเย็นมาก เขาก็เลยได้สติว่าเมื่อกี้เขาพูดอะไรออกไป ก็รีบหุบปากทันที

โชคดีที่ห้องครัวอยู่ห่างจากห้องนั่งเล่นค่อนข้างเยอะ และมู่น่อนน่อนเองก็ทำอาหารอยู่ เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดออกมา

กู้จือหยั่นมองหน้าเฉินถิงเซียวด้วยสายตาหวาดกลัว “เมียแกไม่ได้ยินหรอก!”

“พวกแกไปได้แล้ว” เฉินถิงเซียวพูดจบแล้วก็เดินไปที่ห้องอาหาร

กู้จือหยั่นได้กลิ่นหอมๆของอาหารลอยมา ก็เดินตามเฉินถิงเซียวไปที่ห้องอาหาร

เฉินถิงเซียวหันหน้ากลับมา แล้วก็มองหน้าเขาด้วยสีหน้านิ่งเฉย “แกอยากไปแอฟริกางั้นหรอ?”

หลังจากพูดจบ เขาก็เห็นว่าฟู้ถิงซีก็เดินตามมาเหมือนกัน

พอเห็นสายตาของเฉินถิงเซียว ฟู้ถิงซีก็ก้มลงมองข้อมือ ข้อเท้าของตัวเอง ทำเหมือนว่าไม่เห็นสายตาไล่แขกของเฉินถิงเซียว

ปีหนึ่งมี 365วัน เขาก็กินอาหารนอกบ้านไปแล้ว 366วัน ตอนนี้มีโอกาสได้กินอาหารที่บ้าน ทำไมเขาจะต้องไปด้วยล่ะ?

เขาได้กลิ่นซุปปลาเผ็ดด้วย!

อาหารจานสุดท้ายของมู่น่อนน่อนทำเสร็จแล้ว ทันใดนั้นก็หันมาเห็นผู้ชายสามคนยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องอาหาร แต่ไม่ยอมเข้ามา

เธอไม่รู้เลยว่าผู้ชายพวกนี้ยืนอยู่ตรงประตูอย่างไร้เดียงสา ตอนแรกก็นึกว่า “เฉินเจียฉิน”เป็นคนบอกให้พวกเขาอยู่กินข้าวด้วยกัน

ถ้าเกิดว่าจะให้พวกเขากินข้าวด้วยกัน แล้วทำไมไม่เข้ามาล่ะ?

มู่น่อนน่อนมองไปทาง“เฉินเจียฉิน” แล้วก็ถามออกมาอย่างไม่แน่ใจว่า “คุณจะออกไปกินกับเพื่อนข้างนอก หรือว่ากินในบ้านล่ะ? อาหารที่ฉันทำมันธรรมดาไปหน่อย……”

ตัวตนของกู้จือหยั่นก็เห็นชัดๆอยู่แล้ว ฟู้ถิงซีเองก็ดูไม่ธรรมดาเหมือนกัน พวกเขาคงจะเลือกกินเหมือนกับ“เฉินเจียฉิน” คงจะอยากไปกินในภัตตาคารใหญ่มากกว่า

กู้จือหยั่นเบียดเฉินถิงเซียวแล้วเดินเข้ามาในห้องอาหาร ยิ้มตาหยีแล้วตอบว่า “ฉันชอบกินอาหารธรรมดาๆ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม