ตอนที่57 ตอนนี้สิ่งที่เธอรอคอยมาถึงแล้ว
มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป แล้วก็เงยหน้าขึ้นโดยที่ไม่ปิดประตู เธอยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ผู้จัดการซุนออกจากโรงพยาบาลแล้วหรอคะ? วันนี้ฉันว่าจะไปเยี่ยมคุณสักหน่อย”
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ชื่อของเขาคือซุนเจิ้งหวา แต่งงานและมีลูกสาวแล้ว เมียของเขาดุมาก เคยตามล่าซุนเจิ้งหวามาถึงที่บริษัทเพราะว่าเขาเคยไปมีความสัมพันธ์ลับๆกับเพื่อนร่วมงานผู้หญิง
หลังจากวันนั้น คนในบริษัททุกคนก็ต่างรู้ว่าซุนเจิ้งหวากลัวเมียมาก
เมื่อวานพึ่งทำงานได้วันแรกก็ทำเรื่องให้ผู้จัดการแผนกแล้ว เธอก็ต้องเตรียมตัวมาอยู่แล้ว
พอซุนเจิ้งหวาเห็นหน้ามู่น่อนน่อน ใบหน้าของเขาก็กระตุกทันที ผู้หญิงคนนี้ดูอ่อนแอจะตาย คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่กลัวอะไรเลยขนาดนี้
เขาอยู่บริษัทนี้มาสิบกว่าปี ไม่มีวันยอมโดนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆรังแกแน่นอน!
ดวงตาของซุนเจิ้งหวาเต็มไปด้วยความมุ่งร้าย เขาเงยหน้าขึ้นมาอย่างเย็นชา แต่ไม่ได้สนใจมู่น่อนน่อนเลยแม้แต่น้อย
มู่น่อนน่อนเองก็ไม่แคร์เขาเหมือนกัน เธอเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ามู่ลี่เหยียน แล้วพูดว่า “พ่อ เรียกหนูมามีธุระอะไรรึเปล่าคะ?”
ถึงแม้ว่าในใจเธอจะรู้ดีอยู่แล้ว มู่ลี่เหยียนและลูกสาวของเขาไม่พอใจเธอ ก็เลยหาเรื่องมาเล่นงานเธอ แต่ว่าเธอก็เสแสร้งทำเป็นไม่รู้
มู่ลี่เหยียนสีหน้าเย็นชา แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวด “น่อนน่อน ถ้าเกิดว่าลูกไม่พอใจงานที่พ่อจัดให้ ก็มาบอกพ่อตรงๆก็ได้นิ ลูกเอาไฟไปช็อตผู้จัดการซุนแบบนี้มันหมายความว่ายังไง? ถ้าเกิดว่าข่าวเรื่องนี้หลุดออกไป แล้วคนอื่นรู้เข้าว่าลูกสาวของมู่ลี่เหยียนใช้อำนาจบาตรใหญ่! มันจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเรานะ!”
มู่น่อนน่อนไม่ขัดคำพูดของเขา เธอตั้งใจฟัง หลังจากนั้นก็เสแสร้งทำเป็นตกใจ “ดูเหมือนว่าจะร้ายแรงมากเลยนะเนี่ย”
มู่หวั่นขีหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “รู้ว่าผลที่ตามมาจะร้ายแรง แล้วเธอยังไม่ขอโทษผู้จัดการซุนอีกหรอ!”
มู่น่อนน่อนไม่ได้สนใจมู่หวั่นขีเลยแม้แต่น้อย เธอหันหน้าไปมองมู่ลี่เหยียน แล้วก็พูดอย่างจริงจังมากว่า “พ่อ ในเมื่อพูดถึงเรื่องที่กระทบเรื่องภาพลักษณ์บริษัท แล้วเรื่องของพี่สาวเรานี่จัดการได้แล้วหรอ? หลายวันก่อนนี้หนูเห็นคนในอินเตอร์เน็ตพูดกันว่า พวกเขาเห็นพี่สาวไปปาร์ตี้ที่คลับจี่อจีนอีกแล้วนิ”
พอ มู่หวั่นขีได้ยินดังนั้น หน้าก็ซีดทันที แล้วก็พยายามจะหาข้ออ้างให้ตัวเอง “พ่อ หนู….”
แต่ว่ามู่น่อนน่อนขัดคำพูดของเธอก่อน เธอยิ้มแล้วพูดว่า “หนูรู้ดีอยู่แล้วว่าพี่สาวของหนูไม่ใช่คนแบบนั้น พี่สาวของหนูจะไปที่คลับจี่อจีนได้ยังไงกันล่ะ? หนูคิดว่าน่าจะเป็นคู่แข่งของเรา พยายามจะใส่ร้ายพี่สาว แล้วก็บอกว่าพ่อไม่สั่งสอน แล้วก็ถือว่าบริษัทมู่ซื่อของเราเป็นบริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือ”
มู่น่อนน่อนพูดอย่างจริงจัง แม้แต่ตัวเธอเองก็เกือบเชื่อแล้วเหมือนกัน
ภาพถ่ายและวิดีโอที่ไม่เหมาะสมของมู่หวั่นขี มู่ลี่เหยียนก็ลบออกจากอินเตอร์เน็ตไปหมดแล้ว
แต่ว่าหลังจากนั้นก็มีคนเอามาโพสอีกครั้ง มู่ลี่เหยียนพยายามใช้เส้นสายทุกทางก็ไม่สามารถลบมันออกไปได้ ได้แต่รอให้เรื่องมันเงียบลง เขาก็ซื้อแพลตฟอร์มนั้นอีกครั้ง แล้วก็ขอให้พวกเขาลบรูปและคลิปพวกนั้นออก
ต้องพยายามลบมันตั้งหลายวันกว่าจะลบได้ มู่ลี่เหยียนไม่คิดเลยว่ามู่หวั่นขีจะไปเที่ยวเล่นที่คลับจี่อจีนอีกแล้ว!
คำพูดของมู่น่อนน่อน สามารถดึงดูดความสนใจของมู่ลี่เหยียนได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าเขาอยากจะกดดันมู่น่อนน่อน แต่ว่าสำหรับเขาแล้วนั้น เรื่องของมู่หวั่นขีสำคัญกว่า
มู่ลี่เหยียนสีหน้าเยือกเย็น “พวกเธอออกไปก่อน!”
มู่น่อนน่อนก็เดินออกไปก่อน ถึงแม้ว่าซุนเจิ้งหวาจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่เขารู้ว่าผู้อำนวยการต้องจัดการเรื่องในครอบครัวก่อน เพราะฉะนั้นก็เดินตามออกไปเหมือนกัน
หลังจากเขาออกไป ก็เห็นว่ามู่น่อนน่อนยืนกอดอกอยู่ด้านหน้าประตูยังไม่ได้เดินไปไหล
มู่น่อนน่อนยิ้มมุมปาก ใบหน้าซีดๆของเธอก็เยือกเย็นลงทันที “ผู้จัดการซุน ผู้อำนวยการบอกว่าฉันช็อตไฟใส่คุณ คำพูดพวกนี้คุณเป็นคนฟ้องเองงั้นหรอ?”
พอ ซุนเจิ้งหวาเห็นท่าทีเย็นชาของมู่น่อนน่อน เขารู้สึกเหมือนมีตะขอกำลังเกี่ยวหัวใจของเขาอยู่ รู้สึกคันไปทั้งตัว
มู่ลี่เหยียนอยู่ในภาคธุรกิจนี้มาตั้งหลายปี มีประสบการณ์มากมาย เขาเข้าใจเรื่องของคลับจี่อจีนดี สายตาเขายังมองไกลกว่ามู่หวั่นขีเยอะ
มู่หวั่นขีโดนมู่ลี่เหยียนด่า ก็รู้สึกรับไม่ค่อยได้ แต่ว่าเธอก็รู้ดีว่ามู่ลี่เหยียนรักเธอมาก เพราะฉะนั้นเธอจึงจำความแค้นนี้ไว้ในใจ
ถึงแม้เธอจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ผิดอะไร แต่เพื่อที่จะให้มู่ลี่เหยียนหายโกรธ เธอก็รีบยอมรับผิดอย่างเชื่อฟัง “พ่อคะ หนูรู้แล้วว่าหนูผิด หนูจะเกาะเสิ่นชูหานไว้ให้แน่น”
มู่ลี่เหยียนถอนหายใจ “เฮ้อ โอเค ไปทำงานต่อเถอะ”
……
มู่น่อนน่อนเดินกลับมาถึงโต๊ะทำงานของตัวเอง แล้วก็อ่านเอกสารของเธอต่อ
ตอนนี้เธอมีเบอร์โทรศัพท์ของเฉินถิงเซียวแล้ว แต่ว่าเมื่อคืนเธอเอาแต่ลังเล สุดท้ายก็เลยไม่ได้โทรไปหาเขา
ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมง ที่อเมริกาก็น่าจะสองทุ่มแล้ว ตอนนี้เขาน่าจะยังไม่นอน
ถ้ายังงั้นส่งข้อความไปดีมั้ย?
[ฉันคือมู่น่อนน่อนเองค่ะ อยู่ที่อเมริกาสบายดีมั้ยคะ?]
พูดแบบนี้ได้มั้ย? มันจะดูเสือกเรื่องของเขาไปหน่อยรึเปล่า?
มู่น่อนน่อนลบๆเปลี่ยนๆอยู่แบบนั้น สุดท้ายข้อความที่ส่งไปก็คือ [ฉันคือมู่น่อนน่อนเองค่ะ ขอบคุณที่ส่งโทรศัพท์มาให้ใช้ ฉันชอบมากเลย]
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...