ตอนที่ 77 อยากดื่มเหล้า ผมจะดื่มเป็นเพื่อนคุณ
สือเย่โทรหามู่น่อนน่อนอีกครั้ง ก็พบว่าไม่มีคนรับ จึงรู้สึกตัวขึ้นมามันแปลกๆ ไป
ในตอนที่เขากำลังจะโทรหาเฉินถิงเซียว เฉินถิงเซียวก็เป็นคนโทรมาถามสถานการณ์ก่อน
“ทำไมถึงยังไม่กลับมา ยังไม่ไปรับอีกหรือ”
ครึ่งประโยคหลังนั้น น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวเย็นเยียบลงอย่างเห็นได้ชัด
“ยังครับ โทรหาคุณหญิงแล้วแต่เธอไม่รับสายครับ ผมสงสัยว่าเธออาจจะออกไปนานแล้ว ไม่อย่างนั้นก็อาจจะ...” เกิดอุบัติเหตุ
เขาไม่กล้าพูดสามคำหลังออกมาต่อ
เงียบไปอึดใจ ปลายสายก็มีเสียงของเฉินถิงเซียวที่กำลังระงับความโกรธเอาไว้จนเสียงแหบดังขึ้นมา “แล้วยังไม่รีบไปหาอีกหรือ”
“ครับ”
วางสายโทรศัพท์ เฉินถิงเซียวก็รีบหยิบเสื้อคลุมและเดินออกไปข้างนอกทันที
หลังจากที่เข้าไปในโรงรถและขับออกมาหนึ่งคัน เขาเพิ่งจะมีเวลาคิดขึ้นได้
เรื่องในวันนี้ที่เซียวชู่เหอมาหาเขา จะต้องส่งผลกระทบต่อมู่น่อนน่อนไม่น้อยแน่
ถึงแม้เธอจะดูโหดเหี้ยม แต่ความจริงก็เป็นแค่เสือกระดาษ ให้เขาบดขยี้อีกสองสามครั้งเธอก็แหลกแล้ว
ความเป็นไปได้ที่จะเกิดอุบัติเหตุนั้นมีน้อยมาก กลับกันความน่าจะเป็นที่จะหลบตัวเพราะความเสียใจกลับมีมากกว่า
ทันใดนั้น มือถือของเขาก็ดังขึ้นมา
เขาก้มหน้าเหลือบสายตามอง ก็พบว่าเป็นกู้จือหยั่นที่โทรมา
“มีธุระอะไร”
กู้จือหยั่นยังคงพูดด้วยน้ำเสียงที่โง่งม “น้ำเสียงนายทำไมแย่แบบนี้ กินดินปืนเข้าไปหรือไง”
เฉินถิงเซียวขี้เกียจจะคุยกับเขา จึงตัดสายไป
มุมหนึ่งในบาร์ กู้จือหยั่นมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไป ตี๊ดๆ ดังขึ้นมาสองครั้ง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายมู่น่อนน่อนที่นั่งอยู่ไม่ไกลออกไปหนึ่งรูป แล้วส่งให้กับเฉินถิงเซียว
ตัดสายเขาทิ้งหรือ
เดี๋ยวเฉินถิงเซียวจะต้องเป็นฝ่ายโทรมาหาเขาอย่างแน่นอน
ทันใดนั้น สายจากเฉินถิงเซียวก็โทรเข้ามาอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงจนชาอย่างน่าประหลาด “สถานที่”
“นี่คือน้ำเสียงของคนที่กำลังขอร้องหรือ” กู้จือหยั่นอดไม่ได้ที่จะฉวยโอกาสจากเฉินถิงเซียว จึงไม่ยอมบอกเขาไปแต่โดยดี
“ธุรกิจขยายตัวที่แอฟริกายังว่างอยู่หนึ่งตำแหน่ง”
“ห่า” กู้จือหยั่นสบถลั่น และรีบบอกสถานที่บาร์แก่เฉินถิงเซียวโดยเร็ว
เฉินถิงเซียวจะเอาเรื่องนี้มาขู่เขาทุกครั้ง แต่มันก็ได้ผลไปซะทุกครั้ง
เพราะเฉินถิงเซียวเคยทำเรื่องนี้มาแล้ว ก่อนหน้านี้กู้จือหยั่นเคยทำเรื่องรั่วไหลครั้งใหญ่เพราะความประมาท ก็เลยถูกเฉินถิงเซียวโยกย้ายไปทำที่แอฟริกา
ในพจนานุกรมของเฉินถิงเซียว ไม่มีคำว่า “พูดเล่นๆ” เขาพูดจริงทำจริงเสมอมา
.....
ในบาร์
หลังจากที่มู่น่อนน่อนดื่มเหล้าในแก้วจนหมด ก็ยังไม่มีอาการเมาเลยแม้แต่น้อย จึงสั่งเบียร์มาอีกหนึ่งโห
พรสวรรค์ด้านการดื่ม ทำให้ไม่เมาง่ายๆ ในช่วงเวลาปกติก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่มู่น่อนน่อนในตอนนี้ต้องการซื้อมาเพื่อเมา
มู่น่อนน่อนสวยโดดเด่น มาเพียงคนเดียว และเบื้องหน้ามีเบียร์อยู่หนึ่งโหล เพียงมองแวบเดียวก็รู้ว่าอารมณ์ไม่ดีและต้องการมาเพื่อเมา มีผู้ชายไม่น้อยที่เมียงมองมาทางเธอ และต้องการจะเข้าหา
ท้ายที่สุด ก็มีผู้ชายสองคนได้ทดลองเข้าไปทักทาย
“คนสวย มาคนเดียวหรือ”
มู่น่อนน่อนเหลือบมอง ผู้ชายสองคนนี้สวมชุดสูท ดูแล้วเหมือนคนระดับสูง ดูมีมาดเล็กน้อย น่าจะอยู่ในระดับผู้บริหารของบริษัท
จิตใจกู้จือหยั่นว้าวุ่น รีบเดินทางหามู่น่อนน่อน เพื่อกู้สถานการณ์สักเล็กน้อย
แต่เขาก็ไม่เคยเดินได้เร็วเท่าเฉินถิงเซียวเลย
เพียงเฉินถิงเซียวเดินเข้ามาก็เห็นมู่น่อนน่อนทันที
เมื่อเห็นใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มและกำลังนั่งเล่นลูกเต๋าดื่มเหล้ากับผู้ชาย ดูเหมือนว่าค่อนข้างจะมีความสุขทีเดียว
เหอะ เขารีบขับมาด้วยความเร็วราวกับจะบิน แต่เธอกลับสบายดี และกำลังเล่นกับผู้ชายคนอื่นอย่างมีความสุข
มู่น่อนน่อนหันหลังให้ทางเข้า จึงไม่เห็นเฉินถิงเซียว เพียงแค่ในตอนที่เขาเดินเข้ามาใกล้ ก็รู้สึกเย็นยะเยือกจากทางด้านหลังเล็กน้อย บรรยากาศที่คุ้นเคยกำลังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนเธออดที่จะหันไปมองไม่ได้
ประจวบเหมาะกับที่เฉินถิงเซียวเดินมาถึงด้านหลังของเธอพอดี มู่น่อนน่อนชะงักค้าง “คุณมาได้อย่างไร”
ชายทั้งสองคนที่ดื่มจนเริ่มเมา เมื่อเห็นว่ามีชายอีกคนหนึ่งเดินเข้ามา ก็เอ่ยถาม “ใครกัน”
มู่น่อนน่อนหันไปมองพวกเขา และเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “ลูกพี่ลูกน้องฉันเอง หล่อใช่ไหม มีผู้หญิงมาคอยตามมากมายเลย”
ใบหน้าของเฉินถิงเซียวมืดครึ้ม มองขวดเปล่าที่อยู่ข้างหน้าเธอ และคำนวณมาเธอนั้นดื่มเหล้าไปเท่าไหร่แล้ว
กล่าวจบ เธอก็ยื่นมือไปลากแขนของ “เฉินเจียฉิน” “นั่งลงเร็ว”
“มู่น่อนน่อนกลับบ้าน” สีหน้าของเฉินถิงเซียวเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ใบหน้าแข็งกระด้าง เห็นได้ชัดว่าเป็นสัญญาณของอาการโมโห
“ไม่อยากกลับ ไม่มีบ้าน” มู่น่อนน่อนก้มหน้า ยกเหล้าที่อยู่เบื้องหน้าขึ้นมาดื่มจนหมด สีหน้ายิ้มแย้มเมื่อครู่หายไปในทันที เหลือเพียงแต่ใบหน้าหม่นหมอง
ไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก เติบโตมาอย่างยากลำบาก เคยใฝ่ฝันจะตามหาคนที่เหมาะสมมาสร้างครอบครัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความสุขด้วยกัน แต่ก็มาถูกแม่แท้ๆ ไล่มาแต่งงานกับเฉินถิงเซียวแทนมู่หวั่นขี
เธอมีบ้านที่ไหนกัน
เธอไม่มี
เฉินถิงเซียวได้ยินเช่นนั้น ก็จ้องเธอนิ่งอยู่สองสามวิ ขยับริมฝีปาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยปลอบใจอะไรออกไป เพียงแต่นั่งลงข้างเธออย่างเงียบๆ “อยากดื่มเหล้า ผมจะดื่มเป็นเพื่อนคุณเอง”
เสียงแหบของเขายังคงทุ้มต่ำน่าดึงดูดเช่นเดิม แต่มู่น่อนน่อนที่ได้ยินเช่นนั้น กลับรู้สึกว่ามันน่าฟังมากกว่าปกติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...