ตอนที่ 78 ดาหน้าเข้ามา อุ้มโยนออกไป
เฉินถิงเซียวนั่งลง บรรยากาศกดดันแผ่ออกมาโดยที่ไม่ได้ทำอะไร จนทำให้ชายทั้งสองคนที่เมาได้ที่แล้วสร่างขึ้นมาเต็มตา
เมื่อพวกเขาเจอเฉินถิงเซียวที่สูงสง่า มีเสน่ห์ไม่ธรรมดาแล้ว ก็อดที่จะสับสนไม่ได้ สายตาของพวกเขายามที่มองมู่น่อนน่อนได้เปลี่ยนไปแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ว่าภูมิหลังอะไรใช่ไหม
มู่น่อนน่อนเหลือบมอง “เฉินเจียฉิน” ก่อนจะหันไปมองชายสองคน “ชะงักทำไมกัน เล่นต่อสิ มา”
กล่าวจบ เธอก็ “ป๊อกๆๆ” เปิดเหล้าอีกหลายขวด
ชายทั้งสองคนเหลือบมองเฉินถิงเซียว เฉินถิงเซียวเพียงกวาดสายตาเย็นชามองไปเท่านั้น ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนสีทันที
พวกเขาไม่ใช่พวกเด็กปลายแถว คลุกคลีอยู่ในสังคมนี้มาหลายปี รู้ว่าคนแบบไหนที่ไปยุ่งได้หรือไปยุ่งไม่ได้ ดังนั้นจึงทยอยกันลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “พวกเรายังมีธุระต่อ ขอตัวก่อนล่ะ”
มู่น่อนน่อนมองแผ่นหลังดำๆ ของทั้งสอง ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้าไปหาเรื่อง “เฉินเจียฉิน” “คุณทำเพื่อนดื่มของฉันกลัวจนหนีไปแล้ว ตอนนี้คุณจะดื่มเป็นเพื่อนฉันไหม”
“ผมดื่มกับคุณ” เฉินถิงเซียวเหลือบมองเธอ ก้มหน้าไปหยิบไพ่วงเหล้าที่เธอเปิดเมื่อครู่ขึ้นมา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและเริ่มดื่ม
มู่น่อนน่อนหันหน้าไป ก็เห็นลูกกระเดือกของเขาที่ขยับไปมาตอนที่ดื่มเหล้า ดูเซ็กซี่ขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูก
โดยเร็ว เฉินถิงเซียวก็ดื่มจนหมดขวด คว่ำขวดลง และไม่มีหยดเหล้าไหลลงมาสักหยด
ดื่มจนเกลี้ยงของจริง
มู่น่อนน่อนเองก็หยิบขึ้นดื่มหนึ่งขวด
ดวงตาของเธอหรี่เล็กน้อย คอเรียวเงยขึ้น มันดูบอบบางและละเอียดอ่อน
กู้จือหยั่นที่แต่เดิมคิดจะเดินเข้ามา พอเห็นทั้งสองผลัดกันดื่มคนละขวด ก็ไม่กล้าเข้ามารบกวนพวกเขาอีก กลับถ่ายวิดีโออย่างกระตือรือร้นและส่งให้ฟู้ถิงซีได้ดูความสนุกสนานนี้ด้วยกัน
.....
เฉินถิงเซียวไม่คิดเลยว่ามู่น่อนน่อนจะดื่มเหล้าเก่งขนาดนี้ ดื่มเบียร์หมดไปหนึ่งโหล ดวงตาของเธอก็ยังใสแจ๋ว
แต่โดยเร็ว เขาก็พบว่าตัวเองนั้นคิดผิด
มู่น่อนน่อนกระแทกขวดเปล่าลงกับโต๊ะดัง ปึง หลังจากนั้นก็ยื่นมือออกมา และโอบเข้าที่ไหล่ของเฉินถิงเซียว
แต่เพราะเฉินถิงเซียวตัวสูงกว่าเธอแม้ว่าจะนั่งอยู่ เธอจึงใช้ความพยายามอยู่บ้างในการยกขึ้น พลาดไปหนึ่งครั้งกว่าจะพาดไหล่ของเขาได้
ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังหันหน้ามาหาเขาใกล้ๆ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างถึงที่สุด “ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ”
ยามที่เธอพูดมีกลิ่นแอลกอฮอล์ติดอยู่เล็กน้อย แต่กลับไม่ทำให้รังเกียจเลยแม้แต่นิด กลับกันกับน่าดึงดูด จนเฉินถิงเซียวว้าวุ่นขึ้นมาเล็กน้อย
แต่เพราะน้ำเสียงของเธอจริงจังเกินไป เฉินถิงเซียวจึงเอ่ยถามเธอด้วยคิ้วขมวด “เรื่องอะไร”
ว่ากันว่าคำพูดเวลาเมามักจะเป็นความจริง ผู้หญิงคนนี้กำลังจะบอกความลับของตัวเองให้เขาฟังหรือ
มู่น่อนน่อนมองไปรอบๆ หลังจากนั้นก็กระซิบกับเขาเสียงแผ่ว “ฉันอยากไปห้องน้ำ แต่ฉันเริ่มมึนหัวแล้ว คุณประคองฉันไปหน่อยสิ”
“......”
ใบหน้าของเฉินถิงเซียวมืดครึ้มไปชั่วขณะ
เมื่อเห็นเฉินถิงเซียวไม่ขยับ มู่น่อนน่อนจึงเขย่าแขนของเขาไปมา “คุณอย่าใจแคบไปหน่อยเลย ดูสิว่าฉันทำอาหารให้คุณมานานขนาดไหน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ คุณจะช่วยกันไม่ได้เลยหรือ”
เฉินถิงเซียวก้มมองเธอ ดวงตาสวยเหมือนแมวของเธอหรี่ลงเล็กน้อย ท่าทางดูมึนงงเล็กน้อย
ดูแล้วน่าจะเมาแล้วจริงๆ
หากเป็นเวลาปกติ ตีให้ตาย เธอก็ไม่ทางพูดให้เขาประคองเธอไปห้องน้ำแบบนี้ออกมาแน่ๆ
เฉินถิงเซียวนึกคิด ขบฟันและกล่าวว่า “ช่วยได้”
กู้จือหยั่นที่หลบมุมมองความสนุกสนานอยู่ เมื่อเห็นเฉินถิงเซียวประคองมู่น่อนน่อนขึ้น ก็คิดว่าในที่สุดทั้งสองคนก็จะออกไปแล้ว
ดังนั้นเขาจึงออกตามพวกเขาไป
สีหน้าของมู่น่อนน่อนดูงุนงง “หือ”
แววตาของเฉินถิงเซียวเข้มขึ้น และเอ่ยเสียงเบา “กลับบ้านไปแล้วจะดีให้คุณดู”
เขาล้างมือให้มู่น่อนน่อนอย่างตั้งใจ จูงมือเธอกลับไปยังห้องโถง หยิบเสื้อของเธอมาคลุมร่างของเธอ และเลือกที่จะพาเธอกลับ
แต่ในตอนนั้นมู่น่อนน่อนก็โวยวายขึ้นมาอีกครั้ง “ไม่ได้ๆ ฉันยังดื่มไม่พอเลย ฉันยังอยากดื่มต่อ”
กล่าวจบ เธอก็เอื้อมมือไปคว้าขวดเหล้า
ขณะเดียวกัน ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากห้องส่วนตัว หนึ่งในนั้นมีผู้ชายที่เคยนั่งอยู่ข้างๆอยู่ จงใจเดินมาชนเฉินถิงเซียว
หลังจากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงต่ำถ่อย “โอ้ว้าว เด็กน้อย กล้ามของนายหนาใช้ได้เลยนะ กระแทกฉันจนแข็งเลย”
กลุ่มคนที่เดินตามหลังเขาก็หัวเราะตามขึ้นมา
มู่น่อนน่อนเดินมาพร้อมกับขวดเหล้า “อะไรแข็งแล้ว”
สีหน้าของเฉินถิงเซียวมืดครึ้มพร้อมผลักหัวของเธอที่โผล่มาทางด้านหลังของเขากลับเข้าไป และถีบคนที่พูดขึ้นมาอย่างแรง
คนคนนั้นล้มไถลออกไปไกลในทันที เสียงกระแทกกับพื้นดัง ปึก ที่ได้ยินนั้นรู้สึกว่าน่าจะเจ็บทีเดียว
คนอื่นๆ ที่เห็นแบบนั้น ก็ค่อยๆ ตีล้อมเข้ามา “ล้อเล่นเท่านั้นเอง เด็กน้อย หากยอมคุกเข่าตอนนี้แล้วเรียกคุณปู่ วันนี้พวกเราจะปล่อยนายไป ไม่อย่างนั้น...”
ทันใดนั้น ก็มีเสียง ปึก ดังขึ้นมาอีกครั้ง
ทุกคนต่างหันไปมองกันถ้วนหน้า ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งถือขวดเหล้าที่แตกเหลือเพียงครึ่งเท้าเอวและยืนอยู่บนเก้าอี้
มู่น่อนน่อนที่เห็นทุกคนหันมามองเธอ ก็ชี้หน้าคนที่พูดด้วยอารมณ์เดือดดาล “หลานเอ๊ย นายนั่นแหละเดินมาก้มหน้าสารภาพผิดกับคุณปู่ด้วยตัวเองจะดีกว่า วันนี้คุณปู่จะยอมฝืนใจปล่อยเอ็งไป ไม่อย่างนั้นฉันจะให้พวกนายดาหน้ามาตรงๆ และอุ้มโยนออกไปข้างนอกซะ”
มู่น่อนน่อนเอียงหน้า ดวงตาหรี่ลง ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยอารมณ์
เฉินถิงเซียวโมโหจนเส้นเลือดที่หน้าผากแทบจะระเบิด “มู่น่อนน่อน ลงมาหาผมเดี๋ยวนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...