ตอนที่ 87 เตรียมเงินมาห้าสิบล้าน ไม่อย่างนั้นก็ฆ่าตัวประกัน
พอมู่น่อนน่อนพูดเสร็จ ในรถก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบผิดปกติ
เธอมองสือเย่ที่ขับรถอยู่แล้วหันมามอง“เฉินเจียฉิน” เห็นเขากำลังคิดอะไรเหม่อลอยอยู่ เธอเลยยื่นมือไปตบเขาทีนึง:“คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยนะ ว่าพี่ชายคุณชอบทานอะไรกันแน่! ”
เฉินถิงเซียวดึงสติกลับมา มองเธออย่างลึกซึ้งทีนึง ผ่านไปหลายวินาทีถึงเอ่ยปากพูด:“เขาเป็นคนง่ายๆไม่เรื่องมาก ทานอะไรได้หมด”
ที่เขาพูดคือความจริง ฝีมือทำอาหารของมู่น่อนน่อนเยี่ยมมาก เขาทานอาหารที่เธอทำมานานขนาดนี้ รู้สึกรสชาติแต่ละอย่างอร่อยไปหมด
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าที่เขาพูดออกมานั้น เหมือนไม่ได้คำตอบจากคำพูดของเขาเลย
หลังจากนั้น “เฉินเจียฉิน”ก็เงียบมาตลอด ไม่พูดอะไรอีกเลย
ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เรื่องแรกที่มู่น่อนน่อนกลับถึงบ้านก็คือไปหาเฉินถิงเซียว
เธอวิ่งไปเคาะประตูห้องทำงานของเขา นานพักนึงก็ไม่มีคนมาเปิดประตู
ตอนที่ลงบันไดมา เธอเห็น“เฉินเจียฉิน” เลยแปลกใจถามเขา:“พวกคุณบอกว่าเฉินถิงเซียวเขาอยู่บ้านไม่ใช่หรอ?เมื่อกี้ ฉันไปเคาะประตูห้องทำงานของเขา ไม่เห็นมีคนมาเปิดเลย”
เฉินถิงเซียวหันไปมองทางอื่น พยายามหลีกเลี่ยงสายตาของมู่น่อนน่อน:“คงกลับไปพักผ่อนที่ห้องแล้วมั่ง สุขภาพของพี่ไม่ค่อยดี เลยเหนื่อยง่าย”
หลังจากพูดโกหกไปครั้งนึง ก็จำเป็นต้องพูดโกหกอีกต่อไปเพื่อที่จะได้ไม่ถูกจับได้
ก่อนหน้านี้ ที่หลอกมู่น่อนน่อนก็แค่รู้สึกว่าเธอสนุกดี เลยล้อเล่นกับเธอ
ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง ก็ได้ยินที่เธอคอยปกป้อง“เฉินถิงเซียว”คนๆนี้ตลอดเวลา
เฉินถิงเซียวเกิดในตระกูลใหญ่ที่ร่ำรวย ฟังเรื่องราวคำพูดมาตั้งมากมาย คำพูดของมู่น่อนน่อนเป็นคำพูดที่จริงใจหรือหลอกลวง แค่มองทีนึงเขาก็รู้แล้ว
ก็เพราะมองออกว่าคำพูดของมู่น่อนน่อนพูดจากใจจริง อารมณ์และความรู้สึกของเขาในตอนนี้ซับซ้อนจนตัวเองก็อธิบายไม่ถูก
“อ๋อ”มู่น่อนน่อนพยักหน้าแล้วเดินลงไปชั้นล่างไปเลย
เฉินถิงเซียวมองเธอเดินเข้าไปในครัว แล้วก็ได้หยิบมือถือออกมาโทรหากู้จือหยั่นด้วยอารมณ์หงุดหงิด:“ออกมาดื่มเหล้าเป็นเพื่อนฉันหน่อย!”
“ฉันจะ……”กู้จือหยั่นอ้าปากจะปฏิเสธ แต่ก่อนเข้าจะมีโอกาสพูดออกมา เฉินถิงเซียวก็ตัดสายทิ้งไปก่อนแล้ว
……
สถานบันเทิงระดับสูงจีนติ่ง
กู้จือหยั่นเขย่าแก้วเหล้าอย่างไม่เต็มใจแล้วยื่นตัวมาตรงหน้าของเฉินถิงเซียว:“ไหนรองบอกมาซิ มีเรื่องเครียดอะไรที่ทำให้ต้องตามฉันมาดื่มเหล้ากลางวันแสกๆแบบนี้ ?”
เฉินถิงเซียวไม่พูดอะไร กรอกเหล้าใส่ปากตัวเองไปแก้วนึงอย่างเงียบๆ
กู้จือหยั่นเห็นเขาเป็นแบบนี้แล้ว ก็ตระหนักถึงเรื่องอาจจะร้ายแรง และไม่ทำเป็นเล่นอีกต่อไป สีหน้าจริงจังพูดขึ้นมา:“ยังไงแล้ว นายก็ควรจะเล่าหน่อยว่ามันเรื่องอะไร?”
เฉินถิงเซียวยอมหันหน้ามามองเขาได้สักที
แต่เขามองกู้จือหยั่นได้ไม่กี่วินาที สายตาก็หันไปทางอื่นต่อ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย:“พูดไปนายก็ไม่เข้าใจ”
“……”นั้นนายเรียกฉันมาดื่มเป็นเพื่อนของนายทำไมวะ?
……
ตอนที่มู่น่อนน่อนทำอาหารเสร็จ บอดี้การ์ดกลับบอกกับเธอว่าเฉินถิงเซียวออกไปพร้อมกับ“เฉินเจียฉิน”ไปแล้ว
เธอเลยได้แต่ทานข้าวตัวคนเดียว เพิ่งจะหยิบตะเกียบขึ้นมา โทรศัพท์ของเธอก็ได้ดังขึ้น
เธอหยิบมือถือออกมาดู เห็นว่าเป็นเซียวชู่เหอโทรมา
เธอยื่นนิ้วไปแตะที่หน้าจอ สุดท้ายก็ยอมกดเลื่อนรับสาย
มู่น่อนน่อนเปิดปุ่มแฮด์ฟรีบนมือถือ น้ำเสียงเรียบเฉยมาก:“ ฮัลโหล?”
เสียงรบกวนที่แสบแก้วหูดังมาจากปลายสายพักนึง จากนั้นก็มีเสียงผู้หญิงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ:“น่อนน่อน ช่วยฉันด้วย……”
มู่น่อนน่อนมองเบอร์ถือมืออีกที ใช่เบอร์ของเซียวชู่เหอไม่ผิด
“คุณหนูสาม?”สีหน้าคนใช้ดูเหลือเชื่อ แต่ดูดีๆแล้ว ผู้หญิงตรงหน้าก็หน้าคล้ายคุณนายอยู่บ้าง
คนใช้ไม่กล้าห้ามเธอไว้ต่อ
มู่น่อนน่อนเดินไปด้วยแล้วถามเธอไปด้วย :“พ่อฉันและมู่หวั่นขีอยู่ไหน?”
“คุณผู้ชายกับคุณหนูรองกำลังทานข้าวอยู่ค่ะ ” คนใช้พูดจบ แล้วถามขึ้นมาอีกคำ:“คุณหนูสามคุณหนูเล็กทานข้าวมาหรือยังคะ?”
มู่น่อนน่อนได้ยินแบบนี้แล้ว ยังจะมีกระจิตกระใจมาสนใจเธอที่ไหนอีก ความโกรธในใจได้ลุกท่วมขึ้นมา
คนปกติที่หมาตัวนึงหายยังต้องไปตามหา และนี่อะไร ตอนนี้ เซียวชู่เหอถูกลักพาตัวไปทั้งคน!
มู่น่อนน่อนคุ้นเคยกับบ้านตระกูลมู่อย่างดี เธอได้ตรงไปที่ห้องอาหารโดยตรง
“พ่อคะ กุ้งวันนี้อร่อยมากเลยค่ะ ท่านรองชิมดูซิคะ”
“อืม อร่อยกว่าปกติจริงด้วย……”
ตอนที่เธอเข้าไป เห็นมู่หวั่นขีกับมู่ลี่เหยียนกำลังนั่งทานข้าวอยู่อย่างมีความสุขดูเอร็ดอร่อยมาก
มู่หวั่นขีเป็นคนแรกที่เห็นมู่น่อนน่อน แล้วมองเธอด้วยสีหน้าประหลาดใจ:“ปกติ แม่เรียกเธอกลับมาทานข้าวที่บ้านเชิญเท่าไหร่เธอก็ไม่ยอมมา วันนี้ แม่ไม่อยู่บ้าน เธอกลับมาซะเอง?”
มู่น่อนน่อนก้าวเท้าใหญ่เดินไป ยื่นมือไปหยิบถ้วยที่วางตรงหน้าของมู่หวั่นขีแล้วเขวี้ยงลงที่พื้น:“แม่ถูกลักพาตัวไปทั้งคน เธอยังมีอารมณ์มานั่งทานข้าวอยู่อีกหรอ !”
มู่หวั่นขีลืมตาโตค้าง สีหน้าบนใบหน้ายิ่งดูตกใจโอเวอร์มาก:“อะไรนะ แม่ถูกลักพาตัว?”
“คนร้ายไม่ได้โทรหาเธอเลยหรอ?”มู่น่อนน่อนหรี่ตามองหน้ามู่หวั่นขี
“ก่อนหน้านี้ แม่ยังบอกว่ามีนัดไปเสริมสวยกับเพื่อนอยู่เลย บอกให้เราไม่ต้องรอเธอกลับมาทานข้าว จะถูกลักพาตัวไปได้ยังไง”มู่หวั่นขีทำหน้าไม่เชื่อที่เธอพูด
“มีคนโทรมาหาฉัน บอกว่าเขาลักพาตัวแม่ไป ให้ฉันเตรียมเงินห้าสิบล้านภายในสองชั่วโมง ไม่อย่างนั้นก็จะฆ่าเธอ ! ”น้ำเสียงของมู่น่อนน่อนดูจะกังวล
หลังจากที่มู่หวั่นขีฟังที่เธอพูดแล้ว ปฏิกิริยาแรกไม่ใช่เป็นห่วงเซียวชู่เหอ กลับขมวดคิ้วพูดว่า:“ห้าสิบล้าน?เงินมากขนาดนั้น!ช่วงนี้ การเงินของบริษัทขาดแคลนอย่างหนัก จะไปหาเงินจากที่ไหนในเวลาสั้นแบบนี้!”
มู่น่อนน่อนหน้าดำลงมา:“ไม่มี ก็ไปหายืมสิ!แม่ฉันคอยรับใช้ที่บ้านตระกูลมู่เหมือนวัวเหมือนควายมาหลายปี หรือเธอไม่คู่ควรที่จะให้พวกคุณหาเงินห้าสิบล้านไปช่วยเธอเลยงั้นหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...