“โอ๊ย ก็งั้นๆ แหละหน่า”
ถึงไต้ลี่จะพูดอย่างถ่อมตัว แต่ใบหน้ากลับดูภูมิใจ“นี่แนะนำให้เธอรู้จักหน่อย นี่ติงเหลยแฟนฉัน เป็น เป็นรองประธานฝ่ายกิจการหยุนจี้กรุ๊ป เงินเดือนต่อปี 8 แสนหยวนจ้ะ”
เธอจงใจเน้นประโยคท้ายสองประโยค ส่วนติงเหลยก็ยิ้มโชว์ฟันทองอย่างเย่อเยิ่ง
กำลังรอดูอาการของเซิงเกอ เพื่อตอบสนองความฟุ้งเฟ้อในใจเธอ
กลับเห็นความนิ่งเฉยบนใบหน้าเซิงเกอ ไม่ตอบสนองใดๆ
ไต้ลี่ไม่สบายใจอย่างมาก แต่ก่อนผู้หญิงคนนี้ชอบเสแสร้ง มักจะชอบทำเป็นมีคุณธรรม เธอต้องเปิดโปงยัยนี่
“ได้ยินว่าเธอหย่าแล้ว?”
ไต้ลี่พูดไป ก็มองเธอหัวจรดเท้า เห็นเธอสวมชุดทำงาน ก็หัวเราะอย่างเยาะเย้ย“นี่เธอเป็นเซลล์ของร้านขายรถที่ไหนหรือ?ไม่เจอกันแค่กี่ปี กลายเป็นแบบนี้แล้ว?”
เซิงเกอเหมือนมองดูคนโง่ จ้องเธอ พูดขำๆ ไปว่า“ฉันมาซื้อรถ”
พูดจบ เซิงเกอก็ละสายตากลับ หันหน้าเข้าไปด้านในตามคำแนะนำของเซลล์ขายรถ ไม่คิดจะเอาสมาธิจำนวนมากไปใส่ใจคนที่ไม่สำคัญอะไรแบบนี้
ไต้ลี่เห็นเธอไม่สนใจตัวเอง ทำตัวเย็นชาเหมือนแต่ก่อนเลย ก็รู้สึกโกรธ
สองวันก่อนกลับไปสถานสงเคราะห์ เธอได้ยินว่าเซิงเกอไม่ใช่แค่หย่า แต่ยังย้ายออกไปตัวเปล่าด้วย
แต่วันนี้เธอมาซื้อรถเนี่ยนะ?!
“ฉันจะดูสิว่าเธอจะซื้อรถแบบไหนได้”
ไต้ลี่จ้องแผ่นหลังของเซิงเกอ พูดเบาๆ ด้วยความโมโห หันไปมองติงเหลยที่อยู่ด้านหลัง ท่าทางไม่พอใจอย่างมาก
“สามีสามี พวกเราไปดูข้างในกันเถอะ ยังไงก็เป็นของขวัญที่คุณซื้อให้ฉัน ฉันอยากเลือกดีๆ สักหน่อย เลือกรถดีๆ ที่โดดเด่นและเหมาะกับฉันที่สุด”
ติงเหลยที่อายุห้าสิบกว่ายังจมปลักในความคิดเพ้อเจ้อต่อเรือนร่างอันสวยงามของเซิงเกอ พอโดนไต้ลี่พูดถึงแบบนี้ ทั้งสองก็เข้ากันได้ดี
เซิงเกอที่อยู่ข้างใน สุดท้ายก็มาที่โซนรถยี่ห้อฟ็อลคส์วาเกิน
เธอไม่แสวงหาอะไรเป็นพิเศษกับสิ่งของเหล่านี้ ตราบใดที่มันเรียบง่ายใช้งานได้จริงก็พอ
เธอคิดจะเลือกมาสักคนแล้วขับหนีไป ทันใดนั้นด้านหลังก็มีเสียงบ่นของไต้ลี่
“คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเธอจะมาดูรถถูกๆ อย่างฟ็อลคส์วาเกิน ดูเหมือนหย่าแล้ว เธอจะอยู่ลำบากเชียวนะ”
เธอกอดอก ด้วยท่าทางดูถูกคน
เซิงเกอไม่คิดจะสนใจเธอ เห็นเธอเป็นอากาศ
โดนเมินใส่ ไต้ลี่ก็ไม่หงุดหงิด พูดต่อไปว่า:“เห็นแก่ว่าพวกเราเคยเป็นเพื่อนกัน ฉันให้แฟนฉันแนะนำพนักงานผู้ชายที่เพอร์เฟคในบริษัทให้เธอรู้จักได้นะ ยังไงเขาก็เป็นรองประธาน สำหรับพวกพนักงานระดับล่างแล้ว ถือว่ามีศักดิ์ศรีและความน่าเชื่อถืออยู่”
ติงเหลยเอาแต่จ้องเซิงเกอไม่กะพริบ เห็นไต้ลี่พูดถึงเขา ก็หัวเราะทันที สายตาดูสับปลับเล็กน้อย
“ในเมื่อคุณผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนของลี่ลี่ งั้นก็ถือเป็นเพื่อนของกระผมด้วย เดี๋ยวเพิ่มเพื่อนวีแชทผมได้ ติดต่อได้ตลอดเวลาครับ”
ไต้ลี่จ้องเขาอย่างขุ่นเคือง คบกับเขามาสองปีครึ่ง จำฝังใจกับความเจ้าเล่ห์ พฤติกรรมแย่ๆ ที่ชอบหยอกล้อยั่วเย้าผู้หญิงได้ดี จึงตำหนิไป
“ให้คุณช่วยแนะนำเพื่อนผู้ชายธรรมดาสองสามคนให้เธอ คุณจะเพิ่มวีแชทเธอไปทำไม?อยากพูดคุยอะไรสนิทสนมที่ฉันรู้ไม่ได้หรือไง?”
เธอพูดไปยิ้มไป แต่สายตาที่มองติงเหลยกลับดูเหมือนจะฆ่าเขา
สีหน้าติงเหลยเปลี่ยนเล็กน้อย รีบไปโอบเอวเธอ“โหย ดูคุณพูดสิ คุณเป็นที่รักผมนะ ผมสนใจเธอ เพราะว่าสงสารคุณ อยากให้คุณมีความสุข……”
ทั้งสองทำเป็นสนิทสนมกันดี เซิงเกอได้ยินก็ทนไม่ไหว
“ไม่ต้อง ผู้ชายเพอร์เฟคขนาดนี้ เธอเก็บไว้เองเถอะ”
“หยุด!”
เห็นเธอจะไป ไต้ลี่ก็ตามมา ไม่พอใจอย่างมากกับเรื่องที่ติงเหลยสนใจเธอชัดเจนมากไป
แต่ก่อนชอบแข่งกับเธออยู่แล้ว ตอนนี้ยังจะมาแย่งผู้ชายกับเธออีกเหรอ?
ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่พอใจ น้ำเสียงไต้ลี่ค่อยๆ เฉียบคม สายตามีความประชดประชัน
“ฉันหวังดีจะช่วยเธอ จะเสแสร้งทำไม?เธอซื้อรถเงินกู้ใช่ไหม?มีแฟนมาช่วยเธอซื้อรถไม่ดีหรือไง?”
เซิงเกอขมวดคิ้ว หันหน้าไปจ้องเธอ
ทันใดนั้น ก็มีเสียงน้ำไหลดังขึ้นมา
“กรี๊ด!”
ไต้ลี่ยังไม่ทันตอบสนองคืนมา ก็ถูกน้ำล้างรถด้านข้างที่เก็บไว้นานหลายวันสาดใส่ตัว
ตอนที่ติงเหลยสังเกตเห็น ก็ถอยไปด้านข้างสองเมตรทันที แต่ก็ยังถูกน้ำเน่ากระเด็นใส่
วินาทีก่อนหน้านี้ไต้ลี่ยังสวมกระโปรงสีแดงสีสันสวยสดใส วินาทีต่อมาดันกลายเป็นลูกหมาตกน้ำที่เหม็นไปทั้งตัวเสียได้
เธอกรีดร้องเสียงแหลม จ้องคนที่สาดเธออย่างโมโห
เป็นผู้หญิงธรรมดา สวมชุดทำงาน ใบหน้าดูขี้ขลาด แต่สายตาไม่ดูหวาดกลัวสักนิด
ไต้ลี่โมโหโดยสิ้นเชิง แค่พนักงานตัวเล็กๆ แบบนี้ก็ยังรังแกเธอ
“แม่เธอไม่เคยสอนเหรอว่าเดินน่ะหัดมองทางบ้าง?เสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋าของฉันมียี่ห้อทั้งนั้น เธอรู้ไหมว่าเท่าไหร่?เป็นราคาที่เธอทำงานเป็นสิบปีก็หามาไม่ได้……”
พนักงานคนนั้นยังคงไม่พูด ปล่อยให้เธอต่อว่าเหมือนหญิงปากร้าย
“เรื่องนี้ฉันไม่จบแน่ นอกจากจะมีของขวัญขอโทษ ค่าทำขวัญและค่าชดเชยของฉันไม่น้อยแน่ ฉันจะให้ที่นี่ไล่เธอออกด้วย สมัครงานที่ไหนไม่ได้อีก!”
พนักงานคนนั้นถือถังไว้ ยังคงไม่พูด
ไต้ลี่โมโหมาก“เธอเป็นใบ้หรือไง?แม่เธอไม่เคยสอนเธอพูดหรือไง?”
ติงเหลยรีบออกมาช่วยไต้ลี่“ไปเรียกเจ้านายพวกคุณออกมา บอกว่ารองประธานหยุนจี้ต้องการพบเขา!เรื่องนี้เขาต้องอธิบายกับตัว!”
รองประธานฝ่ายกิจการ ง่ายๆ ก็คือรองประธานหยุนจี้
คลื่นนี้ ความทะนงตัวและเกียรติติงเหลยได้รับมาเพียงพอแล้ว
“ฉันเนี่ยแหละเจ้านาย น้ำกะละมังนี้ก็เป็นฉันเองที่สาด”
ทันใดนั้นเสียงผู้หญิงที่ฟังดูไพเราะก็ดังขึ้น
ทั้งสองหันหน้าไปมอง ก็เห็นเซิงเกอพิงอยู่ข้างรถหรูคันหนึ่งด้วยท่าทางชิลๆ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ท่าทางดูสบายๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!
เรื่องนี้น่าสนุก...รอติดตามต่อนะคะ...
ไม่ลงต่อเหรอคะ มีตั้ง 452 ตอนจบนะคะ รออ่านต่อนะคะ...
เรื่องนี้ไปติดเหรียญเเอปอื่นซะแล้ว...