“ที่คฤหาสน์ของลู่ฮั๋ว?”
ฟู่อินไม่ง่วงอีกต่อไป ตกใจจนนั่งขึ้นมาบนเตียง
“เธอพูดให้ชัดเจนสิ มู่ซิ่นซินจะมายุ่งเกี่ยวกับเขาได้ไง?”
“เธอลืมแล้วหรือ?ตั้งแต่เซิงเกอหย่ากับอะยู่ เธอก็สนิทสนมกับลู่ฮั๋วมาก ถึงแม้อะยู่จะเอาคฤหาสน์บนอ่าวให้เธอไปแล้ว แต่เธอไม่ได้ย้ายเข้าไป พวเราก็ไม่เคยหาที่อยู่ของเธอได้เลย”
“เธอหมายความว่าไง?”ฟู่อินขมวดคิ้ว
“ฉันหมายความว่าไงยังไม่เข้าใจอีกหรือไง?”มู่จื่อหนิงมองบน“หมายความว่าเป็นไปได้อย่างมากที่จะอยู่กับลู่ฮั๋ว!หาทั่วทั้งเมืองฟางแล้วยังหาร่างของมู่ซิ่นซินไม่เจอ งั้นก็เป็นไปได้อย่างมากที่จะถูกเซิงเกอซ่อนไว้ในคฤหาสน์ของลู่ฮั๋ว!”
ฟู่อินคิดพิจารณาเล็กน้อย ก็คิดว่ามู่จื่อหนิงพูดมีเหตุผล จึงส่งคนไปสืบทันที
วางสาย มู่จื่อหนิงก็โยนโทรศัพท์ไปด้านข้างหย่างหงุดหงิด พิงหัวเตียงรอข่าวของเธอ
เรื่องที่มู่ซิ่นซินไม่ตาย กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรานี้ เป็นเหมือนหนามแทงใจเธออยู่เสมอ
ไม่ว่าเธอจะภูมิใจแค่ไหน แต่การอยู่ของมู่ซิ่นซินเตือนเธอเสมอว่าเธอเป็นลูกสาวนอกสมรส
หลังจากเป็นทายาทของมู่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอก็หาโอกาสจัดการมู่ซิ่นซินเสมอ แต่เพราะว่าหยุนเหม่ยคอยจับตาดูอยู่เสมอ จนแทบจะเฝ้าอยู่ในห้องผู้ป่วยมู่ซิ่นซินตลอดไม่ไปไหน
เธอจึงหาโอกาสลงมือไม่ได้
แต่แค่ให้มู่ซิ่นซินมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้สักวันหนึ่ง ตำแหน่งทายาทมู่ซื่อกรุ๊ปของเธอก็ไม่มั่นคง
เธอจะถูกโลกภายนอกนำทั้งสองคนมาเปรียบเทียบกับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ครั้งนี้มู่ซิ่นซินหายไปเป็นโอกาสที่ดี เธอต้องใช้โอกาสนี้กำจัดคนสองคนที่ขวางหูขวางตาที่สุด!
ท้องฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้น แสงแดดยามเช้าสาดไปทั่วทุกมุม ปลุกเมืองนี้ให้ตื่นขึ้นอย่างอ่อนโยน
มู่จื่อหนิงมองสีฟ้านอกหน้าต่างที่สว่างขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งร้อนรน
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์มา ปลอล็อกกดรับสายอย่างเร็ว“เป็นไงบ้าง?ได้ข่าวไหม?”
“ถึงไม่สามารถยืนยันได้ว่ามู่ซิ่นซินอยู่คฤหาสน์ของลู่ฮั๋วไหม แต่คนที่ส่งไปบอกว่า จำนวนบอดี้การ์ดในคฤหาสน์มีเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า คุ้มกันอย่างแน่นหนาแบบนี้ นี่เป็นเรื่องที่น่าสงสัยมาก”
“งั้นตอนนี้พวกเราจะทำไง?ถึงมู่ซื่อกรุ๊ปกับฟู่ซื่อกรุ๊ปมีอำนาจแค่ไหน ก็ไม่สามารถขัดใจลู่ฮั๋วได้ อีกอย่างนี่ก็เป็นถิ่นของเขาด้วย”
มู่จื่อหนิงสูญเสียกำลังใจและความฮึกเหิม
ตอนนี้เธออกสั่นขวัญหายไปหมด ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“ฉันจัดการเอง เธอไม่ต้องยุ่ง”
ไม่รอให้มู่จื่อหนิงตอบ ฟู่อินก็วางสาย โยนโทรศัพท์ไปด้านข้างอย่างแรง
ลู่ฮั๋วเย็นชากับเธอมาเสมอ แต่จู่ๆ กลับปกป้องรักใคร่เอ็นดูเซิงเกอที่ปรากฏตัวกะทันหัน ทำให้เธอไม่สบอารมณ์นัก
พอคิดว่าเซิงเกอกับมู่ซิ่นซินน่าจะอยู่ที่บ้านเขา เธอก็หึงอย่างมาก
ฟู่อินยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ตัดสินใจใช้โอกาสตอนที่ลู่ฮั๋วออกไปจากบ้าน ไปดูที่คฤหาสน์ของเขาเอง
“ไม่ต้องนอนแล้ว รีบตื่นเดี๋ยวนี้!”
ฟู่อินโทรศัพท์ไปปลุกหวางซิ่งเฉียงที่ยังนอนหลับอยู่
“เช้าวันนี้ฉันจะไปบ้านของลู่ฮั๋ว จัดการให้ฉันเรียบร้อยทันที ถ้าผิดพลาด ฉันเล่นงานนายแน่”
หวางซิ่งเฉียงขยี้ตาที่ง่วงนอนของเขา อยากโต้กลับเธอว่าตัวเองเป็นแค่บอดี้การ์ดมาก น่าจะให้ผู้ช่วยมาทำเรื่องพวกนี้ แต่สุดท้ายก็ตอบกลับอย่างไม่พอใจ“ครับ”
……
หลิวเหนียนทำภารกิจที่มู่จื่อหนิงมอบให้เขาเรียบร้อย หลังจากเครื่องบินมาถึงก็นั่งเครื่องบินเช้าสุดจากเมืองหลิน กลับไปที่เมืองฟางทันที
เพื่อหลบหลีกการสังเกตเห็นของเฟิงยู่เหนียน เขาจึงไปที่คอนโดของตัวเองอีกครั้ง ตัดสินใจอาบน้ำแล้วค่อยไปตอกบัตรที่บริษัท
เขาจอดรถในโรงจอดรถ เปิดประตูเบาๆ ยังไม่ทันปิดประตูสนิท ก็เห็นร่างหนึ่งนั่งสูบบุหรี่อยู่บนโซฟา
ประโยคไม่กี่คำนั้นราวกับสายฟ้าฟาด ตกลงมาจากฟ้า
หลิวเหนียนคุกเข่าไปตรงหน้าเขาดัง“ฟุ่บ”“BOSS ผมสมควรตาย ผมไม่ควรล้ำเส้น ได้โปรดลงโทษผม!”
“เมื่อวานนายออกไปจากเมืองฟาง ไปไหนมา?ทำอะไร?ตอบตรงๆ”
เฟิงยู่เหนียนระงับความโกรธไว้ ลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าเขา มองต่ำลงมาที่เขา น้ำเสียงมาพร้อมความตักเตือน
“นี่คือโอกาสครั้งสุดท้ายของนาย นายรู้ว่าจะเป็นอย่างไรถ้าไม่เชื่อฟังฉัน”
หลิวเหนียนจมอยู่ในความเงียบ
สักพัก เขากัดฟัน ปลุกความกล้าหาญเงยหน้าขึ้นสบตากับเฟิงยู่เหนียน
“BOSS คุณไม่รู้สึกว่าตัวเองทำเกินไปหรือครับ?ทั้งๆ ที่คุณมู่เป็นคู่หมั้นคุณ แต่คุณกลับไม่สนใจเธอ”
เฟิงยู่เหนียนคิดไม่ถึงว่าเขาจะกล่าวหาตัวเอง จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
“คุณปกป้องเซิงเกอขนาดนี้ แต่ไม่สนใจไยดีคู่หมั้นตัวเอง โอนคฤหาสน์ให้เซิงเกอ ให้คุณมู่ไปอยู่คอนโดข้างนอก นี่เป็นสิ่งที่คู่หมั้นที่ถูกต้องทำกันหรือครับ?คุณมู่ถูกเซิงเกอใส่ร้าย ตบตีจนเป็นแบบนั้น คุณยังไม่แก้แค้นให้เธออีก”
หลิวเหนียนพูดจบ ก็จ้องใบหน้าเย็นชาของเฟิงยู่เหนียน
“พูดจบแล้ว?”
เฟิงยู่เหนียนลูบนาฬิกาข้อมือ คำพูดของหลิวเหนียนไม่สามารถทำให้เขาตอบสนองมากไปนัก“ฉันถามนายครั้งสุดท้าย นายออกไปจากเมืองฟางทำไม?เกี่ยวข้องกับเซิงเกอไหม?”
หลิวเหนียนติดตามเฟิงยู่เหนียนมาหลายปี เข้าใจการกระทำอันเคยชินแต่ละอย่างของเขาเป็นอย่างดี
เขารู้ว่าเฟิงยู่เหนียนกำลังควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเอง
ถึงเขาจะปิดปากเงียบ ไม่พูดอะไร เฟิงยู่เหนียนก็จะให้คนไปสืบทุกอย่าง งั้นก็เอาความรับผิดชอบทั้งหมดมาไว้ที่ตัวเองซะเลย
“เซิงเกอ เธอตายแล้ว!เมื่อคืนผมพาคนไปจี้เครื่องบินที่เธอนั่งโดยสาร ระหว่างทางเธอกระโดดลงจากเครื่อง เธอทำร้ายคุณมู่ คุณให้อภัยเธอได้ แต่ผมทำไม่ได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!
เรื่องนี้น่าสนุก...รอติดตามต่อนะคะ...
ไม่ลงต่อเหรอคะ มีตั้ง 452 ตอนจบนะคะ รออ่านต่อนะคะ...
เรื่องนี้ไปติดเหรียญเเอปอื่นซะแล้ว...