ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 11

ขณะที่นายหญิงหลินกับคุณท่านหลินไม่รู้จะทำอย่างไรดี จู่ๆ ข้างนอกก็มีคนกลุ่มหนึ่งมุ่งหน้าเข้ามา!

“โอ้โห! ประธานหลินดวงดีจังเลยนะ! แปดสิบล้านที่ติดเราเมื่อไรจะคืนล่ะ”

ที่แท้คนพวกนี้คือคนของบริษัททวงหนี้ พวกเขาแยกย้ายกันล้อมคนตระกูลหลินเอาไว้

“ทำอะไรน่ะ พวกแกจะทำอะไร!” นายหญิงหลินร้อนรน

คุณท่านหลินตำหนิ “หยุดนะ! พวกแกรู้ไหมว่าเราเป็นใคร เราเป็นครอบครัวเกี่ยวดองของตระกูลซูแห่งจิงตูนะ!”

สิ่งที่ขานรับเขาคือไอเสียขณะรถของตระกูลซูขับออกไป

ไมบัคสีดำสองคัน ดูทรงอิทธิพลเป็นอย่างมาก คนสัญจรบนถนนต่างอดไม่ได้ที่จะหลีกห่างให้ไกล

ซึ่งสิ่งที่ตรงกันข้ามกันอย่างชัดเจนคือคนตระกูลหลินที่น่าเวทนา...

ชายร่างใหญ่สองสามคนจากบริษัททวงหนี้หัวเราะฮ่าๆ “ไอ้หยา คนใหญ่คนโตจริงๆ เป็นครอบครัวเกี่ยวดองกับตระกูลซูซะด้วย แกดูสิเขาสนจพวกแกไหม”

คุณท่านหลินเริ่มหน้าแดง!

คนของบริษัททวงหนี้ล้วนเป็นอันธพาล จะพูดเรื่องเหตุผลอะไรกับพวกเขาได้ และยิ่งไม่มีทางไม่ซ้อมคุณเพราะคุณเป็นชายชรา

เสียงเพียะดังขึ้นเสียงหนึ่ง คุณท่านหลินกับนายหญิงหลินถูกตบฉาดหนึ่งโดยพลัน และถูกกดให้คุกเข่าลง!

ก่นด่าอย่างป่าเถื่อนสารพัด ทั้งเตะทั้งต่อย...ไม่นานคุณท่านหลินกับนายหญิงหลินก็จมูกเขียวหน้าช้ำเช่นกัน ร้องโอ๊ยอ๊ายกันดังสนั่น

ตอนนี้ดีเลย ทั้งครอบครัวเป็นระเบียบเรียบร้อย...

ภายใต้สายตาจับจ้องของฝูงชน คนตระกูลหลินที่เมื่อก่อนรุ่งโรจน์ถูกทำให้อับอายจนไม่มีชิ้นดี สติแตกกระเจิง บ้านหลังสุดท้ายก็ถูกยึด สัมภาระทั้งหมดก็ถูกโยนออกไป

ขณะเดียวกันคนที่ถูกโยนออกมาก็คือมู่ชิ่นซินที่มีคราบเลือดเต็มหน้า ทั้งครอบครัวตกอยู่ในที่นั่งลำบากอย่างสุดขีด!

เพื่อนบ้านที่ดูครึกครื้นอดไม่ได้ที่จะซุบซิบนินทา

“พวกคุณไม่รู้ใช่ไหม ยัยเด็กเหลือขอตระกูลหลินนั่นเป็นหลานตาของตระกูลซูแห่งจิงตู!”

“อะไรนะ ยัยเด็กคนที่ผอมๆ ตัวเล็กๆ แม่ตายตั้งแต่สองขวบกว่านั่นน่ะเหรอ”

“แม่เจ้า งั้นตระกูลหลินไม่นึกเสียใจตายหรอกเหรอ เป็นฉันนะฉันกระอักเลือดไปแล้ว!”

“พวกเขาสมควรโดนแล้ว! มีครั้งหนึ่งเป็นวันที่ร้อนมากฉันยังเห็นเด็กคนนั้นถูกทำโทษให้ยืนตากแดดอยู่ข้างนอกอยู่เลย ฉันพูดไปสองสามประโยคก็ถูกยายแก่ตระกูลหลินด่าเข้า”

“ฮ่าๆๆ ยายแก่คนนั้นวันๆ เอาแต่พูดว่าหลานสาวตัวเองเป็นตัวซวยนี่ ตอนนี้ดีเลย ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ตอนแรกคงไม่ทำอย่างนั้นหรอก!”

ทุกคนดูมีความสุขที่ได้เห็นเรื่องทุกข์ของคนอื่น คนตระกูลหลินนึกเสียใจหรือไม่เขียนอยู่บนหน้าหมดแล้ว

สมควรโดนแล้วจริงๆ!

หลินเฟิงไออย่างต่อเนื่อง อาเจียนเมือกเลือดที่อยู่ในปากออกมา ข้างหูเสียงดังหึ่งๆ

มู่ชิ่นซินร้องไห้พลางพูดว่า “พี่เฟิงพี่เป็นยังไงบ้าง”

นายหญิงหลินระบายความโกรธไปลงที่เธอ “มาแสร้งร้องไห้อะไร! ตั้งนานไปทำอะไรมา เมื่อกี้ทำไมถึงไม่เห็นเธอเลย”

มู่ชิ่นซินสะอึกสะอื้น “เมื่อกี้ฉันเห็นซู่เป่า ก็เลยไปขอร้องเธอ ขอให้เธอเห็นแก่ปู่กับย่าที่อายุเยอะแล้ว ยอมให้อภัยปู่กับย่า...แต่เธอกลับไม่ยอม...”

นายหญิงหลินคับแค้นเป็นอย่างมาก โทษว่าความอัปยศทั้งหมดในวันนี้เป็นความผิดของซู่เป่า

ยัยเด็กเหลือขอคนนี้ดีร้ายยังไงพวกเขาก็เลี้ยงดูมาตั้งสามปีกว่าไม่ใช่เหรอ แต่ดันกลับไม่สำนึกบุญคุณเลยสักนิด!

เหมือนกับแม่ที่ตายไปแล้วของเธอไม่มีผิด พวกเลี้ยงไม่เชื่อง!

เจ้าเด็กน้อยเป็นตัวทำให้แม่ของตัวเองต้องตาย แล้วก็ทำให้ลูกชายของเธอต้องแท้งลูกอีก ตอนนี้พวกเขาพลอยติดร่างแหจนเคราะห์ร้ายไปกันหมด ช่างเป็นตัวซวยจริงๆ!

นายหญิงหลินยิ่งคิดก็ยิ่งเดือดดาล ก่นด่าอย่างไม่ยั้ง “ไม่ยอมก็ไม่ยอม! กะอีแค่ตัวซวยคนหนึ่ง...”

เธออยากพูดว่าพวกเขาสิไม่เคยอยากได้ แต่สุดท้ายแล้วก็พูดไม่ออก ตอนนี้พวกเขาอยากได้ แทบอยากจะรั้งซู่เป่าเอาไว้ให้แน่นไม่ปล่อยให้เธอไปถึงจะดี!

นายหญิงหลินคับแค้นใจไร้ที่ระบาย จึงทำได้เพียงแอบสาปส่งอยู่เพียงลำพัง สาปส่งขอให้ตระกูลซูทุกคนซวย!

บนรถ

นิ้วของซูอีเฉินแตะอยู่บนหน้าจอ ส่งข้อความออกไป (กำจัดตระกูลหลินซะ)

อีกฝ่ายตอบกลับมา (ฆ่าทิ้งเหรอ)

ซูอีเฉินหัวเราะอย่างเย็นชา ฆ่าทิ้งเหรอ

ต้องโดนสลักหลังด้วยความผิดฐานฆ่าคนเพราะพวกขยะ นั่นไม่มีทางหรอก

ตระกูลซูของเขา ต่อให้อยากแก้แค้นก็ต้องทำอย่างใสสะอาด

(ทำให้พวกเขาอยู่อย่างตายทั้งเป็น)

ซู่เป่านั่งอยู่ในรถอย่างเงียบๆ มือข้างหนึ่งกอดตุ๊กตากระต่ายของเธอเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งกอดนกแก้วเอาไว้

คุณท่านซูผ่อนคลายน้ำเสียง พยายามทำให้ตัวเองดูเป็นกันเอง “ซู่เป่า เรากลับบ้านกันแล้วนะ!”

เหล่าพี่น้องที่เหลือเองก็เงียบไม่พูดไม่จา หันหน้ามองไปทางข้างนอก กำมือแน่น

ซูอี้เซินกอดซู่เป่าไว้ในอ้อมอก พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ซู่เป่านอนเถอะ นอนแล้วก็จะได้เจอแม่ในฝัน...”

ซู่เป่าอืมเสียงหนึ่ง ขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของซูอี้เซิน น้ำตาไหลพรากลงมาเงียบๆ

ลุงเล็กเองก็โกหก

เธอหลับมาหลายครั้งต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยเห็นแม่เลยสักครั้ง

ซู่เป่าผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว ด้ายแดงบนข้อมือส่องแสงเลือนรางเล็กน้อย หากไม่สังเกตดีๆ ก็ไม่มีใครมองออก

ซู่เป่าที่อยู่ในฝันรู้สึกว่าทั้งร่างกายอบอุ่นอีกแล้ว ราวกับดวงอาทิตย์ส่องแสงอยู่บนร่างกายอย่างนั้น ร่างกายเบาลอยละล่อง รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังจะลอยขึ้นมา...

รอบๆ มีปุยเมฆขาวราวกับสายไหมล้อมรอบข้างหลังเธอ ซู่เป่ายื่นมือไปจับแล้วเอาเข้าปากนิดหน่อยอย่างระวัง ดวงตาทั้งสองเปล่งประกาย

มีรสหวาน!

ขณะนี้เองข้างหลังเธอมีเสียงอันแสนคุ้นเคยและอ่อนโยนแว่วมา “ซูเป่า...”

ซู่เป่าเบิกตาโพลง รีบหันไปดู เห็นเพียงแต่แม่ยืนอยู่ข้างหลังเธอไม่ไกล มองเธอทั้งน้ำตาคลอ

“แม่!”

ซู่เป่ากระโจนเข้าไปอย่างแรง ถูกแม่กอดเอาไว้ในอ้อมอกแน่น

ซูจิ่นอวี้ลูบศีรษะน้อยๆ ของเธออย่างอ่อนโยน พูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ซู่เป่าเป็นเด็กดี ต่อไปคุณตากับเหล่าลุงๆ คือครอบครัวของหนู ต้องร่าเริงอารมณ์ดีเข้าไว้โอเคไหมจ๊ะ”

น้ำตาของซู่เป่าไหลพรากหยดติ๋งๆ พูดอย่างเชื่อฟังว่า “หนูรู้แล้วค่ะ แม่”

ซูจิ่นอวี้พูดขึ้นอีกว่า “แล้วก็ คุณยายสุขภาพไม่ดี ซู่เป่ากตัญญูกับคุณยายแทนแม่ได้ไหมจ๊ะ”

ซู่เป่าสะอึกสะอื้น พยักหน้าอย่างแรง

แน่นอนค่ะ ซู่เป่าจะดูแลคุณยายเป็นอย่างดี

ซูจิ่นอวี้ยิ้ม อยากจะพูดอะไรอีก แต่ร่างกายเปล่งแสงออกมาเล็กน้อย แล้วค่อยๆ อันตรธานหายตัวไป

“ซู่เป่า แม่รักหนูนะ รักหนูตลอดไป!”

ซู่เป่าที่หลับพลางร้องเรียกหาแม่ ใบหน้าเล็กๆ เต็มไปด้วยคราบน้ำตา...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน