มือและขาที่ฟกช้ำดำเขียวไปทั่ว ใบหน้าที่ดูคล้ำเพราะถูกเผาไหม้ เนื้อหนังบนตัวไร้ซึ่งร่องรอยของ “ไขมัน” ดูยังไงก็เป็นศพแห้ง ๆ ร่างหนึ่งเท่านั้น
ซู่เป่าอดคิดไปถึงเมื่อตอนที่เจอกับป้าสะใภ้ใหญ่ครั้งแรกไม่ได้ ป้าสะใภ้ใหญ่เองก็มีสภาพเหมือนซอมบี้เช่นกัน
เพราะความสัมพันธ์ในชั้นนี้ทำให้ซู่เป่าลดความตึงเครียดที่มีต่อหญิงสาวปริศนาไปได้เล็กน้อย ก่อนจะจ้องมองอีกฝ่ายแล้วถามขึ้น “เธอเป็นใครกันแน่น่ะ ?”
ในยามที่ยังไม่รู้แน่ชัด เธอก็ยังไม่อาจลดความหวาดระแวงที่มีแต่อีกฝ่ายได้
หญิงสาวปริศนาหันไปมองอสูรน้อยที่อยู่บนต้นไม้พลางส่งเสียงเหอะ ๆ ออกมา
ซู่เป่าเหลือบมองตาม “เธอหิวแล้วงั้นเหรอ ? เธออยากกินมันใช่ไหม ?”
หญิงสาวลูบแหวน แล้วก็ลูบน้ำเต้าวิญญาณ ก่อนจะหยิบปลาภูเขาหิมะพันลี้ออกมาได้หนึ่งตัว
เพราะปลาภูเขาหิมะพันลี้ตัวใหญ่เกินไป ตอนนี้ซู่เป่าไร้ซึ่งเรี่ยวแรง จึงอุ้มมันด้วยความยากเย็น
“อยากกินอันนี้ไหม ?” หญิงสาวเหลือบตามา ดูเหมือนว่าไม่สนใจนัก แล้วก็มองไปยังอสูรน้อยต่อ
ซู่เป่ามาลองคิดดูแล้ว ถึงอย่างไรสัตว์ปีศาจกับสัตว์อสูรก็ต่างกันอยู่ดี
ผีบำเพ็ญกลืนกินสัตว์อสูรเพื่อเพิ่มตบะของตนเอง แล้วพวกมันเองก็กินสัตว์ปีศาจเพื่อเพิ่มตบะได้เช่นกัน
ซู่เป่าไม่กินสัตว์อสูร แต่กินสัตว์ปีศาจ เพราะตอนนี้เธอยังเป็นมนุษย์อยู่ สำหรับเธอแล้วสัตว์ปีศาจก็เหมือนกับวิญญาณ “ไม่อร่อย”
ด้วยลักษณะของสัตว์ปีศาจกับสัตว์อสูรถึงอย่างไรก็มีความต่างกัน สัตว์อสูรสามารถมองว่าเป็นวิญญาณของสัตว์หลังจากตายไปแล้วบำเพ็ญจนกลายเป็นอสูรได้ ส่วนสัตว์ปีศาจนั้นเรียกได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิต
ซู่เป่าจับเอาปลาภูเขาหิมะพันลี้ที่ดิ้นสะบัดโยนกลับลงไปในน้ำเต้าวิญญาณ
จากนั้นก็ชี้ไปยังอสูรน้อยที่อยู่บนกิ่งไม้ “ถ้าเธอบอกฉันว่าเธอเป็นใคร ฉันจะช่วยเธอจับมันมาให้เธอกิน”
อสูรน้อยที่อยู่บนต้นไม้ “!!!”
พี่ยมบาลตัวน้อย ! ท่านมันไม่ใช่คน !
ราวกับว่าผู้หญิงปริศนาสนใจข้อเสนอนั้น หรืออาจจะฟังออกขึ้นมาเสียแล้ว
เธอหันกลับมาอีกครั้งแล้วจ้องมองไปยังซู่เป่า
ไม่รู้ว่าผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด แต่ซู่เป่าก็ถูกต้องจนขนลุกชันไปทั้งตัว มือก็หยิบกระทะแบนขึ้นมาตามสัญชาตญาณ
ซู่เป่ารู้สึกว่าหากคนตรงหน้ายังจ้องมองเธออยู่อีกละก็ เห็นทีเธอต้องอดไม่ได้ที่จะเขกหัวผู้หญิงปริศนานี้เป็นแน่
แต่แล้วจู่ ๆ เธอก็พูดประโยคแรกออกมา
เสียงของหญิงสาวปริศนาแหบแห้งยิ่งกว่าอะไร ราวกับว่ากล่องเสียงเคยถูกทำลายมาก่อน ซู่เป่าต้องพยายาม “ปะติดปะต่อ” เสียง จึงจะพอฟังที่ผู้หญิงคนนั้นพูดได้เข้าใจ
“ยมบาลตัวน้อยเหรอ ?”
ซู่เป่าได้ยินเช่นนั้นจึงพยักหน้า “ใช่แล้ว ฉันเอง !”
ผู้หญิงคนนั้นนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย แล้วจึงค่อยถามออกมาเมื่อเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ “ธิดา... แห่งเฟิงตูงั้นเหรอ ?”
ซู่เป่าพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว จักรพรรดิเฟิงตูคือพ่อของฉันเอง”
คราวหน้าหญิงสาวปริศนานิ่งอึ้งไปในทันที
เธอจ้องมองซู่เป่าอยู่เนิ่นนาน รอบดวงตาที่แห้งเหี่ยวเสียจนเป็นบุ๋มลึกลงไป ลูกตาที่นูนยื่นออกมาเด่นชัด ในที่สุดก็เริ่มมีแววตาที่แปลกแตกต่างออกไปแล้ว
“จักรพรรดิ... เฟิงตู... ซู่เป่า... !”
คราวนี้ซู่เป่าเป็นฝ่ายตกตะลึงบ้าง
“เธอรู้จักฉันเหรอ ?“
น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว !
ภูเขาหลีนี้เธอเองก็เพิ่งมาเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังไม่เคยเจอผู้หญิงคนนี้มาก่อน บิดาของเธอเองก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับคนคนนี้
อสูรน้อยขัดขืนอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะวิ่งตามมาอยู่ข้าง ๆ ซู่เป่าในที่สุด เดินตามอีกฝ่ายจ้อย ๆ
ซู่เป่านั้นเกร็งไปจนหมดทั้งตัว ขณะที่หญิงสาวปริศนาก็ยังคงร้องตะโกนไปยังทิศเดิมไม่เปลี่ยน สีหน้าเต็มไปด้วยไอสังหาร
เธอจึงเดินออกจากตรงนั้นด้วยทิศทางตรงกันข้าม
ซู่เป่าอยากรู้ว่าเป็นชายชุดคลุมสีดำหรือเปล่าที่ตามมา จึงเผลอใช้วิธีเดียวกับตอนหาหญิงสาวปริศนา ด้วยการรวบรวมสมาธิแล้วปล่อยพลังจิตออกไป...
ในวินาทีนั้นเองที่ราวกับว่าซู่เป่าได้ค้นพบโลกใบใหม่ !
แม้ดวงตาของเธอจะอยู่ด้านหน้า แต่ก็สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านหลังได้อย่างชัดเจน ราวกับว่าด้านหลังศีรษะของเธอก็มีดวงตาอยู่เช่นกัน !
หากไม่ใช่ว่ามือทั้งสองกำลังแบกตัวหญิงสาวปริศนาและลูกตุ้มชั่งน้ำหนักขนาดใหญ่ไว้ เธอคงจะเอามือไปคลำ ๆ ที่หลังศีรษะดูแล้วว่าตัวเองได้กลายพันธุ์ไปหรือเปล่า
จู่ ๆ หญิงสาวก็ดิ้นขัดขืนแล้วเอ่ยขึ้นมา “ทั้งนั้น... ซ่อนตัว !”
ซู่เป่ามองตามสายตาของอีกฝ่ายไป เห็นเพียงแต่ “ถ้ำ” ที่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมา... หากจะพูดให้ถูกต้องก็คือตอนนี้เธอสามารถมองเห็นในสิ่งที่ตาเนื้อไม่อาจมองเห็นได้ ถ้ำนี้ลึกลับมาก เป็นที่หลบซ่อนตัวที่ดีที่สุดในตอนนี้
ซู่เป่าใช้ลางสังหรณ์และเลือกที่จะหลบเข้าไปด้านในถ้ำ เรียกได้ว่าตอนนี้เธอปลอดภัยชั่วคราว
เธอแบกหญิงสาวปริศนาแล้วกระโดดเข้าไป ก่อนจะแบกไว้ต่อไม่ไหว โยนตัวหญิงสาวและลูกตุ้มชั่งน้ำหนักลงพร้อม ๆ กัน
ผู้หญิงปริศนา “...”
อสูรน้อยตามซู่เป่าเข้ามาก่อนจะหลบอยู่ด้านหลังเธอ พอคิดขึ้นได้ว่าไม่ปลอดภัย ก็ถอยร่นไปอีกหลายก้าวแล้วกอดหินก้อนหนึ่งเอาไว้
พอได้มีโอกาสหายใจหายคอ ซู่เป่าก็รีบจัดการปัญหาที่อยู่ตรงหน้า ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่
“ตอนนี้พูดได้หรือยังว่าเธอคือใครกันแน่ ?”
เมื่อกลับมายังถ้ำ สีหน้าของหญิงสาวจึงค่อยผ่อนคลายลง สายตาของเธอยังคงจ้องมองไปยังซู่เป่าราวกับว่าต้องการความแน่ใจอะไรบางอย่าง
ในที่สุด หญิงสาวก็ค่อย ๆ เอ่ยปากออกมา “ข้าคือ...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...