ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 146

หลินเสวี่ยอิงรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากเมื่อมองไปที่ชายสองคนที่กำลังหึงหวงเธอเป็นบ้าเป็นหลัง

“เซินเหมี่ยว อี้ปิน อย่าบีบบังคับฉันอีกเลย...”

“ฉันทำไม่ได้ ฮือ ฮือ ฉันทำไม่ได้จริงๆ…”

ในแผนการความรักน้ำเน่าในรูปแบบการเสพติดความเจ็บปวดของเธอ เธอก็ลืมซูอีเฉิน เป้าหมายใหม่ของเธอไปชั่วขณะ

หลินเสวี่ยอิงจับมืออวี๋เซินเหมี่ยวและอี้ปินในสภาพน้ำตาคลอเบ้า "หยุดได้ไหม อย่าบังคับให้ฉันต้องเลือกคนใดคนหนึ่งเลยนะ..."

“สรุปแล้วเราก็ไม่สามารถใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุขได้จริงๆ ใช่ไหม”

“หากต้องทิ้งพวกนายคนใดคนหนึ่งไป ฉันจะเจ็บปวดมากที่สุด!…”

“ได้โปรดเถอะ เปลี่ยนการทะเลาะกันเพื่อแย่งฉัน เป็นการดูแลฉันอย่างเงียบๆ ได้ไหม”

อี้ปิน “...”

อวี๋เซินเหมี่ยว “...”

ซู่เป่าลืมตาขึ้นและเดินเข้าไปหาจี้ฉางอย่างเงียบๆ "ท่านอาจารย์ นี่คือเรื่องราวของแมรี่ ซู ที่คุณเคยเล่าว่าเป็นเรื่องของป้ากับลุงสองคนนี้ใช่ไหมคะ"

นายหญิงซูตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จิตใต้สำนึกรับรู้คำพูดนั้นของซู่เป่าและพูดว่า "ไม่ นี่ไม่ใช่เรื่องของแมรี่ ซู มันเป็นเรื่องนองเลือดที่ทำลายคนทั้งสามต่างหาก..."

ซู่เป่าพยักหน้าและพูดว่า เข้าใจแล้ว!

มุมปากของจี้ฉางกระตุก "อย่าลืมธุระของเราล่ะ เจ้าเป๋าน้อย!"

ในเวลานี้ผีหลายใจบนหัวของหลินเสวี่ยอิงกำลังงานล้นมือ มองไปที่อี้ปินที อวี๋เซินเหมี่ยวที

จี้ฉางหรี่ตาและพูดเสียงต่ำ: "อาจารย์จะสอนให้เจ้าจับวิญญาณ การจับวิญญาณคือการใช้การเล่นแร่แปรธาตุของเราเองเพื่อสร้างเชือกที่มี 'พลัง' เพื่อมัดผี ฟังให้ดี ... "

ซู่เป่าตั้งใจฟังอย่างจริงจัง เธอพึมพำอยู่ในปาก ใช้พลังทั้งหมดที่มีโยนบางอย่างออกไปทันที

แต่กลับไม่มีสิ่งใดออกมาเลย...

จี้ฉางให้กำลังใจ “ไม่เป็นไร ขนาดคนที่มีพรสวรรค์เก่งกาจมากที่สุด เมื่อเรียนจับวิญญาณครั้งแรก ก็ยังต้องลองอยู่หลายครา จึงจะสามารถทำได้!”

ซู่เป่าลองอีกครั้ง “อื้อ!”

ยังไม่ออกมาอีกเหรอ

เธอไม่ยอมแพ้ กลั้นหายใจอีกครั้ง แล้วปล่อยเสียงหายใจเฮือกใหญ่ออกมา

ซูอีเฉิน มองไปที่ซู่เป่าโดยไม่รู้ตัว แล้วสงสัยว่าเธอกำลังขว้างอะไร...

สิ่งที่เขามองไม่เห็นก็คือในขณะที่ซู่เป่าขว้างมันไปอย่างแรง ตาข่ายสีแดงก็บินออกไปพร้อมกับเสียงหวือ และมันก็ตกลงบนร่างของผีหลายใจอย่างแม่นยำ

จี้ฉางอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

นั่น นั่น นั่นมันตาข่ายสีแดงนี่นา!

ขนาดคนที่มีพรสวรรค์และเก่งกาจมาก ในการจับวิญญาณครั้งแรก ยังทำได้เพียงแค่โยนเชือกแดงออกไปเท่านั้น!

ผีหัวใจหลายใจถูกจับและกักขังไว้ ชั่วพริบตาฟื้นคืนสติทันทีจากจินตนาการที่ตนเองสร้างขึ้น เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไป ก็เห็นว่าคนที่ฉุดรั้งตนไว้เป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง

เธอร้องโหยหวยและดิ้นสุดแรง แต่กลับไม่รู้ว่ายิ่งเป็นการทำให้ตาข่ายสีแดงนั้นรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ

ดวงตาของหลินเสวี่ยอิงก็ค่อยๆ เหมือนคนเสียสติเล็กน้อย

"อี้ปิน...เซินเหมี่ยว...อย่าทิ้งฉันไป..." เธอพึมพำโดยไม่รู้ตัว

ซู่เป่าพยายามออกแรงอย่างเต็มที่เพื่อดึงเชือก

ผีหลายใจดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง และร้องโวยวายอย่างเจ็บปวดใจ "ปล่อยฉัน ปล่อยฉันไป..."

เธอดึงตาข่ายสีแดงอย่างสุดแรง และซู่เป่าที่อยู่ในสภาพไม่มั่นคง เธอเกือบถูกเหวี่ยงออกไป

ซูอีเฉินรีบเข้าไปรับซู่เป่าไว้

ดวงตาของจี้ฉางเย็นชาเล็กน้อย และนิ้วของเขาขยับอย่างเงียบ ๆ

ทันใดนั้นตาข่ายสีแดงก็เปล่งแสงสีแดงออกมา มากจนผีหลายใจไม่สามารถขยับได้!

ในที่สุดซู่เป่าก็จับผีหลายใจออกจากหัวของหลินเสวี่ยอิงด้วยพละกำลังทั้งหมดของเธอได้!

ตัวหนักซะจริงๆ !

เป็นการเก็บวิญญาณครั้งใหญ่เลยนะเนี่ย!

เจ้าคนตัวเล็กดีใจสุดๆ

ในเวลานี้อวี๋เซินเหมี่ยวกำลังหักมือของหลินเสวี่ยอิงออกจากมือเขาและพูดว่า "พอแล้ว... ในเมื่อเธอเลือกไม่ได้ งั้นฉันจะเลิกกับเธอเอง…"

เขาใจสลาย

เมื่อคืนเขายังนอนกอดเธออย่างอ่อนหวาน ฝันถึงชีวิตที่มีความสุขด้วยกันในอนาคตอยู่เลย

ในวันนี้กลับถูกความเป็นจริงที่แสนเจ็บปวดตอกหน้าไม่มีชิ้นดี

เขาน่าจะรู้ตั้งนานแล้ว... ตั้งแต่แรก ว่าเธอไม่เคยคิดที่จะรักเดียวใจเดียว

อวี๋เซินเหมี่ยวถอนหายใจและเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

ทันทีที่หลินเสวี่ยอิงกลับมารู้สึกตัว เธอก็เห็นอวี๋เซินเหมี่ยวที่กำลังเดินจากไป เมื่อนึกถึงความหอมหวานของคืนที่ผ่านมา เธอจึงพูดอย่างกระวนกระวายโดยไม่รู้ตัว: "เซินเหมี่ยว..."

อี้ปินดึงเธอกลับมาอีกครั้ง แสดงรอยยิ้มที่ซับซ้อน "เชอร์รี่น้อย..."

หลินเสวี่ยอิงมองดูผู้ชายตรงหน้า ฮือ ฮือ เธอคงเหลือแค่เขาแล้วสินะ…

นายหญิงซูสงสัย แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรอีก

ระหว่างทาง ซู่เป่าหยุดหลายครั้ง แม้ว่าเธอจะจับผีหลายใจเอาไว้ได้ แต่เธอก็ยังไม่ลืมยาของลุงใหญ่และคุณยาย

หลังจากเดินเยี่ยมชมร้านค้าอีกสองสามร้านและซื้อยาที่จำเป็นทั้งหมดแล้ว ก็เดินไปที่ลานจอดรถ

ทันทีที่มาถึงที่จอดรถ ร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฎตัวขึ้นมาอีกครั้ง

หลินเสวี่ยอิงร้องห่มร้องไห้ด้วยความขมขื่น “คุณซู ฉันเสียใจมาก...ฉันเสียใจมากจริงๆ ...”

“ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร หรือต้องไปที่ไหน ฮือๆๆ!”

“คุณช่วย…ให้ฉันยืมไหล่หน่อยได้ไหม นิดนึงก็ยังดี”

เธอสำลักเหมือนกระต่ายขาวตัวน้อยที่จนมุม มองไปยังซูอีเฉินอย่างน่าสมเพช

ดูสิ เธอเลิกกับ โจวเซียว อวี๋เซินเหมี่ยวและอี้ปิน ทั้งหมดก็เพื่อเขาคนเดียว

ตอนนี้เธอโสดจริงๆ แล้ว

เขาก็ควรจะรับเธอไว้ในอ้อมแขนสิ...เพราะตอนนี้เธอน่าสงสารมากเหลือเกิน...

กำปั้นของซูอีเฉินแน่นขึ้นเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น

เมื่อเห็นว่าหลินเสวี่ยอิงยืนขึ้นอย่างไร้ยางอาย เขาก็ยกเท้าขึ้นอย่างสง่างาม...และเตะเธอออกไป! !

หลินเสวี่ยอิงโดนเตะเข้ากับถังขยะ ไม่ต้องพูดถึงการกระแทก เธอก็ตกลงไปในถังขยะจนเกิดเสียงดังโครมคราม

นายหญิงซู “( ̄□ ̄*|||”

ซู่เป่า “Σ( ° △ °|||)︴”

หลังจากเตะหลินเสวี่ยอิงออกไปแล้วซูอีเฉินก็จัดเสื้อผ้าของเขาให้ตรง และพูดเบา ๆ ว่า "หากคุณยังกล้ามารบกวนผมอีก เจอครั้งไหน ผมจะจะเตะคุณทุกครั้งที่เจอ!"

ขอเลียนแบบท่าทางนักเลงของมู่กุยฝานสักหน่อยก็แล้วกัน…

ซู่เป่าและนายหญิงซู ทั้งคนแก่และเด็กต่างตกตะลึงกันเป็นแถว

ซูอีเฉินอุ้มซู่เป่าขึ้นมา วางเธอเข้าไปในรถ เข็นนายหญิงซูขึ้นรถ และเหยียบคันเร่งจากไป

รถหายไปในพริบตา เหลือเพียงร่องรอยจากควันของท่อไอเสียรถ

หลินเสวี่ยอิงที่นอนอยู่บนพื้น ยกมือขึ้นมองดูรถหรูที่กำลังแล่นออกไป... หัวใจแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี เธอร้องไห้จนใจจะขาด!

มีฉากหนึ่งที่ปรากฏขึ้นในใจของหลินเสวี่ยอิงโดยอัตโนมัติ พระเอกเข้าใจนางเอกผิด และทิ้งเธอไว้ข้างถนนอย่างโหดเหี้ยม ขับรถหนีออกไปคนเดียว...

นางเอกเป็นลมอยู่บนถนนเพราะร้องไห้ พระเอกที่ขับรถมาได้ครึ่งทางก็เสียใจ นึกเป็นห่วงเธอ จึงรีบกลับมาโดยเร็วและอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน...

หลินเสวี่ยอิงจ้องมองไปที่สุดปลายถนนอย่างงุนงง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครกลับมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน