ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1489

หลังของซืออี้หรันยังคงเหยียดตรง

บนใบหน้าของเด็กหนุ่มเป็นสีหน้าเย็นชา

“ไม่ต้องขอบคุณ ทางเดียวกันน่ะ”

ชะงักทีหนึ่ง ซืออี้หรันพูดย้ำ “เหมือนว่าตอนนี้ฉันจะโตกว่านาย”

ผีขี้ขลาดที่อายุสิบสี่ “......”

บ้าเอ้ย เคยคิดไว้ว่าซู่เป่าจะโต แต่ไม่คิดว่าเวลาจะผ่านไปไวขนาดนี้

ผีขี้ขลาดมองซู่เป่าอย่างลึกซึ้ง จึงมองไปทางซืออี้หรันด้วยยิ้มเป็นมิตร “ใช่ ตอนนี้ฉันต้องเรียกนายว่าพี่เสี่ยวหรานแทนแล้ว”

แกล้งถอยเพื่อโจมตี ชายหนุ่มต่างชอบผู้หญิงที่น่าสงสาร ในทางกลับกัน ผู้หญิงก็เหมือนกัน

ซู่เป่าพูดขึ้นอย่างที่คิด “พี่อี้หรัน อย่าแกล้งพี่พันสิ แม้ว่าตอนตายพี่พันจะอายุสิบสี่ แต่หลายปีมานี้เขาฝึกฝนและพัฒนามาโดยตลอด พวกพี่นับเป็นรุ่นเดียวกันก็ได้”

ซู่เป่าคิดอย่างใสซื่อ เธอแค่อยากให้ทั้งคู่แทนกันด้วยสรรพนามรุ่นเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องแบ่งว่าใครโตกว่าหรือเด็กกว่า

เพราะเธอรู้ว่าเด็กผู้ชายบางคนมักมีความอยากเอาชนะแปลกๆ

แต่เมื่อประโยคนี้อยู่ในหูของซืออี้หรันกลับกลายเป็น...

สนมหรัน อย่าได้รังแกสนมพัน พวกเจ้าอยู่ระดับเดียวกัน

ซืออี้หรัน ‘เชอะ’

เขาหันหน้าไปอีกด้าน ด้วยท่าทีงอนๆ

หัวไชเท้าน้อยบนไหล่ของซืออี้หรัน “???”

เดี๋ยวสิ ในใจของนายท่านคิดแต่เรื่องอะไรกัน

ทำไมถึงมีภาพคิดไปเองที่แปลกประหลาดขนาดนี้ได้

หัวไชเท้ามองไปทางผีขี้ขลาดอย่างตะลึง มันมองจี้ฉาง จากนั้นก็มองซืออี้หรัน

สนมพัน สนมหรัน ดังนั้นผู้สวมอาภรณ์ขาวที่หนักแน่นที่สุดคือ...ฮองเฮางั้นเหรอ

ว้าว หนังเล่ห์ยุทธพระราชวัง

ไม่คิดว่า...นายท่านของเขาในชาตินี้จะเป็นแบบนี้

มันเริ่มเปิดโหมดเผือก

จักรพรรดิมู่และซูจิ่นอวี้ที่อยู่อีกด้าน “......”

เหมือนบรรยากาศแปลกๆ ไป...

ซืออี้หรันเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน “อามู่ น้าซู ซู่เป่า...ผมกลับไปก่อนนะครับ”

ซู่เป่าส่งเสียงเอ่อทีหนึ่ง “พี่ไม่กลับไปพร้อมพวกหนูเหรอ”

ซืออี้หรานเผยยิ้ม “อืม ครั้งหน้าดีกว่า”

ซู่เป่า “?”

แต่กลับเห็นว่าเขาได้จากได้จากไปแล้ว

“ก็ได้...” ซู่เป่าเอือมระอา

แต่ไม่นานนักเธอก็เริ่มยกของออกมาจากในแหวน “หนูเอาของดีมากมายมาฝาก”

“นี่คือหินสีชาด...ช่างเถอะ ไม่ใช่ของดีอะไร ถือว่าเป็นโบนัสให้ผีระดับต่ำๆ”

“นี่เป็นอัญมณีอัคคี...ช่างเถอะ ก็ไม่ใช่ของดีอะไร เป็นโบนัสสิ้นปีของเหล่าผีละกัน”

จี้ฉางและผีขี้ขลาด “???”

นี่ยังไม่ถือเป็นของดีอีกหรือไง

โดยที่ไม่รู้เลยว่า สำหรับซู่เป่าในตอนนี้แล้ว กระทั่งหินอุดฟ้ายังเป็นเพียงก้อนหินที่ไร้ประโยชน์ อย่าว่าแต่หินสีชาดและอัญมณีอัคคีเลย

“มีของฝากที่หนูเอามาจากดินแดนจิ่วโยวด้วย...”

“ว้าว ท่านอาจารย์คงไม่รู้ใช่ไหม ของฝากในแดนจิ่วโยวเยอะขนาดไหน หลากชนิดขนาดไหน และอร่อยมากขนาดไหน”

จี้ฉางลูบหัวของซู่เป่า “ไปอาบน้ำล้างหน้าเปลี่ยนชุดก่อน”

อยู่ด้านนอกจะดีเท่าที่ได้กลับบ้านได้ยังไง จี้ฉางรู้สึกปวดใจ

ซู่เป่ากลับมาถึงพญายม เธอถอนหายใจอย่างโลกอกโดยสิ้นเชิง พร้อมเอ่ย “อื้มๆ จากนั้นพวกเราก็กลับบ้าน”

“จริงด้วย พี่ชายของหนูล่ะ”

“พี่ผีหลายใจล่ะ พี่ผีชุดแต่งงานล่ะ พวกเธอยังไม่กลับจากการบำเพ็ญอีกหรือ”

หุบเหวผีร้อง

ไม่รู้ว่าจิ่งจั้นปีนมานานเพียงไหน เขาตกสู่ภวังค์ยึดติดนานแล้ว...

ในหัวของเขามีเพียงความคิดเดียว ‘กลับบ้าน น้องสาวของเขาอยู่บ้านคนเดียว ต้องมีคนดูแล...’

เวลานี้เองข้างหูของเขามีเสียงกรีดร้องแหลมๆ

จิ่งจั้นสะดุ้งตื่นขึ้นมาฉับพลัน

จากนั้นเขาเพิ่งพบว่า เขาสลบไป โดยที่ไม่รู้เลยว่าปีนมานานขนาดไหน...

เหงื่อเย็นซึมเต็มแผ่นหลังของเขา เขายกมีดขึ้นมา ปักเข้าไปในแขนทันที

นี่ทำให้เขาได้สติมากยิ่งขึ้น

แต่แล้วที่แขนทั้งสองข้างของเขาต่างเต็มไปด้วยบาดแผล นี่คือแผลที่เขาแทงเข้าไปเองทุกครั้งที่ได้สติ...

จิ่งจั้นเริ่มรู้สึกกลัว

เขาต้องอยู่ในนี้นานขนาดไหนกัน

ไม่ได้ จะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้

จิ่งจั้นไม่กล้าหายใจ เขารีบปีนขึ้นไปอีกครั้ง

แสงอ่อนที่สะท้อนจากยอดหุบเหวผีร้องคือความหวังทั้งหมดของจิ่งจั้น

เขาต้องขึ้นไปได้แน่ๆ ต้องได้แน่ๆ!

บนโลกนี้มีประชากรเป็นพันล้านคน หนทางที่ไม่เหมือนผู้อื่นของเขาตื่นตั้งแต่เมื่ออายุยังน้อย

ชะตาไม่มีทางทำเขาดับสูญอยู่แค่ที่นี่แน่

ในหัวสมองของจิ่งจั้นจู่ๆ ก็มีใบหน้าของซู่เป่าปรากฏ

คิดถึงน้ำเยือกเย็นที่เขาได้มาอย่างลำบากลำบน และใช้มันทีละหยดอย่างละเมียดละไม อีกฝ่ายกลับกรอกกินเป็นขวด...

หากเธอยอมขายทรัพยากรให้เขาหน่อยล่ะก็ เขาก็คงไม่ต้องตกสู่สภาพนี้...

เขาจะต้องปีนออกไปให้ได้ เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้น เขาจะต้องยืนอยู่บนจุดสูงสุด ให้ซู่เป่าที่เคยมองแคลนเขาต้องเสียใจที่ไม่ยอมมาผูกมิตรกับเขาในตอนนั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน