ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 23

หลินเฟิงกำลังจะอาเจียนเป็นเลือด

เขากำลังถูกมู่ชิ่นซินหลอกใช้อย่างนั้นหรือ

นึกถึงตอนที่ตัวเองถูกทำให้ล้มละลายตอนนั้น หลินเฟิงยังไม่ชัดเจนพออีกหรือ

ตาของเขาแดงก่ำ กัดฟันแน่น “มู่ชิ่นซิน เธออยากไปจากฉันตั้งนานแล้วใช่ไหม ถ้าเด็กเกิดมาคงจะเป็นตัวถ่วงรั้งให้เธอไปยากขึ้น เธอก็เลยใช้ซู่เป่าเป็นเครื่องมือกำจัดเด็กในท้อง ใช่หรือไม่! ”

ในเวลานี้มู่ชิ่นซินยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับ เอาแต่ส่ายหัว ปาดน้ำตาและสะอึกสะอื้น

“ไม่ใช่…ไม่ใช่จริงๆ ไม่ใช่แบบนั้นนะ…”

หลินเฟิงรู้สึกโมโหเดือดดาล ย้อนถามตัวเอง ทำไมโอกาสไม่เคยเป็นของเขาบ้างเลยล่ะ

เขาทำเหมือนตัวเองเป็นเหยื่อที่น่าสงสาร “เธอมันนังงูพิษ…หลอกฉันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ฉันจึงเข้าใจผิดซู่เป่ามาโดยตลอด…”

“ซู่เป่า! พ่อผิดเองทั้งหมดเลย! พ่อโดนคนที่ไว้ใจที่สุดหลอก...! !”

ซูอีเฉินขยับนิ้วของเขา

จากนั้นอาเนี่ยก็นำเอกสารสองสามฉบับออกมาฉายขึ้นบนหน้าจอ

ประการที่หนึ่งคือใบมรณบัตรของซูจิ่นอวี้และทะเบียนสมรสของหลินเฟิง

ซูจิ่นอวี้ตายไปเมื่อเดือนมีนาคม แต่เมื่อเข้าปลายเดือนมีนาคมหลินเฟิงก็แต่งงานกับมู่ชิ่นซิน

ประการที่สองคือกรณีการช่วยเหลือฉุกเฉินเกี่ยวกับโรคของซู่เป่า ในเอกสารระบุไว้อย่างชัดเจน ‘หยุดหายใจ ช็อก ซี่โครงซ้ายซี่ที่สาม สี่ หก เจ็ด กระดูกต้นแขนหัก แขนขวาหัก บริเวณส่วนโค้งด้านนอกของปลายเท้าซ้ายบวม ไม่สามารถรักษาได้ ตัดนิ้วก้อยเท้าซ้ายและเนื้อเยื่อของเท้าซ้ายออก 3 เซนติเมตร X 5 เซนติเมตร...’

จากนั้นมีภาพที่แอบถ่ายโดยเพื่อนบ้าน ซู่เป่ากำลังคุกเข่าบนหิมะในชุดนอน ถูกหิมะฝังไว้แน่นจนเห็นแผ่นหลังเพียงเล็กน้อย...

หลินเฟิงช็อกไปชั่วขณะ!

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะเอามือปิดปากด้วยความตกใจ

ในรายงานคดีเพียงแค่ไม่กี่บรรทัด ทุกอย่างแสดงให้เห็นว่าซู่เป่าถูกทุบตีอย่างเลวร้ายเพียงใดในตอนนั้น!

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองไปที่หลินเฟิงด้วยความโกรธ เด็กได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน แต่เขายังมีหน้ามาพูดว่า ‘ฉันไม่ได้ตั้งใจ บังเอิญตีแรงไปหน่อย’

คุณหญิงซู เมื่อได้เห็นรายงานการรักษาดังกล่าว ก็ปวดใจจนแทบเป็นลมล้มพับไป!

“แบบนี้มันเรียกว่าไม่ได้ตั้งใจตรงไหน นี่มันจงใจจะตีให้ตายเลยชัดๆ !”

“หิมะตกหนักขนาดนั้นยังเอาเด็กไปฝังไว้ใต้หิมะ…ตัวบวมแข็งจนต้องตัดเนื้อเยื่อออก…เหอะๆ ฉันก็เผลอคิดไปว่าเขาน่าสงสาร หึ! ”

“นี่ไม่ใช่มนุษย์แล้ว นี่มันสัตว์เดรัจฉานชัดๆ! ยังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นพ่อคนอีกหรือ!”

ซูอีเฉินยิ้มด้วยความเย็นชา “ไปต่อเลย”

อาเนี่ยวางหมายจับที่ได้รับการปล่อยตัวอีกใบที่มีตราประทับอย่างเป็นทางการ โดยในเนื้อหาอธิบายไว้ว่า

“หลินซื่อกรุ๊ปตรวจพบการลักลอบนำเข้าจำนวนมากเมื่อปีที่แล้ว และมีผู้เสียชีวิต 3 คนเพราะเหตุดังกล่าว ในปีที่ผ่านทุกคนต่างไม่ละทิ้งการสืบสวน ตอนนี้ พวกเขาระบุตัวคนร้ายได้และได้รับหลักฐานแล้ว หลินเฟิง ผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่งและเป็นที่ต้องการตัวอย่างเป็นทางการ”

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตระกูลหลิน ไม่ได้ล้มละลายเพราะตระกูลซูเลย เขาทำตัวเองล้วนๆ !

หลินเฟิงทรุดตัวลงกับพื้น เมื่อรู้ว่าทุกอย่างแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว

จบแล้ว ! มันจบแล้วจริงๆ !

ทุกคนต่างตกตะลึงกับความจริงที่อยู่เบื้องหน้า

ภรรยาพึ่งเสียชีวิตแท้ๆ แต่สามีก็รีบแต่งงานกับภรรยาใหม่ทันที

อีกทั้งภรรยาใหม่ก็ยังทำร้ายลูกสาวของเขา แต่เขาไม่สนใจ ภรรยาใหม่ใส่ร้ายลูกสาวของเขา แต่เขาก็ยังทุบตีเด็กจนปางตาย

พวกเขาจงใจปล่อยข่าวลือ โดยกล่าวโทษความผิดทั้งหมดว่าเป็นของซู่เป่า

บนโลกนี้มีพ่อที่โหดร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร!

คนที่มีลูกมาด้วย พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะกอดลูกของตัวเอง แล้วสาปแช่ง "คนแบบนี้ไม่สมควรอยู่บนโลก! ขยะ!"

“แจ้งตำรวจจับเขาเร็วเข้า !”

เมื่อหลินเฟิงได้ยินคำว่าแจ้งตำรวจ เขาก้ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที และต้องการที่จะไปจับซู่เป่าเอาไว้

หากพวกเขากล้าแจ้งตำรวจ ซู่เป่าไม่รอดแน่ ! ให้ซู่เป่าตายไปกับเขา ดูสิว่าพวกนั้นจะมาเสียใจทีหลังไหม !

ใครจะไปรู้ว่า ก่อนที่หลินเฟิงจะพุ่งเข้ามาหาซู่เป่านั้นซูอีเฉินก็ยกเท้าเตะเขาอย่างไม่แยแส !

บอดี้การ์ดในชุดดำหลายคนก้าวไปข้างหน้าทันที คว้าปลอกคอของหลินเฟิงและมู่ชิ่นซินทีละคนแล้วลากพวกเขาออกไปเหมือนสุนัขที่ตายแล้ว

มู่ชิ่นซินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแสร้งร้องไห้ ทำเหมือนว่าตัวเองเป็นเหยื่อ

ตัดภาพมาที่หลินเฟิง เขาตะโกนโวยวาย

“ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็เป็นคนเลี้ยงซู่เป่ามา ! ไม่มีฉันสักคน เด็กนี่จะได้ลืมตาดูโลกมาจนถึงทุกวันนี้ไหม !”

“ถึงฉันจะทำตัวเลวร้ายกับเธอมาตลอดสามปี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเธอเป็นลูกแท้ๆโดยกำเนิด ของฉัน !”

“ตระกูลซูอย่างพวกแกน่ะมันเนรคุณสิ้นดี !”

ซูอีเฉินยิ้มเยาะอย่างเย็นชา “แกน่ะไม่ได้ให้กำเนิดซู่เป่ามาหรอก”

หลินเฟิงชะงักไปชั่วขณะ “ม…หมายความว่ายังไง”

ซูอีเฉินมองหลินเฟิงตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเย็นชา “ผลการตรวจ DNA ออกมาว่า คุณไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของซู่เป่า”

ทันใดนั้นสมองของหลินเฟิงก็ปั่นป่วน ทางออกสุดท้ายและท้ายสุดของเขาถูกปิดกั้นเสียแล้ว

เขา... ไม่ใช่บิดาผู้ให้กำเนิดของซู่เป่าจริงๆหรือ !

เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

หลินเฟิงคงลืมไปแล้ว ว่าแต่ก่อนเขาเกลียดที่จะมีลูกแบบซู่เป่ามากแค่ไหน

แต่ตอนนี้กลับมาเรียกร้องต้องการความสัมพันธ์พ่อลูกกับซู่เป่ากลับมา

หากให้พูดตามตรง เขาเพียงแค่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวก็เท่านั้น ถ้าหากเป็นผลประโยชน์ของเขา อย่าว่าแต่ให้เป็นพ่อของซู่เป่าเลย ให้เรียกซู่เป่าว่าพ่อเขาก็ยอม!

หลินเฟิงรู้ตัวว่าร้องขอเศษทานไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เขาจึงทำได้เพียงตะโกนด่าทอซูจิ่นอวี้ ตระกูลซู และซู่เป่า

นายหญิงซูกอดซู่เป่าและพูดด้วยความสะอึกสะอื้น “ซู่เป่า กลับกันเถอะลูก”

พวกเขาไม่มีอารมณ์ที่จะจัดงานวันเกิดนี้อีกต่อไป

ทุกคนมองไปที่ซู่เป่าอย่างเห็นอกเห็นใจ พวกเขานึกถึงตอนที่เขาคาดการณ์ไปต่างๆนานาก่อนหน้านี้ แต่เมื่อความจริงถูกเปิดเผยกลับไม่เป็นอย่างที่พวกเขาคาดเดา พวกเขาจึงรู้สึกละอายใจเล็กน้อย

แต่ซู่เป่าที่อยู่ใจกลางมรสุมพายุกลับยิ้มอย่างอ่อนหวาน “คุณยายเจ็บปวดใจเพราะซู่เป่าใช่ไหม”

“ไม่เป็นไรนะคะคุณยาย ตอนนี้ซู่เป่าหายดี เป็นปกติแล้ว!”

เจ้าแก้มก้อนยิ้มอย่างไร้เดียงสาและจริงใจ เธอคือคนที่เจ็บปวดที่สุด แต่กลับเป็นคนแรกที่ปลอบคนอื่น...

เด็กคนนี้ ใจดีมีเมตตาเหลือเกิน

นายหญิงซูดวงตาเริ่มแดงก่ำ

ซู่เป่ากอดกระต่ายหุ่นเชิดและนกแก้วไว้ในอ้อมแขน และเอื้อมมือไปแตะศีรษะของนายหญิงซู

“คุณยายอย่าร้องไห้สิคะ! ”

นายหญิงซูสูญเสียการควบคุม เธออดไม่ได้ที่จะร้องไห้

ซูอี้เซินและคนอื่นๆพานายหญิงซูกลับเข้าไปพักในห้องนอน ซูอีเฉินอุ้มซู่เป่าขึ้นมาแล้วถามว่า “ซู่เป่าเศร้าไหม”

เดิมทีเขาไม่ได้ตั้งใจว่าจะเปิดเผยความจริงเรื่องหลินเฟิงไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของซู่เป่าในวันเกิดเธอ

แต่มีบางอย่างต้องรีบตัดและจัดการอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายมาทำร้ายเราได้

สิ่งเดียวที่ทำให้ซูอีเฉินลังเลคือปฏิกิริยาของซู่เป่า

แต่ซู่เป่ากลับส่ายหัวไปมา แล้วพูดว่า “หนูไม่เศร้าเลยค่ะ ลุงใหญ่”

“คนที่ทำผิดไม่ใช่ซู่เป่าใช่ไหมคะ คือพ่อต่างหาก คนที่ควรจะเศร้าก็ต้องเป็นพ่อค่ะ”

ซูอีเฉินอึ้งไปชั่วขณะ เจ้าตัวเล็กคนนี้…

แม้ว่าเธอจะยังเด็ก แต่ดูเหมือนเธอจะฉลาดและรู้ความมาก

อารมณ์ของซูอีเฉินอ่อนโยนลง และเขาสัมผัสศีรษะเล็กๆ ของซู่เป่า

หลังจากนี้ เขาจะไม่ให้เธอเป็นอะไรไปอีกแล้ว

สำหรับคนที่ปล่อยให้หลินเฟิงและมู่ชิ่นซินเข้ามาในครั้งนี้... ซูอีเฉินเงยหน้าขึ้นอย่างเย้ยหยัน

ในขณะนี้ เหวยหว่านแอบดูสถานการณ์อยู่นอกหน้าต่าง

เมื่อเห้นว่าหลินเฟิงกับมู่ชิ่นซินถูกเอาตัวไปแล้ว ความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจ ทุกคนมองไปที่ซู่เป่าด้วยสีหน้าที่เจ็บปวดใจ...

แม้ว่าจะรู้ว่าเป็นการเข้าใจผิด แต่เหวยหว่านไม่รู้ว่าทำไม เธอกลับไม่สามารถมีความสุขได้เลย!

ขณะนี้ เธอเห็นซูอีเฉินที่กำลังยิ้มเยาะเย้ยเธอจากระยะไกล และใจเธอก็หวาดหวั่นขึ้นมาทันที

เธอ เธอเพียงแค่เผลอปล่อยให้หลินเฟิงและมู่ชิ่นซินเข้ามา เธอไม่รู้ความจริงมาก่อน และคนที่ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ดังนั้นฉันจึงโทษเธอไม่ได้...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน