ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 280

ซูจิ่นอวี้ตะลึงงัน จากนั้นก็หัวร่อขึ้นมาอีก

เธอบีบจมูกน้อยๆ ของซู่เป่า “มีแต่หนูนี่แหละที่ฉลาด!”

ซู่เป่าเท้าเอวพูดอย่างภูมิใจ “มันแน่อยู่แล้ว!”

ซูอีเฉินยกยิ้ม เหล่าพี่น้องต่างมองซูจิ่นอวี้และซู่เป่าด้วยความรัก

ซู่เป่าคว้าข้าวเกรียบรสไก่งวงกำหนึ่งแล้วยัดใส่ปากของซูจิ่นอวี้ “แม่กิน”

ซูจิ่นอวี้ “แบบนี้แม่กินไม่ได้นะ...เอ๋”

กินได้แฮะ!

ที่แท้ข้าวเกรียบกุ้งที่ซู่เป่าจับจะเปลี่ยนแปลงอัตโนมัติ นี่ถึงทำให้เธอกินได้เลย

“อร่อย!” ซูจิ่นอวี้ตาเป็นประกาย

ซู่เป่าหยิบคัพเค้กขึ้นมาอีก ยัดเข้าปากของซูจิ่นอวี้ “แม่กินคัพเค้ก!”

ไม่รอให้ซูจิ่นอวี้กินเสร็จ เธอก็ตักถั่วลิสงขึ้นมาอีกช้อน “อา...แม่อ้าปาก”

เพิ่งป้อนถั่วลิสงเสร็จ ซู่เป่าก็หยิบผลไม้ขึ้นมาอีกชิ้น

ยัดๆ อะไรก็ยัดใส่ปากแม่ให้หมด ยัดเข้าไปนั่นแหละถูกแล้ว!

ซูจิ่นอวี้ “แค่กๆๆ...”

ซู่เป่าเห็นเธอไอจึงรีบยกเหล้ามาแก้วหนึ่ง “แม่ดื่ม!”

ซูจิ่นอวี้แทบสำลักตาย กว่าจะกระเดือกลงไปได้ พูดแบบจุกอก “ซู่เป่า ลูก...”

กลับเห็นซู่เป่าเอียงศีรษะน้อยๆ พิงอยู่ในอกของซูอีเฉิน นอนหลับครอกฟี้ไปแล้ว

หลับปุ๋ยในหนึ่งวินาทีเหมือนเดิม มือนุ่มนิ่มเล็กๆ ยังถือแก้วเหล้าอยู่

ซูจิ่นอวี้ “...”

ซูอีเฉินมองซู่เป่าอย่างจนปัญญาก่อนจะจับเธอนอนลง

ซูอี้เซินใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นทับเสื้อยืด ดังนั้นจึงถอดเสื้อเชิ้ตออกแล้วห่มให้ซู่เป่า

ซูอิ๋งเอ่อร์ถามด้วยความกังวล “นอนแบบนี้ไม่เป็นไรใช่ไหม กลางคืนจะมากจะน้อยก็มีน้ำค้างนะ”

ซูจื่อหลินหยิบตะกร้าไม้ไผ่สานที่บรรจุของว่างอยู่มาเงียบๆ แล้วครอบอยู่บนศีรษะซู่เป่า

ตะกร้าไม้ไผ่เป็นตะกร้าแบบก้นแบน เนื่องจากต้องใส่ขนมเป็นจำนวนมาก เมื่อครู่ซูลั่วจึงเลือกใบที่ใหญ่ที่สุด

ตอนนี้พอจะเรียกได้ว่ากระบุง...

กระบุงคล้ายร่มคันเล็กบังศีรษะของซู่เป่า

“แค่นี้ก็เรียบร้อย” ซูจื่อหลินพูด

ทุกคน “...”

ซูจื่อหลิน “มีอะไรไม่ถูกเหรอ”

ซูจิ่นอวี้มองซู่เป่าที่มีตะกร้าไม้ไผ่ครอบอยู่บนศีรษะ มุมปากกระตุก

“พี่รอง พี่เอาอะไรมาค้ำสักหน่อยเถอะ!”

ซูจื่อหลิน “อ่อ...”

ซูอิ๋งเอ่อร์ยื่นรองเท้าแตะมา “เอานี่”

เหล่าพี่น้องถลึงตาทีหนึ่ง “ไปไกลๆ เลย!”

ใบหน้ายิ้มแย้มของซูจิ่นอวี้แข็งทื่อ “พี่ห้า พี่ยังกล้าทำให้มันแย่ไปกว่านี้อีกเหรอ เอารองเท้าแตะมา ถ้ามันยันไม่อยู่ล้มใส่หน้าซู่เป่าจะทำยังไง จะให้ดมกลิ่นเท้าเหม็นโฉ่ของพี่เหรอ!”

ซูอิ๋งเอ่อร์เก้อเขิน “เท้าพี่ไม่เหม็นสักหน่อย...”

ซูอีเฉินยื่นเท้ามาข้างหนึ่ง ให้ซู่เป่ามาอยู่ข้างตัวเขา ตั้งกระบุงอยู่ที่ขาของเขา

“อย่างนี้ไปก่อนแล้วกัน! เดี๋ยวก็กลับแล้ว แล้วค่อยอุ้มซู่เป่ากลับไป”

ซูจิ่นอวี้พยักหน้า สูดลมหายใจทีหนึ่งแล้วจึงถอนหายใจกล่าว “เฮ้อ ยังเป็นเหล้าที่หอม!”

ซู่เป่านอนดิ้น ตุบทีหนึ่งก็ต่อยกระบุงไปแล้ว ซูอีเฉินจึงอุ้มเธอขึ้นมา

ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง ซูอี้เซินก็รับซู่เป่ามาไว้ในอก อีกครู่หนึ่งซูจื่อหลินก็รับต่อไปอีก

บรรดาคุณลุงทั้งหลายสลับกันอุ้มซู่เป่าด้วยความระมัดระวังอยู่อย่างนั้น เพราะอย่างไรก็ไม่อยากลงไป กระทั่งดื่มเหล้าไหนั้นจนหมดก็ยังไม่ยอมเลิกรา

กว่าจะได้อยู่พร้อมหน้ากัน จะตัดใจลงได้อย่างไร

มีแต่อยากให้ราตรีนี้เนิ่นนาน ดวงจันทราลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้านานอีกหน่อย...

ตอนท้ายดื่มเหล้าและกินขนมจนหมดแล้ว เหล่าพี่น้องก็นอนอยู่บนหลังคาอย่างอาลัยอาวรณ์เหมือนเดิม พยายามหาเรื่องพูดคุยกัน

ต่อให้อนาคตมีดวงดาวนับพันก็ไม่สู้จันทร์กระจ่างในคืนนี้ ต่อไปจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว...

ตรงมุมมืดของบันไดมีเงาร่างสูงเพรียวหนึ่งพิงอยู่

มู่กุยฝานมองดูอยู่เงียบๆ

ขณะเล่าเรื่องตอนเด็กๆ หญิงสาวยิ้มตาหยี ท่าทางยิ้มแย้มมีความสุข

เดินหาตามห้องหลายห้องติดๆ ทุกคน...หายไปกันหมดเนี่ย

คราวนี้นายหญิงซูกระวนกระวายจริงๆ แล้ว

เธอย้อนกลับไปที่ห้อง รีบเขย่าตัวคุณท่านซู “ตื่น ตื่นเร็ว!”

คุณท่านซูช้างฉุดก็ไม่ตื่น พลิกตัว แถมยังดึงผ้าห่มอีกแน่ะ แต่ก็ไม่ตื่น

นายหญิงซูร้อนใจโพล่งปากด่า “นอนๆๆ รู้แต่นอน! คุณรู้ไหมว่าซู่เป่าหายตัวไปแล้ว!”

คิดไม่ถึงว่าคุณท่านซูจะลืมตาแบบทันทีทันใด ลุกขึ้นพรวด “อะไรนะ! ซู่เป่าหายตัวไปเหรอ!”

นายหญิงซู “...”

เธอพูดปนด่า ตามหาซู่เป่าทุกที่ด้วยความร้อนใจ

ห้องหนังสือชั้นสาม ไม่มี ห้องอื่นๆ ก็ไม่มี

โฮมเธียเตอร์ไม่มี โต๊ะบิลเลียดไม่มี ใต้โต๊ะก็ไม่มี

ดาดฟ้าชั้นห้าไม่มี ห้องกระจกไม่มี...

ดะเดี๋ยวๆ

นายหญิงซูแหงนหน้าขึ้นขวับ สุดท้ายเห็นเงาคนห้าหกสายนอนระเกะระกะอยู่บนหลังคา

เงาเล็กที่สุดในนั้นไม่ใช่ซู่เป่าแล้วจะเป็นใคร!

บนหัวของเด็กน้อยยังมีกระบุงครอบอยู่ใบหนึ่งแน่ะ...

นายหญิงซูเดือดดาลทันที ถึงกับเอาเด็กไปนอนอยู่บนหลังคาเชียวเหรอ!

ไม่เอาเสื้อผ้าผ้าห่มห่มให้ แต่เอากระบุงครอบไว้...แล้วยังครอบไว้บนหัวอีก!

กลางคืนน้ำค้างลงจัด ถ้าเป็นหวัดจะทำยังไง เป็นไข้จะทำยังไง

ถ้าพลิกตัวไม่ระวังไหลลงมาจากร่องของราวกั้นหลังคาจะทำยังไง!

เด็กไม่รู้ความ ผู้ใหญ่ก็ยังไม่รู้ความเหรอ

นายหญิงซูโมโหจนมือไม้มีพละกำลัง

คุณท่านซูเพิ่งขึ้นมาก็เห็นภรรยาบ้านตัวเองเป็นเหมือนกับลิงค่าง จับบันไดแบบมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว เดินฉับขึ้นหลังคาห้องกระจกแบบคล่องแคล่วว่องไว

คุณท่านซูอดเผยอปากไม่ได้

นี่ๆๆ นี่ใช่ยายแก่บ้านเขาที่เป็นอัมพาตแรมปี ระยะนี้เพิ่งยืนได้คนนั้นเหรอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน