ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 3

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วมาก คนตระกูลหลินยังไม่ทันได้ตอบสนอง

หลินเฟิงที่ลงมาข้างล่างอย่างเร่งรีบไม่เห็นภาพที่ซูอี้เซินอุ้มซู่เป่าไป เขาเห็นซูอีเฉินที่อยู่ตรงประตูเตรียมขึ้นรถจะจากไป จึงรีบวิ่งเข้าไปทันที

“ไอหยา ประธานซู!” ใบหน้าของหลินเฟิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ลมอะไรหอบคุณมาเหรอ! ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ เป็นเกียรติแก่ตระกูลหลินของผมเป็นอย่างมาก!”

ระหว่างที่หลินเฟิงพูด คุณท่านหลิน นายหญิงหลินและคนรับใช้เหล่านั้นที่ได้ข่าวต่างออกมาต้อนรับ ใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแสนเป็นมิตร

เห็นชายหนุ่มสีหน้าเย็นชาตรงหน้า พวกเขาเกือบจะคำนับเก้าสิบองศาแล้ว

ซูอีเฉิน คนดูแลคนปัจจุบันของเครือกรุ๊ปซูซื่อ ประธานสีหน้าเย็นชาพูดคำไหนคำนั้นแห่งซูซื่อกรุ๊ป!

ตระกูลซูเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งจิงตู ใครไม่อยากประจบประแจงบ้าง

ตระกูลไฮโซอย่างแท้จริงมีภูมิหลังลึกซึ้งแบบนี้ ใช่ว่าอยากเจอก็จะได้เจอ คนตระกูลซูเรียบง่ายและลึกลับ คนนอกรู้เพียงว่าตระกูลซูมีลูกชายแปดคน น้อยครั้งที่จะมีคนเคยเห็นพวกเขา

และมีเพียงซูอีเฉินที่ปรากฏตัวอยู่บนหน้าหัวข่าวเศรษฐกิจอยู่เป็นครั้งคราว ด้วยเหตุนี้คนตระกูลหลินถึงจำได้

“ประธานซู เชิญด้านในๆ ! ข้างนอกฟ้าหนาวดินเย็นหนาวแค่ไหน ถ้าคุณไม่รังเกียจละก็เชิญเข้าไปนั่งในบ้านก่อนสิ” คุณท่านหลินเชื้อเชิญอย่างเป็นมิตร

“ใช่ๆ เชิญด้านในเลยครับ ดื่มชาร้อนสักแก้ว!” ใบหน้าของหลินเฟิงเองก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

เผชิญหน้ากับบุคคลระดับตำนานเล่าขานของแท้ พวกเขาแทบจะกลายร่างเลียราวกับสุนัข

วิกฤติของตระกูลหลิน สำหรับตระกูลหลินแล้วคือภัยพิบัติที่สามารถทำลายล้างได้

แต่เพียงแค่ซูอีเฉินพูดออกมาประโยคหนึ่ง ตระกูลหลินก็จะฟื้นคืนชีพได้ทันที!

ไม่แน่ว่าอาจกลายเป็นสุดยอดตระกูลธุรกิจสิบอันดับแรกแห่งจิงตู...

ซูอีเฉินสีหน้าไร้อารมณ์ มองไปที่หลินเฟิงด้วยสายตาคมกริบ

นี่คือพ่อของซู่เป่างั้นเหรอ

สีหน้าแววตาของเขาไม่มีอารมณ์ที่ไม่จำเป็น พูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ตระกูลหลิน เยี่ยมมาก”

พูดจบก็ไม่สนใจพูดด้วยอีก จากนั้นขึ้นรถแล้วจากไป

คนตระกูลหลินยืนทำหน้างงอยู่ที่เดิม ในใจทั้งสับสนทั้งกลัว

นายหญิงหลินพูดขึ้นว่า “ประธานซูบอกว่าตระกูลหลินเราเยี่ยมมากงั้นเหรอ กำลังชมเรางั้นเหรอ งั้นเขาจะช่วยตระกูลหลินเราใช่ไหม”

คุณท่านหลินหน้านิ่วคิ้วขมวด “สีหน้าของประธานซูไม่ได้ดูเหมือนว่าชมเรานะ”

หลินเฟิงเรียกคนมาถามว่าเมื่อครู่เกิดเรื่องอะไรขึ้น

เมื่อได้ยินว่าคนตระกูลซูยกทัพมารับซู่เป่าไป

ชายชุดดำคนหนึ่งยังถอดเสื้อออก แล้วกอดซู่เป่าไว้ในอก เรียกตัวเองว่าลุงเล็กของซู่เป่า...

หลินเฟิงราวกับถูกฟ้าผ่า จู่ๆ ก็เข้าใจอะไรในทันที

ตระกูลซูมีลูกชายแปดคน ลูกสาวหนึ่งคน ลูกสาวคนนั้นอ่อนแอแต่เด็ก ไม่เคยปรากฏตัวต่อสายตาชาวโลกมาก่อน

ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ผู้หญิงที่เขาเก็บได้เมื่อสี่ปีก่อนคนนั้น ก็คือลูกสาวเพียงหนึ่งเดียวที่ตระกูลซูหวงแหนเป็นที่สุด!

คนตระกูลหลินที่คิดขึ้นมาได้ก็หงุดหงิดเป็นอย่างมาก รู้สึกเสียใจจนอยากอาเจียนเป็นเลือด!

นายหญิงหลินริมฝีปากสั่นเทา “ที่แท้ก็เป็นลูกของตระกูลซูนี่เอง...เร็วเข้าๆ เราไปรับตัวซู่เป่ากลับมาเร็วเข้า...”

ถ้ารู้แบบนี้ตั้งนานแล้ว พวกเขาจะกล้าให้ซู่เป่าคุกเข่าอยู่บนพื้นหิมะได้ยังไง!

แทบอยากจะบูชาเป็นบรรพบุรุษโอเคไหม

หลินเฟิงเองก็นึกเสียใจเป็นอย่างมาก นึกถึงตอนที่ตัวเองตีซู่เป่า เขาเริ่มกระวนกระวายใจอย่างอธิบายไม่ถูก

เขาพูดตะคอกอย่างหงุดหงิด “จะรับมายังไง! ตอนนี้พวกเราอยากจะไปรับก็จะรับกลับมาได้เหรอ”

คุณท่านหลินขมวดคิ้วจนแทบจะเป็นปม ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่แล้วพูดว่า “ถึงยังไงเราก็เป็นครอบครัวของซู่เป่า ปู่แท้ๆ ย่าแท้ๆ! ไม่ว่าตระกูลซูจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟยังไงก็ปฏิเสธความจริงข้อนี้ไม่ได้ อีกอย่าง เธอทำให้ชิ่นซินแท้งเรื่องนี้ก็เป็นความจริงเช่นกัน...”

แต่พวกเขาเพียงแค่อบรมสั่งสอนเธอเท่านั้น เพื่อไม่ให้เธอกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจใช้อำนาจ!

เพียงแต่หลินเฟิงโกรธเกินไป ไม่ทันได้ระวังเลยลงมือหนักไปหน่อยเท่านั้น...

คนตระกูลหลินคิดว่าเรื่องนี้สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ เพียงแค่อธิบายให้ชัดเจน เช่นนั้นความมั่งคั่งร่ำรวยก็รอพวกเขาอยู่ในอนาคตแล้ว...

หลังจากคนตระกูลซูมารับซู่เป่าก็ยังไม่ได้กลับไปยังจิงตู แต่รีบไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

ในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของหนานเฉิง ตอนนี้ชั้นวีไอพีบนสุดที่เคยเย็นยะเยือกอยู่เสมอวุ่นวายไปหมด

ไม่มีใครกล้าพูดเสียงดัง มีเพียงแต่เสียงตื๊ดๆๆ จากเครื่อง เสียงฝีเท้าเดินไปมาอย่างฉับไวของหมอและพยาบาล ทำให้บรรยายกาศตึงเครียดเป็นอย่างมาก

คุณท่านซูใช้ไม้เท้ายันพื้นเดินไปเดินมาอย่างไม่หยุดหย่อน พลางถามว่า “ทำไมยังไม่ออกมาอีก!”

ซูอีเฉินมองเวลา พูดเสียงทุ้มต่ำว่า “พ่อครับ พ่อนั่งก่อนเถอะครับ”

หลังซู่เป่าถูกส่งตัวมาโรงพยาบาลก็เข้าห้องฉุกเฉินไปเลย ซูอี้เซินตามเข้าไป ตอนนี้ก็ยังไม่ออกมาเช่นกัน

ในห้องฉุกเฉิน

ซูอี้เซินมองซู่เป่าที่หนาวจนตัวเขียว มือสั่นเทาไปหมด

สี่ปีก่อน ไม่รู้ว่าซูจิ่นอวี้ที่ป่วยหนักความจำเสื่อมไปหนานเฉิงได้ยังไง จนสุดท้ายถูกหลินเฟิงเก็บกลับมาบ้าน

จากนั้นตอนที่ซูจิ่นอวี้คลอดลูกก็ป่วยหนักเลย เกือบไม่รอด

หรืออาจเป็นเพราะสาเหตุของเด็ก และทนมาได้อีกสองปีราวปาฏิหาริย์ หลังจากป่วยตายก็ทิ้งซู่เป่าไว้คนเดียว

น้องสาวสุดที่รักที่พวกเขาเลี้ยงดูอย่างไข่ในหิน ป่วยตายไปทั้งแบบนี้ที่ต่างถิ่น กระทั่งไม่มีฐานะ ไม่มีใครรับรู้...

ซูอีเฉินกำหมัดแน่นอย่างอดไม่ได้ ยิ่งโกรธสีหน้าก็ยิ่งเย็นชา

คุณท่านซูไม่กล้าถามอะไรอีก กลัวว่าตัวเองจะรับไม่ได้

ซูอี้เซินถามขึ้น “พวกเขาตีซู่เป่าทำไม”

ซูอีเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “มู่ชิ่นซินภรรยาของหลินเฟิงล้มตกบันไดจนแท้ง หลินเฟิงคิดว่าซู่เป่าเป็นคนผลักมู่ชิ่นซิน”

ทุกคนในตระกูลซูต่างขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้

ตอนที่กำลังพูด คนตระกูลหลินตามร่องรอยมาจนเจอ

ผู้ช่วยของซูอีเฉินรีบเดินเข้ามา พูดกระซิบว่า “ประธานซูครับ คนของตระกูลหลินมาแล้วครับ บอกว่าอยากมาเยี่ยมหลานสาวของตัวเอง...”

ซูอีเฉินหัวเราะอย่างเย็นชาทีหนึ่ง แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ปิดฮีตเตอร์นอกชั้นนี้ให้หมด เปิดหน้าต่าง แล้วให้พวกเขารอไป”

หลินเฟิง คุณท่านหลินและนายหญิงหลินรออยู่ตรงทางเดินด้านนอกชั้นบนสุดอยู่นานสองนาน

ชั้นวีไอพีนี้มีประตูนิรภัย พวกเขาอยู่ที่ชั้นนอกสุด เข้าไม่ได้

หลังจากผู้ช่วยของซูอีเฉินมาบอกให้พวกเขารอแล้วก็หายไปเลย

นายหญิงหลินต่อว่า “ทำไมถึงไม่ให้พวกเราเข้าไปล่ะ! ถึงจะพูดยังไงก็เป็นหลานสาวของเราเหมือนกันนะ มีที่ไหนกันให้ปู่ ย่า พ่อแท้ๆ รออยู่นอกห้องน่ะ... ”

หลินเฟิงพูดอย่างหงุดหงิด “รอไปเถอะน่า!”

เขาไม่ทันระวังตีซู่เป่าจนอยู่ในสภาพนั้น ที่คนตระกูลซูโกรธก็พอเข้าใจได้

ไม่นานคนตระกูลหลินก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ในทางเดินเริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ ตรงที่พวกเขารออยู่คือข้างหน้าต่าง ลมพัดอู้ๆ โชยมาข้างใน หนาวจนพวกเขาทนไม่ไหวต้องขดตัว!

“นี่มันอากาศบ้าบออะไรกัน เป็นอากาศที่คนอยู่ได้เหรอ” นายหญิงหลินที่ใช้ชีวิตอยู่ดีกินดีรับไม่ได้ก่อนเป็นคนแรก

“หลินเฟิง แกรีบไปถามใครก็ได้ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน!” คุณท่านหลินเองก็พูดอย่างขมวดคิ้ว

คนตระกูลซูโกรธ ตั้งใจให้พวกเขารออยู่ชั่วครู่ก็ช่าง แต่ทำไมถึงให้รอนานขนาดนั้น นี่ก็ครึ่งชั่วโมงแล้ว

วันที่เหน็บหนาวขนาดนี้ ใครจะทนไหวกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน