ตุ๊กตาบนตู้โชว์ด้านนอกร้านยังดูปกติดีอยู่ แต่พอเข้าไปข้างในก็ยิ่งดูน่าสยดสยองมากขึ้นทุกที
โดยเฉพาะตุ๊กตานักร้องที่มีใบหน้าซีดเซียวปัดบรัชออนสีแดงเป็นวงกลมสองวง ตัวหนึ่งโกนผมขึ้นไปครึ่งหนึ่งตั้งหน้าม้า นักรบที่มัดมวยผมไว้บนหัว...
แต่ละตัวแปลกประหลาดผิดมนุษย์มนา
เมื่อเปิดประตูกระจกของห้องทำงานที่อยู่ด้านหลังก็มีกลิ่นอับโชยออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไปหยุดอยู่หน้าอ่างผสมดินปั้น
ประสบการณ์หลายปีทำให้เขาสัมผัสได้ว่ามีกลิ่นบางอย่างที่แตกต่างออกไป
“ตรวจสอบดินปั้นนี้ด้วย”เขาพูดเบา ๆ
ในขณะเดียวกัน สิ่งที่พวกเขามองไม่เห็นคือชายชุดขาวลอยอยู่ในอากาศใบหน้าของเขาซีดขาว ริมฝีปากแดง ดวงตาเรียวยาวคู่นั้นงดงามมีเสน่ห์
ซึ่งก็คือจี้ฉางนั้นเอง
เขามองไปรอบ ๆ และมาที่หน้าตู้โชว์หลายตู้อีกครั้ง เขาขมวดคิ้วมองสิ่งที่ไม่เหมือนคนแต่ก็ไม่เหมือนผี
“สิบห้าค่ำเดือนเจ็ด ภูตผีปีศาจออกมากันหมด”
เขาสะบัดเสื้อคลุมแล้วเห็นว่าตุ๊กตาพวกนั้นดูเหมือนจะหน้าตาบิดเบี้ยว ไม่นานก็มีเสียงดังเปรี๊ยะดังออกมา ไม่รู้เหมือนว่าอะไรถูกทำลาย
เสร็จแล้วจี้ฉางจึงลอยออกไป เขาไปหาซู่เป่า
หลังจากซูเหอเหวินพาซูเหอเวิ่นและซู่เป่าออกไปแล้ว ซู่เป่าก็หิวน้ำ อยากหาอะไรกิน
ซูเหอเหวินกำลังคิดเรื่องที่แจ้งความเท็จไป เขาก็ว่าจะหาที่นั่งแล้วโทรกลับไปอีกที
ทั้งสามคนมายังห้างสรรพสินค้าที่คึกคัก ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในห้างก็เห็นร้านสตาร์บัคส์ ซูเหอเหวินรีบร้อนจะหาที่นั่ง ซูเหอเวิ่นก็เป็นห่วงว่าน้องสาวเขาหิวน้ำ แต่ทั้งสองคนก็เดินอ้อมผ่านร้านนี้ไป
ในที่สุดพวกเขาก็เจอร้านอาหารหูหนานร้านหนึ่ง ซูเหอเวิ่นรีบขอให้พนักงานเอาน้ำให้ซู่เป่า ซูเหอเหวินหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา
ขณะที่เขากำลังจะโทรออก เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาพอดี
หลังจากรับโทรศัพท์และคุยไปสองสามประโยค สีหน้าของซูเหอเหวินก็ค่อยแปลกมากขึ้นเรื่อย ๆ
เขาพูดว่า “เราก็ไม่รู้เหมือนกันครับ น้องสาวผมแค่พูดไปมั่ว ๆ”
หลังจากนั้นก็บอกหมายเลขโทรศัพท์และที่อยู่บริษัทของซูอีเฉินไป เสร็จแล้วซูเหอเหวินถึงวางสาย
ซูเหอเวิ่นถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
ซูเหอเหวินจ้องไปที่ซู่เป่าและกระซิบว่า “ของพวกนั้นเหมือนจะเป็นเถ้ากระดูกของคนจริง ๆ”
ซูเหอเวิ่นรู้สึกขนหัวลุก แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว โชคดีที่เขาไม่ได้เข้าไปด้านหลัง!
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ซูเหอเหวินมองไปที่ซูเป่าด้วยสีหน้าที่จริงจัง ในตอนนี้เขาดูเหมือนกับเป็นผู้ปกครองจริง ๆ เลย
ซู่เป่าถือแก้วน้ำดื่มอึก ๆ หมดไปแก้วหนึ่ง แล้วรินเพิ่มอีกแก้ว อึก ๆ ๆ
คนเดียวที่เห็นสิ่งเหล่านั้นแล้วไม่กังวลอะไรเลยเหมือนจะมีแต่เธอนี่แหละ
ซู่เป่าเอียงศีรษะ “หนูไม่รู้ เรื่องนี้ต้องถามท่านอาจารย์”
ซูเหอเวิ่นถามว่า “แล้วท่านอาจารย์อยู่ที่ไหน?”
ซู่เป่าตอบว่า “ท่านอาจารย์ไปส่งแม่ของหนูไปเกิดใหม่ แล้วก็จัดการเรื่องที่เหลือด้วย”
ซูเหอเวิ่นบ่นขึ้นมาว่า “ยังไม่กลับมาอีกเหรอ? ไม่ใช่ฉันอยากจะว่าหรอกนะ แต่ท่านอาจารย์ของน้องนี่ เป็นอาจารย์ที่ใจใหญ่จริง ๆ แทบจะไม่อยู่ให้เห็นเงาเลย...โอ้ไม่สิ ไม่เห็นวิญาณเลยต่างหาก... “
เขากระซิบเสียงแผ่วเบา เหมือนกลัวว่าจี้ฉางจะปรากฏตัวขึ้นมากะทันหัน เขาจึงรวบมือแล้วชะโงกหน้าเข้าไปหาซู่เป่า
ดวงตาเล็ก ๆ เหลือบสายแลขวา
แล้วครู่ต่อมาก็มีเสียงแผ่วเบาดังขึ้นมาเหนือศีรษะของเขา “เสี่ยวเหอเวิ่น นี่เจ้าเบื่อชีวิตบนโลกมนุษย์แล้วใช่ไหม? ถ้าเจ้าเบื่อแล้ว เดี๋ยวอาจารย์จะพาไปเยี่ยมชมปรโลก... “
เมื่อตอนที่ซู่เป่ายังเป็นยมบาลน้อยอยู่ เธอก็ให้ยายเมิ่งคนใหม่ขึ้นมาก่อน
ซุปของยายเมิ่งประกอบน้ำตาแปดชนิด หนึ่งน้ำตาแห่งความเหนื่อยหน่าย สองน้ำตาแห่งการสูญเสีย สามน้ำตาแห่งความขมขื่น สี่น้ำตาแห่งความรู้สึกผิด
ห้าน้ำตาแห่งความเห็นอกเห็นใจ หกน้ำตาแห่งความเจ็บปวดทรมาณ เจ็ดน้ำแห่งการพลัดพราก
และสุดท้าย รสชาติที่แปดคือน้ำตาแห่งความเศร้าหมองของยายเมิ่ง
แต่น้ำตาของยายเมิ่งนั้นได้มายากมาก นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งและจี้ฉางก็ไม่อยากพูดถึงมันตอนนี้
เขาถามว่า “เมื่อกี้พวกเจ้าไปที่ร้านตุ๊กตานั่นมาหรือ?”
ซู่เป่าพยักหน้าและถามด้วยความสงสัย “ท่านอาจารย์ ที่นั่นมันยังไงกันแน่? หนูเห็นมีไอดำครุ่กรุ่นอยู่ที่กล่องไม้นั่นก็เลยเผามัน ที่นั่นมีไอหยินมารวมตัวกันเยอะมาก แต่ไม่เห็นมีผีเลยสักตัว”
จี้ฉางหัวเราะ “ไม่มีให้เห็นอยู่แล้วล่ะ ถ้าจะพูดให้ถูกที่นั้นไม่ใช่ร้านตุ๊กตาอะไรหรอก แต่เป็นโดโจต่างหาก”
ซูเหอเวิ่นตกตะลึง เขากับซู่เป่าพูดขึ้นมาพร้อมกัน “โดโจ?”
จี้ฉางสีหน้าเย็นชา “บางคนที่มีชีวิตที่ดี มักจะไม่ชอบใช้ชีวิตแบบปกติ ชอบอยากทำอะไรแปลก ๆ”
“โดโจนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของพิธีกรรม ตุ๊กตาเหล่านั้นเป็นอุปกรณ์ประกอบพิธีกรรม เหลือแต่ว่าพวกเขาทำพิธีกรรมกันเมื่อไหร่”
ซูเหอเวิ่นฟังจนงงไปหมด โดโจอะไร พิธีกรรมอะไร...
“พวกเขาต้องการจะทำอะไรกัน?”
จี้ฉางบอกว่า “พูดง่าย ๆ ก็คือคนบางคนไม่พอใจกับฐานะของตัวเอง แล้วพวกเขาไม่มีความสามารถที่พัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าทันคนอื่นได้ จึงอิจฉาความเจริญรุ่งเรืองของผู้อื่น”
“ดังนั้นจึงคิดหาวิธีที่ชั่วร้ายมาขออาศัยดวงเมือง”
พูดมาถึงตรงนี้จี้ฉางถุยทีหนึ่ง “อาศัยดวงเมืองอะไรเล่า ควรจะเรียกว่าขโมยดวงเมืองมากกว่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...