ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 348

คุณลุงที่มีผีอยู่บนหัวมองทุกคนที่กำลังมองมาที่เขา ก็ยิ่งวางท่าอวดว่าตัวเองเป็นคนตลกขบขัน ก่อนจะยิ้มแล้วพูดต่อ

“ถอนขนให้เกลี้ยง ใช้เหล็กเสียบแล้วเอาไปย่าง หลังจากนั้นค่อยทาผงยี่หร่าสักนิด น้ำมันหอยสักหน่อย...หืม อร่อยสุด ๆ ไปเลย!”

เขาพูดไปด้วยน้ำลายไหลไปด้วย ทำท่าทีขู่เสี่ยวอู่

คนอื่นกำลังให้ความสนใจเจ้านกแก้วตัวนี้กัน เขาก็เลยอยากลองขู่นกแก้วตัวนี้ดูว่ามันจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร

เสี่ยวอู่ตกใจจนเหวอไปแล้ว

เสี่ยวอู่ไม่เหมือนกับนกแก้วตัวอื่น ๆ สติปัญญาของมันอย่างน้อยก็น่าจะพอ ๆ กับเด็กเจ็ดแปดขวบ ดังนั้นจึงฟังออก

ลองคิดดูว่าถ้า จู่ ๆ มีคนเดินเข้ามาบอกคุณว่าลูกของคุณฉลาดจริง ๆ แล้วจับไปย่างโรยยี่หร่าสักหน่อยอร่อยแน่นอน...คุณจะกลัวไหมล่ะ

เสี่ยวอู่ร้องตกใจมุดเข้าไปในปกเสื้อของซู่เป่า

คุณลุงเห็นแบบนี้ก็รู้สึกสนุกขึ้นมา หัวเราะเสียงดัง

นายหญิงซูเริ่มโมโห พูดอย่างเยือกเย็น “พูดจาอะไรกันเนี่ย ลองให้ฉันจับแกไปเผาบ้างเอาไหม”

คุณลุงคนนั้นพูดไปยิ้มไป “ไอ๊หยา ล้อเล่นเฉย ๆ อย่าจริงจังสิ”

นายหญิงซูทำหน้าบึ้งตึงเย็นชาจ้องไปหาเขา “ขอโทษซะ!”

ในสายตาของนายหญิงซู เสี่ยวอู่ไม่ใช่แค่นกตัวหนึ่ง เนื่องจากใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่ร่วมกัน นานวันเข้าก็เลยเกิดความรู้สึกว่ามันก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูลซูเช่นกัน

จู่ ๆ ก็มีคนมาบอกว่าจะเอามันไปย่าง...ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม คำพูดแบบนี้มันคุกคามกันชัด ๆ

คุณลุงคนนั้นรู้สึกน่าเบื่อจึงบ่นพึมพำ “พูดเล่นไม่ได้เลย กับอีแค่นกตัวเดียว ผมก็ชอบมันเหมือนกันถึงได้แหย่เล่น”

ซู่เป่าชักสายตากลับจากผีร้าย พูดขมวดคิ้ว “ลุง ลุงทำแบบนี้ไม่ถูกนะ! นี่ไม่ใช่ล้อเล่นแล้ว นี่มันคุกคามกันชัด ๆ”

ซูเหอเวิ่นพูดด้วยความโกรธ “ขอโทษซะ!”

ซูเหอเหวินมองเขาอย่างเย็นชา น้ำเสียงบางส่วนคล้ายกับประธานซูราวกับสืบทอดกันมา เย็นชาราวกับจะแช่แข็งคนได้ “อาเนี่ย จัดการเขาซะ”

วันนี้ออกจากบ้านนายหญิงซูพาอาเนี่ยและบอดี้การ์ดอีกสองคนมาด้วย ขณะนั้นเองชายร่างใหญ่ทั้งสามก็ลุกขึ้นยืน แล้วพับแขนเสื้อ

คุณลุงวัยกลางคนตกใจ ทุกคนรีบเกลี้ยกล่อม “ไอ๊หยา ไม่เห็นต้องถึงขนาดนั้นเลย ก็แค่พูดจาไม่ดีนิดหน่อย อย่าลงไม้ลงมือกันเลย!”

ซูเหอเหวินพูดอย่างเย็นชา “ลงไม้ลงมืออะไร ฉันก็แค่ล้อเล่น”

คุณลุงวัยกลางคน “…”

เห็นบอดี้การ์ดสองคนเข้ามาใกล้ คุณลุงก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอาย ทำได้เพียงกลั้นใจพูดออกมา “ผมขอโทษ เอ้ย ขอโทษคงไม่พอมั้ง...ผมเสียใจขอโทษ ๆ!”

พูดจบก็เดินไปปากก็พึมพำ “คนอะไรวะเนี่ย แค่ล้อเล่นก็ถึงขั้นจะทำร้ายกันเลย”

กับอีแค่นกตัวเดียวมันขนาดนั้นเชียวหรือ

ซู่เป่าเห็นคุณลุงคนนั้นจะเดินไป ก็รีบหันไปหาท่านอาจารย์

จี้ฉางพูด “สบายใจได้ หนีไม่พ้นหรอก”

ในเมื่อมาปรากฏให้เธอเห็นแล้ว อย่างนั้นหนีไม่พ้นอย่างแน่นอน

...ยกเว้นผีขี้แยในตอนแรก ๆ

ผีขี้แยกลายเป็นแผลในใจของจี้ฉางไปแล้ว นานป่านนี้ยังหาไม่เจอ พอคิดถึงตรงนี้ จี้ฉางก็แอบลอยออกไปพร้อมกับแสงอันมืดมิดเพื่อไปทำสัญลักษณ์ไว้ที่ผีร้ายตนนี้

ซูอี้เซินเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว “ไปกันเถอะ”

ถึงแม้ภายในใจนายหญิงซูจะรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ทำได้เพียงเท่านี้แหละ

เรื่องแบบนี้ไม่ต้องถึงขั้นแจ้งความ เดี๋ยวเดือดร้อนคนอื่นเสียเปล่า สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

“ไปกันเถอะ!” เธอจูงมือซู่เป่า แล้วลูบหัวเสี่ยวอู่ที่แอบโผล่มาครึ่งหัว “ออกมาได้แล้ว ตาคนนั้นโดนพวกเราขู่จนหนีไปแล้ว มีคุณย่าอยู่ทั้งคนไม่มีใครกล้ามาย่างแกหรอก”

ซูเหอเวิ่นยังโกรธไม่หาย “ใช่ ใครจะมาย่างเสี่ยวอู่พวกเราจะจับมันย่างก่อนเลย!”

ซูจื่อซี “สอบอะไรเหรอ” (คำว่า สอบ ออกเสียงเหมือนกับคำว่า ย่าง ในภาษาจีน)

ทุกคน “…”

คุณลุงวัยกลางคนที่มีผีอยู่บนหัวกำลังอยู่กับคนในครอบครัว มาเยี่ยมญาติผ่าตัดที่โรงพยาบาล

ญาติคนนั้นความดันโลหิตสูงมาหลายปีแล้วไม่ยอมรักษา ก็เลยทำให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน เส้นโลหิตตันจนเกือบตายไปแล้ว ดีที่รอดมาได้

ในห้องผู้ป่วย

ตอนหมอมาตรวจก็ได้บอกไว้ว่า “วันนี้ก็ออกโรงพยาบาลได้แล้ว คนในครอบครัวต้องคอยระวังนะ คนไข้ไม่เพียงแค่มีความดันโลหิตสูงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ แต่ยังมีโรคเบาหวานอีกด้วย ให้งดทานอาหารรสจัด ทานอาหารที่น้ำตาลต่ำ ไขมันต่ำ กล้วยหอม ส้ม แตงโม องุ่น พวกผลไม้รสหวานทานไม่ได้ หรือควรทานให้น้อยลง ไม่ทานเลยจะดีที่สุด สามารถทานผลไม้ที่น้ำตาลไม่สูงมากได้ เช่นพวกแตงกวา ผลไม้จำพวกผักแบบนี้กินได้”

ลูกสาวของผู้ป่วยพยักหน้า หลังจากนั้นก็จำไว้ให้ขึ้นใจแล้วจดทุกข้อควรระวังไว้เต็มไปหมด

ส่วนลูกคนอื่น ๆ ก็ยุ่งวุ่นวายกับการทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล

ขณะนั้นเองญาติที่เอากระเช้าผลไม้มาเยี่ยม ทุกคนก็ถามสารพัดด้วยความเป็นห่วงเป็นใย พร้อมถามว่าอะไรกินได้ อะไรกินไม่ได้ เรื่องอาหารการกินต้องพิจารณาให้รอบคอบหน่อย

ผู้ป่วยก็เตรียมตัวออกจากโรงพยาบาล สภาพจิตใจก็ดีขึ้นมากแล้ว เล่าเรื่องลูกสาวดูแลตัวเองอย่างสนุกสนาน ออกแนวบ่นนิด ๆ “เธอหน่ะ นี่ก็ไม่ให้ฉันกิน นั่นก็ไม่ให้ฉันกิน”

จู่ ๆ คุณลุงคนนั้นก็ยิ้มขึ้นมา ก่อนจะพูดเสียงดัง “อาห้าผมจะบอกให้ ไม่มีอะไรที่กินไม่ได้! ของไม่อร่อยมันจะดีได้ยังไง อาอย่าไปฟังหมอเลย ลูกสาวอาอีก มีอะไรก็ไม่ให้พ่อกินนั่นมันเท่ากับว่าไม่กตัญญูรู้คุณ! มีลูกสาวที่ไหนเขาทำกันแบบนี้บ้าง”

ทุกคน “…”

ลูกสาวของผู้ป่วยพูดอย่างอดกลั้น “พี่เขยพูดอย่างนี้ไม่ได้นะ ร่างกายของพ่อฉันตอนนี้กินของที่มีน้ำตาลสูงไม่ได้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่กตัญญู แล้วก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้พ่อกิน”

คุณลุงคนนั้นพูดต่ออย่างหน้าตาเฉย “กินไม่ได้อะไรกัน มันมีที่ไหนมาห้ามไม่ให้คนกิน หมอพวกนี้กลัวปัญหาล่ะสิ จะบอกอะไรให้นะ นี่ก็กินไม่ได้ นั่นก็กินไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วไม่เป็นอะไรหรอก”

พูดไปด้วยและยังพูดแซวคุณตาที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยอีก “อาห้าออกโรงพยาบาลแล้ว เดี๋ยวกลับไปฉันจะดื่มเหล้าฉลองกับอาหนึ่งจอก!”

ลูกสาวของผู้ป่วยหมดคำพูด

จะลากคนที่เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลไปดื่มเหล้า คุณบ้าไปแล้วมั้ง

เธอพูดว่า “หมอบอกว่าไม่สามารถดื่มเหล้าสูบบุหรี่ได้ นี่เป็นข้อห้ามเด็ดขาด! พี่เขยอย่ามาก่อกวนได้ไหม!”

ใครจะไปรู้ว่าคุณลุงคนนั้นจะโบกมือแล้วพูดว่า “เธอจะไปเข้าใจอะไร ผู้ชายคนไหนไม่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่บ้าง ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ถึงจะอายุยืนยาวร้อย ๆ ปี! เธอก็แค่เสียดายเงินที่จะซื้อเหล้าบุหรี่ดี ๆ ให้พ่อของเธอ”

พอได้ยินคำพูดเมื่อครู่ ลูกสาวคนป่วยก็โมโหขึ้นมาทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน