ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 462

มอเตอร์ไซค์ของมู่กุยฝานจอดอยู่หน้าชุมชนเล็กๆ แห่งหนึ่ง

ซู่เป่าเพิ่งกระโดดลงจากรถเสร็จ ก็เห็นว่าข้างหลังยังมีมอเตอร์ไซค์อีกคันหนึ่งตามมา

อาปาสือขี่รถ แถมทั้งด้านหน้าด้านหลังเขายังมีหมาถูกล่ามไว้ด้วย

ขนหมาทั้งสองตัวยุ่งเหยิงไปหมด พอลงจากรถก็ยังทำหน้างงๆอยู่

ว่านปาสือจอดรถ แล้วก็หาตำแหน่งเพื่อแอบดูซู่เป่าจากที่ไกลๆ

มู่กุยฝานเอ่ย “ไปเถอะ เดี๋ยวพ่อจะดูหนูอยู่ข้างหลังเอง”

ซู่เป่าพยักหน้า “อื้มๆ!”

ซูเหอเวิ่นหยิบกระเป๋าแล้วควักถุงซิปล็อคออกมา แล้วเอามาวางไว้ข้างหน้าวูลฟ์ด๊อกเพื่อให้มันดม

“เจียงจวิน(นายพล)ไปหาคนนี้…เข้าใจที่ฉันพูดไหม?” ซูเหอเวิ่นพูดพลางหยิบเส้นผมออกมาหนึ่งเส้นแล้วเอ่ย “แล้วก็ผู้หญิงที่แกไปกัดก้นเธอวันนี้ด้วย…”

เจียงจวิน(นายพล)เป็นชื่ออันห้าวโหดที่เมื่อวานหลังซูเหอเวิ่น ซูเหอเหวิน ซู่เป่า หานหาน ซูจื่อซี(ขีดทิ้ง เงียบไม่ออกความเห็นอะไรเลย)ช่วยกันตั้งขึ้นมา

เจียงจวินนั่งนิ่ง ขนบนหัวยุ่งเหยิงไปหมดและไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร

ซู่เป่าลูบที่หัวมันแล้วจัดขนให้เรียบร้อย จากนั้นก็พูดว่า “เจียงจวินช่วยตามหาคนให้ฉันหน่อยได้ไหม! ถ้าหาเจอแล้วเดี๋ยวฉันจะเพิ่มน่องไก่ให้”

มันเป็นสุนัขเพียงตัวเดียวที่ไม่ค่อยสนใจหรือเห็นแก่กินมากนัก…เจียงจวินมองไปที่ซู่เป่าแล้วแลบลิ้นหายใจ

ซู่เป่าแววตาเปลี่ยน “ถ้าหาเจอแล้วจะไม่ให้แกกินยาจีนอีกแล้ว”

วูลฟ์ด๊อกรีบวิ่งออกไปทันทีแล้วมุดเข้าไปในชุมชนโดยผ่านกำแพงที่เต็มไปด้วยดอกเฟื่องฟ้า แล้ววิ่งอย่างบ้าคลั่งหายไปอย่างรวดเร็ว

เด็กสามคนรีบตามไปและยังคงมุดช่องสุนัขเหมือนเดิม แต่คราวนี้โส่วว่างเป็นคนมุดนำออกไปก่อน

ซูเหอเหวินเป็นคนที่สอง

อย่างไรเสียก็ยังไม่คุ้นเคยกับช่องสุนัขข้างนอก ซูเหอเหวินรู้สึกว่ามีโส่วว่างนำอยู่ข้างหน้าก็คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะถ้าเจองูหรือแมลงอะไรยังไงมันก็ต้องร้อง

ปรากฏหมาที่นำอยู่ข้างหน้าดันตด

เสียงดังปุ๊ด ในกลางดึกเสียงค่อนข้างดังทีเดียว

สีหน้าพี่ชายใหญ่ซูเหอเหวินที่แบกรับความรุนแรงนั้นหน้าดำคร่ำเครียดขึ้นมา

ซู่เป่าที่ตามอยู่ข้างหลังซูเหอเหวินก็ได้กลิ่นเหม็นเหมือนกัน ก็เลยรีบเอามืออุดจมูกแล้วเอ่ย “อ้า…โส่วว่างแกนี่ตดเหม็นจริงๆ!”

ซูเหอเวิ่นโวยวาย “เชี่ยจะรมฉันตายแล้วเนี่ย! ไม่เพียงแต่เหม็นแถมยังแสบตาจนน้ำตาแทบจะไหลออกมาเลยล่ะ!”

โส่วว่างแลบลิ้น ทำสายตากระอักกระอ่วนมองซ้ายมองขวา ท่าทางดูจะอายมาก

เด็กสามคนกลิ้งออกมาจากช่องสุนัขแล้วจับกำแพงไว้หายใจหอบๆ จากนั้นก็เอามือเล็กๆพัดให้ตัวเองอย่างแรง

“โอ้พระเจ้า…โส่วว่างนี่แกไปกินอะไรมาเนี่ย!” ซูเหอเวิ่นกรอกตาขาว

ซู่เป่าย่นจมูก “กลิ่นหัวไชเท้านี่ โส่วว่างแกกินหัวไชเท้าตุ๋น เนื้อตุ๋นหัวไชเท้ามาเหรอ!”

ซูเหอเหวิน “…”

มู่กุยฝานไม่รู้เข้ามาในชุมชนได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาพิงกำแพงแล้วอดไม่ได้ที่จะขำก่อนจะเอ่ยว่า “เหยาซือเยว่ไม่อยู่ ไม่รู้ว่าเธอไปไหน”

ก่อนมาเขาได้เช็คดูแล้วว่าเหยาซือเยว่อยู่ที่บ้าน แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ก็หายตัวไป เห็นได้ชัดว่าเธอคงมีความสามารถจริงๆ

เจียงจวินวิ่งกลับมาดึงที่ขากางเกงของซู่เป่าแล้วเดินไปข้างหน้า

ซู่เป่า “ไปกัน รีบไปกันเถอะ!”

เจียงจวินพาเด็กสามคนและมู่กุยฝานที่ปรากฏตัวขึ้นมาบ้างเป็นครั้งคราว รวมถึงว่านปาสือที่แอบมองซู่เป่าอยู่อย่างซื่อสัตย์ แล้วเดินนำหน้าออกไปข้างนอกตามผนังด้านนอกของชุมชน

เดินผ่านสองช่วงตึกแล้วก็เดินผ่านตรอกซอยเล็กๆไปก็เจอกับภูเขาร้างปรากฏอยู่ตรงหน้า…

ภาษาของไม่ค่อยดี ฟังรอบหนึ่งเหมือนจะจำได้แต่จริงๆ แล้วเมื่อท่องในใจกลับนึกคำไม่ออกเสียงั้น

ซูเหอเหวินยิ้มเยาะ เขาฟังรอบเดียวก็จำได้แล้ว ประเด็นก็คือเขาเคยอ่านเจอใน《เป้าผูจื่อ·ม้วนที่สิบเจ็ด·ขึ้นเขา》อธิษฐานด้วยความปราถนา ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ท่องเก้าอักขระนี้บ่อยๆ สามารถปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้

มนตร์เก้าอักขระสามารถใช้เพื่อป้องกันไว้กำจัดภยันตรายและอธิษฐานขอพรปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย

เมื่อก่อนซูเหอเหวินก็ไม่เชื่อ ในโลกนี้จะมีเทพเจ้าอะไรมากมายขนาดนั้น

แต่ตอนนี้ที่น้องสาวพูด…ก็โอเค ไม่เป็นไร

ซู่เป่าท่องอีกรอบ แต่รอบนี้ลมพัดแรงกว่าเดิมและพัดล้อมรอบตัวเธอ จนซูเหอเวิ่นถึงกับตะลึง

เชี่ย เก่งมากกก!

จะมีวันที่เขาสามารถเรียนรู้พลังเวทอันเก่งกาจแบบนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย?

ซูเหอเวิ่นรีบท่องตามทันที จากนั้นเสียงแมลงรอบๆก็ร้องจี๊ดๆ ไม่มีลมพัดมาเลยแม้แต่น้อย

“…”

ต้องเป็นเพราะตอนเขาท่องเว้นวรรคไม่ถูกแน่ๆเลย!

มนตร์เก้าอักขระนี้น่าจะมีกฎการจัดเรียงคำอยู่ ซึ่งก็คือแต่ละคำต้องมีการเว้นวรรคเท่านั้นเท่านี้อยู่แน่ๆ สมมติว่าถ้ามนตร์ได้ผลตามกฎนี้ งั้นเขาก็แค่ต้องคำนวณเวลาที่น้องสาวท่องแต่ละคำแล้วเว้นวรรคกี่วิเท่านั้นเอง และท่องตามโดยเว้นวรรคตามเวลาที่น้องสาวใช้จะต้องได้ผลแน่นอน

ซูเหอเวิ่นพลางคำนวณเวลาในใจและนึกถึงทุกการกระทำและสีหน้าที่น้องสาวแสดงตอนท่องมนตร์เก้าอักขระไปด้วย…

เขาโดนทิ้งไว้คนเดียวโดยไม่รู้ตัว

พอซูเหอเวิ่นเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าน้องสาวและพี่ชายเขาเดินไปไกลแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังเดินทางไปปีนเขาและเงาทั้งสองคนก็ค่อยๆ หายไปบนภูเขา!

“น้องสาว…” ซูเหอเวิ่นรีบตามไป

เวลานี้เองก็มีมือที่แห้งกร้านจนเหลือแต่กระดูกวางพาดอยู่บนไหล่เขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน