ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 499

ผีขี้แยนึกถึงเรื่องราวในอดีตอันแสนรันทด นั่นเป็นรักแรกของเธอเลยนะ...คิด ๆ แล้วน้ำตาก็หยดติ๋งๆ บ่นให้ฟังเหมือนกับตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ “ทุกครั้งที่ฉันนึกถึงว่าตัวเองมอบความจริงใจทั้งหมดกับเขา กลับได้จุดจบเป็นการเลิกราแล้ว...ฉันก็ปวดใจ”

“หรือว่าการรักใครสักคน ไม่ควรรักทุกอย่างของเธอเหรอ ฉันยอมรับว่าฉันขี้แย แต่ก็เป็นเขาที่ทำให้ฉันร้องไห้ก่อนนี่!”

“ทำไมเขาถึงเอาอกเอาใจอ่อนโยนกับฉันทุกด้านตลอดเวลาไม่ได้นะ ฉันก็ไม่อยากร้องไห้สักหน่อย แต่บางครั้งพอถึงฤดูใบไม้ร่วง มันเศร้า ๆ น้ำตาก็จะไหลลงมาเอง เขาน่าจะสงสารกอดฉันไว้สิ คนโง่...”

ซู่เป่า เอ๋อไปเลย

ซูเหอเวิ่น คนโง่เหรอ มันน่าจะ...ยัยโง่มากกว่ามั้ง

“ฉันระบายให้เพื่อนฟังบ่อย ๆ พอพูดถึงก็ร้องไห้ สุดท้ายพอร้องไห้กับเพื่อนในห้อง ในคณะจนครบ สี่ปีของมหาลัยก็ผ่านไป”

จี้ฉาง “...”

พอพ้นมหาวิทยาลัยก็เริ่มเข้าสู่สังคม มันก็ต้องมีเรื่องที่ปรับตัวไม่ได้อยู่แล้ว น้ำตาจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เป็นธรรมดา

แรกเริ่ม เพื่อนร่วมงานที่เพิ่งรู้จักกันยังจะปลอบเธอ ตอนหลังพอเห็นเธอก็พากันหลบลี้หนีหาย

ซู่เป่าอึ้ง “งั้นก็เหมือนกับคุณน้าคนเมื่อกี้เลยสิคะ”

ผีขี้แยเบะปาก พูดอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม “จะเหมือนกันได้ยังไง อย่างน้อยฉันก็ไม่ร้องไห้ขอให้ใครยกโทษให้นะ...”

ซูเหอเวิ่นแค่นเสียงเฮอะ “ก็คงพอ ๆ กันนั่นแหละ”

ผีขี้แยไม่แก้ต่าง เพียงแต่พูดว่า “ก็ร้องไห้แบบนี้สิบบริษัท...”

ซูเหอเวิ่นตาโต “ร้องไห้สิบบริษัทเลยเหรอ! น้าก็เก่งนะเนี่ย...”

ผีขี้แยผงกหัว “ก็มันอดไม่ได้นี่นา! พวกเขาชอบบอกว่าฉันหัวใจเปราะบาง แต่มันไม่ใช่สักหน่อย ตามการเรียกของบ้านเกิดฉัน นั่นเรียกว่าต่อมน้ำตาตื้น...”

ซู่เป่า ซูเหอเวิ่น จี้ฉางและเหยาหลิงเยว่มองเธอเงียบ ๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดีชั่วขณะ...

ผีขี้แยเล่าต่อ “หลังจากลาออกจากบริษัทที่สิบก็ไม่รู้ว่ายังไง ไม่มีบริษัทไหนรับฉันเลย”

ซูเหอเวิ่นถาม “องค์กรจะรับคนคงมีแบล็กลิสต์อยู่มั้ง น้าน่าจะโด่งดังในแวดวงฝ่ายบุคคลแล้ว”

ผีขี้แยผงกหัว “คงงั้นมั้ง...ฉันไม่มีทางเลือกก็เลยไปขอร้องหัวหน้าบริษัทเก่า ขอให้ฉันกลับไปทำงาน หัวหน้าไม่รับปากฉันก็ไปรออยู่หน้าบริษัททุกวัน...”

ซู่เป่าส่ายหน้า “เฮ้อ...น่ารำคาญจริง ๆ!”

พอผีขี้แยนึกถึงตัวเองแล้วก็ปวดใจ ปาดน้ำตาอีกที “อดีตหัวหน้ารำคาญฉันจัด ก็เลยพูดแบบหงุดหงิดว่า เธอขี้แยอย่างนี้ ก็ไปทำอาชีพร้องไห้หน้าโลงเลยสิ! ร้องให้พอเลย!

“พอฉันรู้ว่ามีอาชีพนี้ก็เลยกลับบ้านเกิด ทำอาชีพร้องไห้หน้าโลงศพ”

เธอร้องไห้ได้มืออาชีพมากที่สุดในละแวกนั้นเลย!

คนอื่นจะร้องไห้แค่สองสามนาทีแรก ตอนหลังจะมีแต่เสียง ไม่อย่างนั้นก็คือหยดน้ำตาเทียม

แต่เธอไม่ แค่เธอนั่งอยู่ตรงนั้น ได้ยินเสียงเศร้า ๆ ของสั่วน่า (เครื่องดนตรีชนิดหนึ่งของจีน มีลักษณะคล้ายแตร) กรอบตาก็จะแดงทันที

หยดน้ำตาร่วงลงมาเหมือนสายมุกที่ขาด เริ่มร้องไห้ตั้งแต่โลงศพยังไม่ได้ยกออกประตู กระทั่งฝังโลงศพเสร็จ ขากลับเธอยังเดินร้องไห้ตลอดทางด้วย

คนที่ไม่รู้ยังนึกว่าเธอเป็นลูกสาวของผู้ตายเสียอีก

เธอก็เลยขึ้นชื่อเพราะอย่างนี้นี่แหละ กลายเป็นดาวเด่นในหมู่คนร้องไห้ในงานศพ

ชื่อเสียงของเธอดังกระฉ่อนไปหลายสิบหมู่บ้าน กระทั่งอำเภอและเขตเมืองรอบข้างก็รู้ด้วย

พอพูดถึงเรื่องนี้ ผีขี้แยก็ตาแดงทันที!

เธอเล่า “ตอนหลังฉันแต่งงาน ทางบ้านแม่ผัวเห็นว่าฉันหาเงินได้ก็เลยสู่ขอฉัน แต่พอฉันแต่งไปแล้วก็หาว่าฉันร้องไห้ทุกวันจนซวยอีก”

“ผัวก็ไม่เข้าข้างฉัน ตอนที่ฉันคลอดลูกชายฉันคลอดยาก พอเด็กออกมาก็ตายเลย บ้านผัวหาว่าฉันทำกรรมไว้”

“ฉันจนปัญญาเลยบอกว่าจะหย่า แต่พวกเขาหาว่าฉันเอาความซวยเข้าบ้าน ต้องใช้เงินใช้กรรมกับพวกเขาตลอดชีวิต”

ซูเหอเวิ่นคิดไม่ถึงว่ายังมีคนประเภทนี้อยู่ รังเกียจว่าซวยแต่ก็ยังให้แต่งเข้าบ้าน แต่งมาแล้ว สะใภ้คลอดยาก เด็กตายยังโทษสะใภ้อีก

ซู่เป่ามองเธอด้วยความเห็นใจ “แล้วยังไงต่อคะ”

คิดไม่ถึงว่าผีขี้แยจะปล่อยโฮ “พวกเขาให้ฉันหย่ากับผัว แถมยังต้องให้เงินพวกเขาอีก ใช้เงินของฉันเป็นสินสอด สู่ขอเมียคนที่สองให้ผัวฉัน!”

“ตอนที่เมียคนที่สองคลอดลูกก็คลอดยากเหมือนกัน พอคลอดออกมาแล้วกลับตายตั้งแต่อยู่ในท้อง!”

“พวกเขามาหาฉัน ซ้อมฉันยกหนึ่งทันที”

หาว่าเธอเอาความซวยมาแปดเปื้อน ทำให้บ้านพวกเขาต้องเสียหลานชายสองคนไปแต่เล็ก

ซู่เป่าพูดด้วยความโมโห “คุณน้าก็ไม่ต้องให้เงินพวกเขาสิคะ! คุณน้าหย่าแล้ว คุณหน้าก็หนีสิคะ!”

ผีขี้แย “ตอนแรกก็อย่างนั้นแหละ...ฉันเห็นท่าทางไม่ดีก็เลยหนี เห็นมีคนเดินมาคนหนึ่ง หน้าตาคุ้น ๆ แต่ไม่รู้ว่าใครก็หนี...”

“แต่บ้านแม่ผัวเก่าฉันก็มีทางตามหาฉันจนเจอทุกที พวกเขากดตัวฉัน ให้ฉันโขกหัวกับหลานชายบ้านพวกเขาที่ตายไปแล้ว ให้ฉันโขกหัวให้เมียของผัวเก่าฉันแล้วยังถึงกับให้ฉันโขกหัวให้หมาในบ้านอีก...”

เป็นเพราะเธอร้องไห้ในงานศพแล้วซวยนั่นแหละ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน