เมื่อเห็นจี้ฉางไม่เชื่อ ซู่เป่าจึงเรียกเขาเข้ามาด้วยน้ำเสียงเบาๆ “ท่านอาจารย์ มานี่ ดูสิ”
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่แอบสอดแนมด้านในตำหนักพญายมราวกับขโมยขโจร
ผิงเติ่งหวังกำลังสบถด่าอยู่ด้านใน “เหยียนหลัวหวัง ออกมา ถ้าแน่จริงก็ออกมาสู้กับข้าอีกครั้ง”
“คนร้ายกาจและสับปลับ ไอ้ขยะ ขาก! ถุย!”
ซู่เป่าขมวดคิ้วและพูดอย่างไม่พอใจว่า “ถ่มน้ำลายปรับห้าสิบหยวน” พลางหยิบสมุดโน้ตออกมาจดไว้
ผิงเติ่งหวังกำลังสบถด่าอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงของซู่เป่าดังขึ้นว่าถ่มน้ำลายปรับห้าสิบหยวน
ทันใดนั้นผิงเติ่งหวังก็กลิ้งตัวเหมือนเสื้อผ้าในเครื่องซักผ้าและใบหน้าของเขาก็ถูพื้นจนสะอาดพร้อมพูดว่า “ข้าจะฆ่าเจ้า”
ซู่เป่ากระดิกนิ้วก้อยแล้วประตูบานใหญ่ของตำหนักพญายมเล็กๆ ก็ปิดเสียงดังปัง
“จับไม่ได้ จับไม่ได้ โมโหตายไปเลย” ซู่เป่าทำหน้าแลบลิ้นปลิ้นตา “แบร่ๆๆๆ”
จี้ฉาง “...”
ในหัวของเขามีเสียงดังวิงๆ
ผิงเติ่งหวังที่กำลังโกรธแค้นในตำหนักพญายมและลูกศิษย์ตัวน้อยผู้น่ารักที่อยู่ตรงหน้า
ช่างแตกต่างกันมากเหลือเกิน... ผิงเติ่งหวังถูกเธอจับได้จริงๆ และขังเขาไว้ในตำหนักพญายม
ถ้าเช่นนั้นการที่เขาไปโลกใต้พิภพครั้งนี้... จะไม่เป็นการไปขอร้องอย่างเปล่าประโยชน์เหรอ
จี้ฉางอยากจะเงยหน้ามองฟ้าและร้องไห้ และมีความรู้สึกอยากจะร้องไห้อย่างอธิบายไม่ถูก
ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก เขายังจะต้องไปขอร้องอะไร
-----------
ที่บ้านตระกูลเฉิง
พ่อแม่ของเขอเข่อกำลังยุ่งอยู่ในครัว ส่วนเขอเข่อกำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่บนพรมในห้องรับแขก
มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณสิบสามปีนั่งอยู่บนโซฟาและวางเท้าบนโต๊ะชา และกำลังเล่นเกมอย่างเมามัน
“เตียวฉาน(ชื่อตัวละครในเกม) แกมาที่นี่เพื่อทำตัวแอ๊บแบ๊วเหรอ แม่ง ไปสิๆ ฉันโยนข้าวไก่ลงบนโทรศัพท์ การยืนเลนของไก่ยังดีกว่าแกอีก”
เขาใส่หูฟังและจมอยู่ในโลกของตัวเอง ตอนที่เขาตื่นเต้นก็จะเตะเท้าโดยไม่รู้ตัว
ในขณะที่เขอเข่อกำลังจับโต๊ะชาและยืนขึ้น พี่ชายของเธอที่กำลังสบถด่าอย่างเมามันก็เตะแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะลอยขึ้น
จากนั้นแก้วก็ลอยมาโดนศีรษะของเขอเข่อ เธอเจ็บจนร้องไห้ว้ากออกมา
เมื่อแม่เขอเข่อได้ยินเสียงจึงออกมาและพูดอย่างโมโหว่า “เฉิงโจว ทำอะไรน่ะ แม่บอกให้ดูน้องไม่ใช่เหรอ แล้วนี่กำลังทำอะไรอยู่”
เธอแย่งโทรศัพท์จากมือของเฉิงโจวด้วยความโมโหและดึงหูฟังของเขาออกแล้วฟาดมันลงบนโซฟาอย่างแรง
“ถ้าฉันเห็นแกเล่นเกมอีก ฉันจะทุบโทรศัพท์ทิ้ง”
เฉิงโจวกำลังหมกหมุ่นอยู่กับเกม ทันใดนั้นแม่ก็แย่งโทรศัพท์ไป เมื่อเห็นสีหน้าอันดุร้ายของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าและสายตาที่มองเขาราวกับเขาเป็นศัตรู
เขาก็ลุกพรวดขึ้น “ทุบสิ โทรศัพท์ก็อยู่นี่แล้ว ทุบ อ่ะ ทุบเลย”
เฉิงโจวโยนโทรศัพท์ลงบนพื้นแล้วชี้โทรศัพท์ “บอกจะทุบโทรศัพท์ผมทุกวี่ทุกวัน ถ้าแน่จริงก็ทำอย่างที่พูดสิ ทุบเลย”
เขอเข่อตกใจจนร้องไห้ดังลั่น เธอมองพี่ชายด้วยความตกใจแล้วมองแม่
“แม่... อุ้มๆ...” เขอเข่อสีหน้าฉงน
เฉิงโจวจ้องเธออย่างดุดันและพูดว่า “ร้องๆๆ วันวันเอาแต่ร้องไห้ น่ารำคาญ”
เห็นชัดๆ ว่าเธอดึงแก้วแล้วล้มลงไปเอง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขา
เฉิงโจวเตะของเล่นของเขอเข่อจนกระจาย จากนั้นเดินกลับห้องและปิดประตูห้องอย่างแรง
แม่ของเขอเข่อรีบอุ้มเขอเข่อขึ้นมาทันทีและพบว่าเธอหัวโนและมีแก้วตกอยู่บนพรม แต่เธอก็ไม่เป็นอะไรเลย
พ่อของเขอเข่อออกมาจากห้องครัว เมื่อเห็นเขอเข่อหัวโนสีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมทันที
จากนั้นเขาก็ไปเปิดประตูห้องของเฉิงโจวเสียงดังปัง
“เฉิงโจว ออกมาขอโทษน้อง” เขาพูดอย่างดุดัน
เฉิงโจวกำลังนั่งอยู่ข้างโต๊ะ เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็ทุบกล่องปากกาลงบนโต๊ะ “ทำไมผมต้องขอโทษเธอ เธอเล่นของเธอเองแล้วก็ร้องไห้ มันไม่เกี่ยวกับผมเลยสักนิด”
แม่ของเขอเข่อพูดอย่างโมโหว่า “ไม่เกี่ยวกับแกเหรอ งั้นแกบอกหน่อยสิว่าตุ่มนูนบนหัวน้องมันมาได้ยังไง”
เฉิงโจวไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเตะแก้วไปโดนน้อง เพราะเมื่อสักครู่เขาใส่หูฟังและหมกหมุ่นอยู่กับเกมจึงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อโลกภายนอก
เมื่อซู่เป่าเข้าไป พอเงยหน้าขึ้นเธอก็เห็นไอสีดำลอยวนเวียนอยู่บนฝาเพดาน
การอาศัยอยู่ในครอบครัวเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของสมาชิกในครอบครัวได้ง่าย
“คุณป้าคะ พี่ชายของเขอเข่อล่ะคะ” ซู่เป่าถามด้วยความแปลกใจ
เธอมองไปยังที่ที่ไอหยินแข็งแกร่งที่สุดแล้วสายตาของเธอก็หยุดมองที่ประตูห้องห้องหนึ่ง
แม่ของเขอเข่อพูดว่า “พี่ชายของเขอเข่ออยู่ในห้องจ้ะ...”
พวกเขาไม่อยากให้คนนอกมองพวกเขาเป็นเรื่องตลกจึงทำตัวเหมือนทุกอย่างปกติดี
พ่อของเขอเข่อไปเคาะประตู “เฉิงโจว แขกมาแล้ว ออกมาต้อนรับแขก”
เฉิงโจวกำลังเปิดอ่านหนังสืออยู่ในห้อง ถ้ามองอย่างละเอียดจะพบว่าเขากำลังอ่านหนังสือแบบเรียนและหนังสือวิชาคณิตศาสตร์
เขาตะคอกอย่างไม่พอใจว่า “มาก็มาสิ ไม่ใช่แขกของผมสักหน่อย อย่ามายุ่งกับผม”
เขาล็อคประตูห้องจากด้านใน ด้านนอกจะเป็นยังไงก็ช่าง ไม่เกี่ยวกับเขา
เสียงหมุนลูกบิดประตูดังแกร่กๆ พ่อของเขอเข่อพูดด้วยน้ำเสียงข่มความโมโหอยู่ข้างประตูว่า “เฉิงโจว พ่อให้เวลาแกครึ่งนาที อย่าท้าทายขีดจำกัดของฉัน”
เฉิงโจวโยนหนังสือลงบนโต๊ะด้วยความโกรธ จากนั้นเปิดประตูอย่างแรง
“ทำไมเหรอ คุณตาของผมมาหรือว่าคุณเทียดมา ต้องให้ข้าน้อยโขกหัวคำนับไหม”
เขาเพิ่งพูดจบก็เห็นผู้ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งยืนอยู่ในห้องรับแขก สายตาของชายผู้นั้นเฉียบคมและเพียงแค่เขามองมาเล็กน้อย เฉิงโจวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คำพูดที่ปากกลับติดอยู่ในลำคอ
มู่กุยฝานยิ้มเฝื่อน “นี่คงเป็นพี่ชายของเขอเข่อสินะ”
ถึงแม้จะมองไม่เห็นผี แต่ก็รู้สึกได้
ซูอวิ๋นเจากำลังจะวางผลไม้ลงบนโต๊ะชา พอเขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นเด็กชายอายุประมาณสิบสามปียืนอยู่ข้างหน้า เด็กชายหลังค่อมเล็กน้อยและมีผีน่าสะพรึงกลัวตัวหนึ่งเกาะที่หลังของเขา
ผีตัวนั้นก็เป็นเด็กผู้ชาย ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดและลูกตาสองข้างห้อยบนหน้าจนแยกปากกับจมูกไม่ออกและกำลังจ้องมองเขา
ซูอวิ๋นเจา “!!!”
เอาอีกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...