ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 626

เมื่อเห็นว่าซือเย่จะถูกผีหนังมนุษย์กัดหน้า ซู่เป่าที่กําลังกินอยู่ก็คาบห่อขนมไว้ในปาก ยกมือขึ้นควงค้อนทองคำม่วง

"อ้า อู้!" เสียงที่อ่อนโยนและอู้อี้ฟังไม่ชัดดังขึ้น คนที่คุ้นเคยกับเธอจะรู้ว่าเธอตะโกนว่าแปดสิบ

ปอยผมที่นุ่มนวลของเธอปลิวไสวตามลม แม้ว่าในปากจะคาบถุงขนมไว้ แต่ก็ทำให้สายตาที่เฉียบแหลม บีบคั้นหัวใจคนของเธอเปลี่ยนไป

ค้อนทองคำม่วงลอยแหวกความว่างเปล่ากระแทกเข้ากับผีหนังมนุษย์อย่างจัง!

ตูม ค้อนนี้ที่โยนออกไปราวกับทำพื้นพิภพสั่นไหว ลมพัดผ่านป่าบนภูเขาโดยรอบอย่างแรง ใบไม้สั่นไหวระนาว

ผีหนังมนุษย์กรีดร้อง มันถูกค้อนทองคำม่วงทุบแบนเป็นโรตี

ซู่เป่าคาบถุงขนมมายืนอยู่ตรงหน้ามัน แล้วมองมันอย่างเหนือกว่า

เธอหยิบเอาถุงขนมออกจากปากแล้วถอนหายใจเบา ๆ “บังอาจนัก แกกล้าทําร้ายลุงซือต่อหน้าฉันเหรอ ใจกล้าไม่เบานะ?"

ผีหนังมนุษย์ตัวสั่นเทิ้ม

ตอนที่ซู่เป่ายังไม่ได้ลงมือ มันคิดว่าเธอก็คงจะแค่นั้นเอง อย่างมากก็เป็นนักพรตที่เก่งกาจสักหน่อย

แต่หลังจากที่เธอลงมือ ความกดดันที่แฝงอยู่ในค้อนทองคำม่วง มันรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า… นี่คือพญายม!

มันหลอนไปเองหรือเปล่า ทำไมมันถึงรู้สึกถึงอำนาจกดดันของพญายม หรือคนที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นพญายมจริงๆ พญายมอายุเท่าไหร่กัน??

ผีหนังมนุษย์กลัวขึ้นมา มันอยากจะหนีไปอีก

และมันก็หนีออกไปจริง ๆ เกือบจะพ้นแปลงผักแล้ว มันดีใจมาก…

ฮ่า ๆ ดูเหมือนว่ามันจะรู้สึกผิดไป ไม่ใช่พญายมหรอก ก็แค่คนที่เก่งมาก…

ผลปรากฏว่ามีเสียงดังหวือ อะไรบางอย่างที่หน้าตาเหมือนหมั่นโถวส่องแสงสีทองอร่ามพุ่งมาทุบหัวมันจนหัวที่ไม่มีอะไรข้างในยุบเป็นหลุม

ผีหนังมนุษย์ :%...

ซู่เป่าพูดว่า "จะกลับมาเองดี ๆ หรือให้ฉันเชิญแกกลับมา?"

น้ำเสียงนี้เหมือนกับมู่กุยฝานไม่มีผิด…

จี้ฉางไม่รู้จะว่าไงดี เขารู้สึกว่าลูกศิษย์ที่อ่อนโยนและไร้เดียงสาน่ารักของเขาหายไปแล้วและกําลังค่อย ๆ กลายเป็นแบบมู่กุยฝาน

ผีหนังมนุษย์คับข้องใจ มันยอมกลับมาอย่างไม่เต็มใจ

อีกด้านหนึ่ง มู่กุยฝานยังคงกัดฟันต่อสู้อยู่

ผีแขนกระดูกไม่ได้รับรู้ถึงแรงกดดันของค้อนทองคำม่วง มันไม่เข้าใจว่าผีหนังมนุษย์ที่ต่อสู้กับตัวเองอย่างไม่ยอมลดละ ทําไมถึงได้ยอมง่าย ๆ แบบนี้ได้

อีกฝ่ายเป็นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ เท่านั้นเองนะ!

เขาบอกว่าอย่าหนีก็ไม่หนีจริง ๆ เหรอ?

แต่เด็กคนนี้เก่งจริง ๆ มันที่อยู่ข้าง ๆ ยังตกใจเลย… ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งต้องหนี!

ผีแขนกระดูกรู้สึกได้ว่าลางไม่ดี แต่ยังไม่ได้ตระหนักรู้ว่าซู่เป่าเป็นใคร… ดังนั้นมันสบโอกาศก็หนีทันที

มู่กุยฝานมีโอกาสได้พักหายใจเล็กน้อย ยังไม่ทันทันได้ตามไปก็ได้ยินเสียงซู่เป่าดังขึ้นอีกครั้งว่า "จะหนีไปไหนห๊ะ!"

เคร้ง

คราวนี้ไม่รู้ขว้างอะไรมาสีดำปิ๊ดปี๋

สิ่งนั้นขว้างโดนผีแขนกระดูกจนแขนหัก

ทุกคนจับตามองจึงเห็นว่ามันเป็นลูกตุ้มตาชั่ง

จี้ฉาง : เอ๊ะ นางไปได้อาวุธแปลก ๆ นี้มาเพิ่มตอนไหนอีก??

ซูจื่อซีรีบจดลงในสมุดทันที: อาวุธ: ลูกตุ้มตาชั่ง พลัง: หกดาว (รอการยืนยัน) ...

มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น ในที่สุดผีแขนกระดูกก็เข้าใจแล้วว่าทําไมผีหนังมนุษย์ถึงไม่กล้าต่อต้านอีกต่อไป

พญายม...? มันรู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากพญายม!

ซู่เป่า: "ยังจะหนีอยู่อีกไหม?"

กระดูกแขนเดินตัวสั่นเข้ามา

ทุกคน: แม่เจ้า ทําไมรู้สึกเหมือนคุณครูกำลังดุเด็ก ๆ อยู่เลยนะ

ครูซู่เป่าซึ่งกำลังนั่งอยู่บนปากโอ่งเคี้ยวขนมอยู่ในปาก กำลังดุด้วยสีหน้าจริงจัง “สู้กันทำไม? ตายยังไง? ใครเริ่มก่อน?

สมาชิกในทีม: ดีกรีความงงงวยเพิ่มอีกแสนดีกรี

พ่อมู่: สมกับเป็นลูกสาวฉันจริง ๆ วางมาดเจ้าคนนายคนตั้งแต่เด็ก

ซืออี้หรัน "..."

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้เกินขอบเขตการรับรู้ของเขาไปมาก

ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าวัตถุวิญญาณสองตัวนี้พูดไม่ได้ พวกมันก็เปิดปากพูดขึ้นมา

"เขาตีฉันก่อน!" ผีหนังมนุษย์และผีแขนกระดูกพูดขึ้นมาพร้อมกัน

ทุกคนงงงวย

พูดได้นี่... ก็ในเมื่อเมื่อกี้พวกมันไม่ได้คุยกันเลยนี่นา… อ๋อ…ไม่สิ เมื่อกี้หญิงชราได้พูด… ก็นึกว่าพวกมันพูดไม่ได้เสียอีก

ไม่ใช่สิ นั่นไม่ใช่ประเด็น สิ่งที่น่าหนักใจคือเจ้าวัตถุวิญญาณสองตัวนี้ฟ้องกันไปกันมาเหมือนเด็กประถมเลย

ไม่ใช่ ก็เหมือนจะยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญอยู่ดี... น่าเป็นเป็นเรื่องที่ผีดุร้ายสองตัวนี้กลัวซู่เป่าไม่ใช่เหรอ…

ซู่เป่าถามอีกว่า "ตอบมาซะดี ๆ ใครเป็นคนลงมือก่อน?"

ผีหนังมนุษย์ "หญิงชรานี่เริ่มก่อน!"

ผีแขนกระดูก "นังบ้านี่เริ่มก่อน!"

ซู่เป่า "..."

ไม่ยอมพูดดี ๆ ใช่ไหมห๊ะ?

พญายมไม่แสดงอำนาจก็คิดว่าเธอเป็นแมวเชื่อง ๆ สินะ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน