เมื่อได้ยินซู่เป่าถามถึงเบาะเเสของอีกสามคน
ผีแขนกระดูก (คุณยาย) รีบเอ่ยออกมาทันที “ฉันบอกพวกเธอได้ เเต่พวกเธอต้องรับปากก่อนว่าจะปล่อยฉันไป! ไม่อย่างนั้นก็ให้พวกนั้นรอความตายได้เลย!”
ซู่เป่า “หืม?”
มีผีที่กล้ามาต่อรองกับเธอด้วยเหรอ
ผีหลายใจ “ว้าว คุณยายฉันล่ะยกย่องความกล้าของยายจริงๆ ยายเป็นคนเเรกนะที่กล้าข่มขู่คนของยมบาล!”
ผีหนังมนุษย์เมื่อได้ยินนั้นก็สะดุ้ง เป็นยมบาลจริงๆ ด้วย!
เธอเองก็สัมผัสได้ถึงพลังของยทบาล เเต่ก็ไม่แน่ใจ เพราะว่าไม่มียทบาลคนไหนเขาอายุสี่ห้าขวบนี่
แต่ตอนนี้ผีที่อยู่ข้างๆ เธอกลับบอกมาเองเลย
ผีหนังมนุษย์รีบเอ่ยออกมาทันที “ฉันรู้! พวกเขาตกใจกลัวคุณยายนี่จนวิ่งหนีไปเลย วิ่งหนีไปทางด้านล่างของหมู่บ้าน แล้วถูกคุณยายคนนี้มัดไว้ในบ่อน้ำ”
คุณยาย “……..”
ซู่เป่าเอ่ยออกมา “จะว่าไปเเล้ว พี่ใหญ่กับลุงซือที่ถูกเเขวนไว้ เป็นฝีมือของพวกเธอใช่ไหม?”
ล้มคนมากมายลงได้ในเวลาเดียวกัน มีเพียงผีที่มีพลังเทียบเท่าผีร้ายเท่านั้นแหละที่ทำได้! หรือไม่ก็ผีที่อายุกว่าร้อยปี อีกอย่างต้องทำพร้อมกันทั้งสองตัวด้วย ถึงจะเป็นไปได้
ใครจะคิด ว่าผีหนังมนุษย์กลับปฏิเสธ “ไม่ใช่ ฉันไม่ได้ทำ คุณยายคนนี้เป็นคนทำ !”
คุณยายด่าออกมาทันที “โกหก!ทั้งๆ ที่เธอก็ตกลงร่วมมือด้วยเเท้ๆ !”
ผีหนังมนุษย์เเละผีแขนกระดูกตีกันอีกครั้ง
เป้ง— —เป้ง!
หยุดทะเลาะกันสักที
ซู่เป่าเก็บกระทะก้นเเบนลง ในที่สุดก็เข้าใจเเล้วว่าทำไมคุณยายชอบใช้กระทะก้นเเบนตีหัวคน
ที่เเท้มันเหมาะมือแบบนี้นี่เอง!
เธอเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม “ยังจะทะเลาะกันอีกไหม?”
ผีหนังมนุษย์ส่ายหน้าไปมา
ซู่เป่าเอ่ยถามอีกครั้ง “พวกเธอจะสารภาพมาเอง หรือว่าต้องให้ฉันช่วย?”
คุณยายรีบเอ่ยออกมาทันที “พวกเราพูดเอง พูดเอง……”
ที่เเท้คุณยายเเละผีหนังมนุษย์นั้นก็ทะเลาะกันมากว่าร้อยปีเเล้ว คนนึงไอพิฆาตค่อยๆ สลายหายไป ส่วนอีกคนก็หิวจนไส้เเทบขาด
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน อยู่ๆ ในหมู่บ้านก็มีชายฉกรรจ์เจ็ดเเปดคนมา ดวงตาของผีหนังมนุษย์นั้นส่องประกายออกมาเป็นสีเขียวเลยทีเดียว
เธออยากกินเนื้อ ส่วนคุณยายน้ันอยากจะกลืนกินวิญญาณคนตาย
คนที่ทะเลาะกันมาตลอดร้อยปีนั้น จับมือเป็นพันธมิตรกันทันที อย่าคิดจะมีใครหนีไปได้ ถ้าทั้งสองคนไม่อยากอดตาย ก็ต้องร่วมมือกัน
เพื่อป้องกันตัวจากอีกฝ่าย ผีหนังมนุษย์กับคุณยายนั้นผูกตัวติดเข้าด้วยกัน จะลงมือก็ต้องลงมือด้วยกันแบบนั้นเลย
ทั้งสองคนจงใจรอเป็นเวลาสามวัน จนคนกลุ่มนั้นอยู่ในหมู่บ้านนานพอ จนไอหยินปกคลุมทั่วร่าง เเละก็สืบจนได้รู้มาว่าพวกเขามาผจญภัยหาผีด้วย……
ดังนั้นพวกเธอเลยจงใจส่งเสียงประหลาด ล่อให้คนพวกนั้นออกมา ในตอนที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนจิตอ่อนเเล้วนั้น ก็ฉวยโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ทันระวังตัว เเขวนตัวพวกเขาขึ้นทันที…….
ดังนั้นพวกซือเย่ถึงได้โดนจับใส่ถังผักดองเอาไว้
ส่วนสามคนที่หนีไป คุณยายเเละผีหนังมนุษย์นั้นก็ซ่อนตัวอยู่ในป่าเพื่อรอโจมตี จากนั้นก็ทำให้พวกเขาหมดสติ เเล้วโยนลงไปในบ่อน้ำ
“จากนั้นตอนที่พวกเรากลับมา ฉันก็อยากจะกินเนื้อเสียหน่อย…. ใครจะรู้ว่าคุณยายคนนี้มันจะปลิ้นปล้อน ฉวยโอกาสตอนฉันไม่ระวังตัว เอาฉันยัดเข้าไปในถัง!”
คุณยายเเค่นหัวเราะ “ยัยเเพศยาผีหนังมนุษย์นี่ พอเห็นผู้ชายบึกบึนหน่อยก็ทำตัวน่าไม่อาย พยายามจะเสนอหน้า ฉันเลยทำได้เเค่ขังเธอไว้ในถังน่ะสิ !”
พูดถึงเเค่ตรงนี้ ใครๆ ก็พอมองออกแล้วว่า ทั้งสองคนนั้นไม่มีใครเป็นคนคิดดีเลย ไม่ใช่คนดีทั้งสองคน
ซู่เป่าหยิบกระทะก้นเเบนออกมา
ผีหนังมนุษย์กับคุณยายตกใจเป็นอย่างมาก “ธะ….เธอคิดจะทำอะไร !”
“พวกเราบอกไปหมดเเล้ว ทำไมยังจะตีพวกเราอีก!”
ซู่เป่าเอ่ยออกมาเบาๆ ว่า “อ้อ ขอโทษที หยิบผิดน่ะ”
ผีหนังมนุษย์กับคุณยายถอนหายใจอย่างโล่งอก
จากนั้นวินาทีต่อมา กลับเห็นซู่เป่าหยิบค้อนใหญ่ทองคำม่วงออกมา
ซือเย่เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนที่จะพยักหน้ารับ “อืม”
เขายังคงมองไม่เห็นวิญญาณ ที่เมื่อกี้มองเห็นผีหนังมนุษย์กับผีแขนกระดูก เพราะว่าพวกเธอคือผีที่อยู่ในสิ่งของ เป็นหนังมนุษย์เเละกระดูกจริงๆ จึงมองเห็นได้ เเต่ว่าถ้าเป็นวิญญาณน่ะ เขามองไม่เห็นหรอก!
ซู่เป่าหันไปมองซือเย่ อย่างยกย่อง
ลุงซือเย่เก่งจัง ไม่กลัวเลย
“ทำไมพวกลุงต้องไปนั่ง บนเก้าอี้นั้นด้วย?” ซู่เป่าเอ่ยถามอย่างสงสัย
ใบหน้าของซือเย่นั้นเฉยชาเป็นปกติ ทว่าน้ำเสียงที่ปกติเย็นชานั้น ในตอนที่เอ่ยตอบซู่เป่ามันอ่อนโยนลงมาก
“เพื่อสัมผัสถึงวิญญาณหยินน่ะสิ”
มู่กุยฝานนั้นฝึกฝนมา บอกว่าต้องไปในที่ที่มีผี เเล้วตั้งสมาธิเพื่อสัมผัสอุณหภูมิในอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลง
ที่ที่มีผี อุณหภูมิจะไม่ปกติ มันจะเย็นยะเยือกแบบอธิบายไม่ได้ มันจะต้องมาสัมผัสด้วยตนเอง เเละต้องฝึกฝนไปเรื่อยๆ จนจิตสัมผัสมันสามารถสัมผัสได้ไวขึ้น……
ซือเย่เอ่ยออกมา “ตอนที่มาถึงหมู่บ้าน พอเข้ามาในหมู่บ้านก็รับรู้ได้เลยว่า ด้านในนั้นเย็นเยียบมากกว่าข้างนอก เเต่พอเดินไปมาจริงๆ แล้ว ก็รู้สึกไม่ได้เเตกต่างอะไรกับข้างนอก ที่ไหนก็เย็นแบบนี้หมด”
ไอ้ที่บอกว่าอุณภูมิมีการเปลี่ยนแปลงอย่างบอกไม่ถูก แบบที่มู่กุยฝานบอกอะไรนั่นน่ะ มันยากมากที่จะสัมผัสถึง
“พวกเราเดินไปมาในหมู่บ้านอยู่สามวัน พบว่ามีเพียงตอนที่นั่งบนเก้าอี้ตัวนี้ ถึงจะสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป”
พอนั่งลงไป รู้สึกเย็นไปทั้งหัว เสียวสันหลังวาบ
เเต่หลังจากที่นั่งลงไปไม่กี่วินาที ความรู้สึกนั้นก็หายไป
ต้องออกไปตากเเดด เเล้วกลับเข้ามานั่งใหม่ ในจังหวะที่พึ่งนั่งลงนั้น จะรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่เเตกต่าง เเต่ไม่นานความรู้สึกนั้นก็หายไป เลยต้องทำแบบนั้นซ้ำๆ……
เมื่อได้ยินสิ่งที่ซือเย่พูด ทุกคนก็นิ่งเงียบไป
ซู่เป่า╭(⊙o⊙)╮
เหยาหลิงอย่า╭(⊙o⊙)╮
มู่กุยฝานเหลือบมองผีหญิงที่โดนเเขวนคอเอาไว้กลางห้อง ก่อนที่จะเเอบยกนิ้วโป้งขึ้นมา
กล้ามาก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...