สมาชิกในหน่วยนั้นหยิบกล้องไป เขานั่งลงบนเก้าอี้ ในใจก็คิด
เมื่อกี้ผู้กำกับถือกล้องเเล้วถ่ายไปข้างหน้า สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
จากนั้นพอถ่ายขึ้นไปข้างบน สีหน้าก็เปลี่ยนไปเลย
เเล้วถ้าเอาการเเสดงสีหน้าของทุกคนมาลองวิเคราะห์ดู ด้านหน้ามีผี บนเพดานก็มีผี เมื่อเตรียมใจไว้เเล้ว เขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ
สุดท้ายพบว่ากล้องมันปิดไปเเล้ว
“ไม่ได้ใช้แปปเดียวกล้องปิดซะเเล้ว……เป็นระบบประหยัดเเบตเหรอ…….”
ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอย่างน่าตกใจ
สมาชิกในหน่วยหยิบกล้องขึ้นมา เขาเห็นว่าข้างนอกตรงบันไดหินมีหญฺงชราคนนึงนั่งอยู่ ใจสั่นไหวเล็กน้อย แต่ยังดี ไม่ได้ตกใจเท่าไหร่
ต่อมาก็คือบนเพดาน มันจะน่ากลัวสักแค่ไหนเชียว ขอแค่เตรียมใจมาก่อน…..
สุดท้ายเมื่อเขายกกล้องขึ้น ก็เห็นผู้หญิงเเขวนคออยู่บนเพดาน เธอก้มหน้าถลึงตาจ้องมองลงมา
ขาทั้งสองข้างโดนลมพัดไปมา บางครั้งก็เตะมาโดนที่หน้าของเขา…..
“อ้าก— —อ้ากๆๆ— —”
สมาชิกในหน่วยตกใจจนกระโดดโหยงขึ้นมา เขาเยี่ยวเล็ดวิ่งหนีออกมาทันที
เมื่อกี้ตอนที่เขาเดินเข้าไป ยังบอกอยู่เลยว่าตัวเองไม่มีทางตกใจอย่างแน่นอน สุดท้ายวินาทีต่อมาก็ตกใจกลัววิ่งหางจุกตูดออกมาแล้ว
มู่กุยฝานสีหน้าเย็นชา เขาเอ่ยออกมาเสียงเย็น “อายไหม?”
สมาชิกในหน่วย “……” ร่างสั่นเทาไปหมด
มู่กุยฝานเอ่ยออกมาอีกครั้ง “แค่นี้ก็ตกใจจนเป็นหมา ต่อไปจะไปทำงานใหญ่อะไรได้อีก รีบไสหัวไปไป๊”
เขาพูดทิ้งไว้แค่นั้น เเล้วก็อุ้มซู่เป่าเดินออกไป
ซู่เป่ายกมือโบกไปมา บอกลาหญงชราเเละหญิงสาวที่เเขวนคออยู่บนคานบ้าน
“ลาก่อนนะคะ!” เธอเอ่ย “ละทิ้งความเเค้น เเล้วไปดีเถอะ!”
เด็กน้อยโบกมือไปมา เงาที่มองไม่เห็นลอยผ่านลานกลางบ้านเเละหายไป
สองคนนี้เป็นเพียงผีอาฆาต เมื่อความเเค้นยังคงอยู่ จึงไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้ เเล้วเเต่เวรเเต่กรรมของพวกเธอเเล้ว
หญิงที่ถูกเเขวนคออยู่กลางห้องนั้นหล่นลงพื้นดังตุบ หญฺงชราที่อยู่ด้านหน้านั้นใบหน้าก็เต็มไปด้วยน้ำตา
แม่ผัวลูกสะใภ้ทั้งสองคน สมัยยังมีชีวิตนั้นไม่ถูกกัน ผ่านมาหลายปีหลังจากตายไปเเล้ว ถึงได้ช่วยเหลือกันเเละหายไปพร้อมกัน
ซู่เป่าเดินตามพ่อไปยังด้านล่างของหมู่บ้านที่มีบ่อน้ำตั้งอยู่ จากนั้นจึงช่วยสมาชิกในหน่วยทั้งสามคนขึ้นมา ตอนนี้ในหมู่บ้านนี้ไม่มีอะไรให้ฝึกฝนเเล้ว
ผีที่เหลือก็มีเเต่วิญญาณเร่ร่อน ไม่ได้รุนแรงเหมือนผีแขนกระดูก ดังนั้นสำหรับพวกซือเย่เเล้ว อยู่ต่อไปก็สัมผัสอะไรไม่ได้แน่นอน
มู่กุยฝานเอ่ย “ถ้าอยากจะพัฒนา ก็หาที่ที่มีผีร้าย”
“ผีที่หมู่บ้านนี้อ่อนเเอเกินไป ฉันจัดการทีเดียวก็ราบคาบเเล้ว……”
ซือเย่ “……” เขาคิดว่าอีกฝ่ายกำลังโม้ เเต่ก็ไม่มีหลักฐาน
บรรดาสมาชิกหน่วย “…….” หมู่บ้านนี้ก็น่ากลัวมาเเล้ว ยังต้องหาที่ที่มีผีร้ายอีกเหรอ
เมื่อลงจากภูเขา พวกคุณนายซูนั้นรออยู่นานเเล้ว
เสี่ยวอู่ที่อยู่ในกรงนั้นกระโดดไปมา เเล้วร้องไม่หยุด “ปล่อยฉันออกไป! ฉันน่าเกรงขาม ฉันจะเขมือบพวกผี! ฉันเขมือบผีทีเดียวได้เป็นสิบ!”
ทุกคน “…….”
คุณนายซูสำรวจร่างกายซู่เป่าตั้งเเต่หัวจรดเท้า เมื่อเห็นเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ ก็วางใจ
แต่ว่ามู่กุยฝาน…..ช่างเถอะ มู่กุยฝานหนังหนาจะตาย บาดเจ็บก็ช่างเถอะ
“ไม่เป็นไรใช่ไหม? หิวหรือเปล่า?” นี่เป็นประโยคเเรกที่คุณยายเอ่ยถาม
ซู่เป่ายิ้มออกมา ก่อนที่จะลูบท้อง “หิวนิดหน่อยค่ะ”
คุณยายบ่นไม่หยุด ก่อนที่เธอจะพาซู่เป่าขึ้นรถ จากนั้นก็วางแผนว่าต้องจอดรถพัก กินข้าวตอนไหน
เวินหรูอวิ๋นเมื่อเห็นซือเย่ เธอชะงักงันเเล้วเอ่ยถามออกมา “ทำไมถึงบาดเจ็บล่ะ?”
ซือเย่เอ่ยออกมาเสียงเรียบ “ไม่เป็นไร”
เวินหรูอวิ๋น “……”
เฮอะๆ พูดให้เยอะหน่อยจะตายหรือยังไง?
อั่งเปาตอนปีใหม่ ก็พูดแบบนี้
ใครบอกว่าเขาไม่ชอบใส่? สร้อยข้อมือนี้ดีออก เขาจะฝืนใส่ไปเเล้วกัน!
เวินหรูอวิ๋นหมดคำจะพูด แต่ว่าเธอเองก็ดีใจที่ลูกของตัวเองได้มีเพื่อน
เมื่อก่อนซืออี้หรันชอบไปไหนทำอะไรคนเดียว เด็กอายุเเค่นี้ เเต่กลับไม่มีเพื่อนเล่น ทำให้เธอเองเริ่มสงสัยว่าลูกเป็นคนโลกส่วนตัวสูงหรือเปล่า
ยังดีที่ตอนนี้เขาไม่ได้มีเเค่ซู่เป่าเป็นเพื่อน ยังมีซูเหอเหวินเเละซูเหอเวิ่นที่เล่นด้วยกันได้ เธอวางใจเเล้ว
คุณนายซูพาเด็กๆ กลับบ้าน กู้เซิ่งเสวี่ยเองก็โดนซู่เป่าลากกลับบ้านมาด้วย
อีกด้านหนึ่ง สมาชิกในหน่วยนั้นยืนเรียงแถวกัน เเล้วทำความเคารพมู่กุยฝาน
มู่กุยฝานเเละซือเย่ยืนอยู่ด้านหน้าของพวกเขา มู่กุยฝานเอ่ยติเตียน
“ต้าหมิง กลับไปให้ฝึกฝนให้มาก ตอนที่ตกใจ นายร้องเสียงดังที่สุดเลย!”
ต้าหมิงนั้นรู้สึกน้อยใจ เเต่เขาก็ไม่พูด ใครให้เขาโดนหลอกเเรงที่สุดล่ะ! ถ้าเกิดว่าเขาเข้าไปคนสุดท้าย จะต้องไม่ร้องเสียงดังที่สุดอย่างแน่นอน
“ครับ!” ต้าหมิงตอบรับอย่างขันเเข็ง
คนอื่นๆ เองก็โดนดุเช่นกัน เอาเป็นว่าการ ‘สอบ’ ครั้งนี้ยังถือว่ายังไม่ผ่าน
ที่จอดรถชั่วคราวด้านนอกสนามบิน รถสีขาวธรรมดาจอดรออยู่ข้างทาง หลังจากที่ถูกคนโดนดุจนเสร็จแล้ว จะได้มีวันพักหนึ่งวัน ต่างคนต่างกลับบ้านของตนเอง แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่ที่หน่วย
ด้านบนรถสีขาวนั้น หญิงสาวที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย สายตาจับจ้องไปยังมู่กุยฝานเเละซือเย่ที่อยู่หน้าบรรดาสมาชิกในหน่วย
ไม่นานต้าหมิงก็มาขึ้นรถ หลังจากที่ขึ้นมาบนรถเขาก็ปล่อยตัวตามสบาย เเล้วเอ่ยออกมาอย่างมีความสุข “อวี่ฉิง ทำไมมาเร็วจังเลย บอกว่าให้มาตอนสี่โมงครึ่งไม่ใช่เหรอ?”
“ถึงเครื่องจะลงตั้งเเต่สี่โมงก็จริง แต่ว่าผู้กำกับกับผู้บังคับบัญชาก็ยังต้องดุพวกเราก่อน…..ถ้าคุณมาตอนสี่โมงครึ่ง ก็ไม่ต้องรอเลย ทำไมคุณมาถึงเร็วจังเลย”
ต้าหมิงเวลาอยู่ต่อหน้าแฟนนั้นจะขี้บ่นมาก เขารักแฟนตัวเองมาก อดไม่ได้ที่จะบีบเเก้มเเล้วหอมเสียหน่อย
อวี่ฉิงขับรถ ก่อนที่จะเอ่ยออกมา “อย่าบ่นสิ ก็ฉันคิดถึงคุณนี่ อยากจะเจอคุณเร็วๆ”
ต้าหมิงยิ้มออกมา
อวี่ฉิงแกล้งทำเป็นถามอย่าไม่ตั้งใจ “จริงสิ เมื่อกี้คนที่สั่งสอนพวกคุณ คือหัวหน้าของพวกคุณเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...