ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 693

หญิงชราตะลึงเพราะคำพูดของซู่เป่า เธอจ้องมองซู่เป่าเหม่อๆ

ผ่านไปนาน ในที่สุดเธอจึงมองไปทางศพของตน และราวกับเพิ่งรู้ตัวว่าตายไปแล้ว

ตายอยู่หน้าบ้านลูกชายคนโตของตน

ประโยคแรกของเธอไม่ใช่ประโยคกล่าวโทษ แต่กลับรู้สึกโล่งอก “ในที่สุดก็ตายสักที…เธอจะไม่สร้างปัญหาให้ลูกๆ อีกต่อไปแล้ว”

ในใจซู่เป่ารู้สึกเย็นเฉียบ โทสะนิรนามทำเธอรู้สึกหมดหนทางมากกว่าเดิม

เสียงของซูเหอเวิ่นแฝงไปด้วยความโกรธ “ไม่ใช่คนชัดๆ แม่ของตนเดินฝ่าพายุไปบ้านลูกๆ แต่กลับไม่มีใครเปิดประตูให้เธอสักคน”

ในหัวของซูจิ่นม่อสั่นวืดๆ ยังไม่ทันตอบโต้กับความจริงที่ตนเจอผีและความสุดยอดของกล้องซูเหอเวิ่น ก็เกรี้ยวกราดเพราะเรื่องราวการตายของหญิงชราที่เขาเห็นเสียก่อน

เขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง เพียงแค่มองไปทางตึกตรงหน้า และกัดฟันแน่นอย่างไม่รู้ตัว

หานหานถามด้วยความโมโห “ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้ เธอไม่ใช่แม่ของพวกเขาเหรอ”

แม้ว่าแม่ของเธอจะไม่ใช่แม่ที่ดี

ตอนที่แม่ของเธอถูกจับ เธอเองก็แอบเสียใจไปนานมาก

แต่คุณยายบอกเธอว่า ไม่ใช่ว่าแม่ทั้งโลกจะเป็นแบบนี้ คุณแม่ส่วนมากบนโลกนี้ต่างรักลูก ยายบอกให้เธออย่าโกรธแค้น และมองไปด้านหน้า

ดังนั้นหานหานไม่เข้าใจ บนโลกนี้นอกจากแม่ที่ไม่ดีแล้ว ยังมีลูกที่ไม่ดีด้วยงั้นเหรอ

ซู่เป่าอยากรู้ว่าเพราะอะไรกัน

ดังนั้นเธอจึงหยิบพู่กันชี้ชะตาขึ้นมา ครั้งนี้ เธอเห็นการทะเลาะกันระหว่างหญิงชราและลูกๆ

ตอนแบ่งบ้าน ลูกคนเล็กได้บ้านเก่าในชนบท ลูกสาวแต่งงานกับคนในหมู่บ้านเดียวกัน

ลูกชายใหญ่ได้บ้านหลังเก่าในตัวเมือง แต่สร้างใหม่เป็นบ้านสามชั้นภายใต้การสนับสนุนของพ่อแม่

ลูกชายคนรองไม่ได้รับบ้าน เขารู้สึกไม่พอใจ แต่เขาได้รับเงินเก็บของคุณพ่อ หลังแต่งงานก็ได้ซื้อที่ดินภายใต้การสนับสนุนของพ่อตา และสร้างบ้านขึ้นมาได้ก่อนที่กฎหมายห้ามสร้างบ้านส่วนตัวจะออก

หลังคุณพ่อตาย มรดกที่เหลือถูกแบ่งเป็นสี่ส่วน และสืบทอดให้กับเด็กๆ ทั้งสี่คน

ปัญหาการเลี้ยงดูคุณแม่เป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่น้องทั้งสี่แตกหักกัน

ลูกชายคนโตบอก แม่เป็นแม่ของทุกคน ดังนั้นเขาจะเลี้ยงดูคนเดียวไม่ได้ คนรองก็ได้เงิน คนเล็กก็ได้บ้าน ไม่ได้มีแค่เขาสักหน่อยที่ได้ผลประโยชน์

คนรองบอกคนโตได้บ้านใหญ่ เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด เงินที่เขาได้มันไม่ถือเป็นผลประโยชน์สักหน่อย

คนเล็กบอกพี่ชายทั้งสองมีบ้านในตัวเมือง มีแต่เขาที่ต้องอยู่ชนบทต่อ ดังนั้นทำไมเขาต้องเป็นคนเลี้ยงแม่

ลูกสาวบอกเธอได้รับมรดกที่เธอควรจะได้เพียงเล็กน้อย การดูแลคุณแม่ควรเป็นหน้าที่ของลูกชาย เธอแต่งออกไปแล้ว อยู่บ้านแม่ผัวจะดูแลแม่อย่างไร

ผลสรุปของการคุยกันคือ ให้คุณแม่อาศัยอยู่บ้านลูกชายทั้งสาม คนละหนึ่งเดือน หลังอยู่ครบหนึ่งเดือน ก็วนไปบ้านลูกชายคนถัดไป

ส่วนลูกสาวก็ให้ค่าอยู่ค่ากินเดือนละสองร้อย

วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ…

แต่เมื่อเดือนที่แล้ว ลูกชายคนเล็กส่งคุณแม่ไปบ้านลูกชายคนโตตามสัญญา แต่พี่ใหญ่กลับไม่ยอมรับแม่เข้าบ้าน โดยให้เหตุผลว่าในบ้านเขาเพิ่งคลอดหลานมาสองคน เขาดูแลไม่ไหว

ซู่เป่าสะบัดพู่กันชี้ชะตา เห็นฉากสุดท้ายที่หญิงชราอ้อนวอนลูกชายคนเล็ก

ฉากที่พวกเธอเห็นเมื่อครู่ เพียงแต่ยังเห็นไม่หมด

หญิงชราร้องไห้ “เหล่าเยา อยู่บ้านไหม เปิดประตูเถอะ…แม่ไม่มีที่ไปแล้ว เปิดประตูหน่อยเถอะ”

รอบนี้ลูกชายคนเล็กเปิดประตูจริงๆ

บนใบหน้าของหญิงชราเผยแววตะลึง และรีบเอ่ยอย่างร้อนรน “เหล่าเยา…แม่หนาวมาก แม่ไม่ได้กินข้าวเลย…”

เพียงแต่ลูกชายคนเล็กเปิดประตูออกมากล่าวอย่างโกรธเคือง “ก็บอกให้ไปหาพี่ใหญ่ไง เดือนนี้ถึงตาเขาแล้ว ไปหาเขาโน่น!”

หญิงชราคุกเข่าดังตุบ “ให้แม่เข้าไปเถอะ…ให้แม่เปลี่ยนเสื้อผ้าก็ยังดี…”

เขากำก้อนหินขึ้นมาแค้นๆ โยนใส่ประตูเหล็ก จนดังเป็นเสียงโครมๆ

เสียงไซเรนจากทิศไกลค่อยๆ เข้าใกล้ รถตำรวจคันหนึ่งขับออกมาจากถนนเส้นเล็กเส้นหนึ่ง เสียงดังกล่าวดึงดูดให้ข้างบ้านต่างโผล่หัวออกมาดู

บางคนที่อยากรู้นั้นถึงกับถือร่มเดินออกมาดู

มู่กุยฝานพูดบางอย่างกับตำรวจเสียงต่ำ สีหน้าตำรวจตะลึง คิดจะขานเรียกมู่กุยฝาน แต่มู่กุยฝานยกมือห้ามไว้

คนสองคนขึ้นมาตรวจเช็คศพคุณยาย และทำการบันทึก

ส่วนอีกสองคนเคาะประตูด้วยสีหน้าดุดัน “ไช่ต้าหย่ง เปิดประตู!”

คุณลุงตำรวจตะโกน “หากไม่เปิดประตูอีก เราจะใช้กลวิธีบังคับ!”

เคาะไปพักใหญ่ ในที่สุดก็มีคนเปิดประตู

ไช่ต้าหย่งเปิดประตูด้วยสีหน้าตะลึง เขาเอ่ยถาม “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ตำรวจยิ้มแสยะ “เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ คุณทำผิดโทษทอดทิ้งพ่อแม่ ส่งผลให้คุณแม่ของคุณเสียชีวิติ ตอนนี้ทางเราขอจับกุมตัวคุณตามกฎหมาย”

ไช่ต้าหย่งลนลานขึ้นในทันที แต่ก็สงบได้อย่างรวดเร็ว เขายืดคอตอบ “โทษทอดทิ้งอะไรกัน ผมไม่ได้ไม่เลี้ยงดูคุณแม่ ผมเลี้ยงดูคุณแม่ร่วมกับพี่น้องคนอื่น เดือนนี้น้องผมเป็นคนเลี้ยงดู พวกคุณไปหาเขาสิ!”

ตำรวจรู้สึกโกรธ

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนเป็นลูกสามารถเย็นชาได้ถึงขนาดนี้ เขาไม่ได้ถามถึงสาเหตุการตายของแม่ตนเองในเวลาแรก

กลับกำลังบ่ายเบี่ยงหน้าที่การเลี้ยงดูและความรับผิดชอบ!

มู่กุยฝานยกมือ กระชากคอเสื้อของเขา โยนเขาทิ้งลงหน้าศพหญิงชรา

“ดูเอาเองละกัน ที่พูดมานี่ภาษาคนงั้นเหรอ”

มู่กุยฝานมองเหยียดไช่ต้าหย่ง นัยน์ตาเต็มไปด้วยไอเหี้ยม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน