ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 741

พ่อแม่ของเซียนเซียนเอ่ยด้วยความโมโห “สินสอดสามแสนนี่เยอะเหรอ? นี่คุณไม่สินทรัพท์ที่ครอบครัวเราให้ไปเลยหรือไง!”

“พวกเราช่วยเซียนเซียนออกเงินซื้อบ้าน ขนาดห้องหนึ่งร้อยสี่สิบตารางเมตรสี่ห้องนอน จ่ายเต็มจำนวน หลังแต่งงานพวกเขาสองคนก็สามารถเข้าไปอยู่แล้วยังไม่ต้องชำระเงินค่าบ้าน แถมเซียนเซียนยังตกลงให้เอาชื่อลูกชายพวกเขามาอยู่โฉนดอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย!”

“นอกจากนั้น ครอบครัวเรายังให้รถราคาสองแสนอีกหนึ่งคันไปด้วย แล้วพวกคุณยังจะมาบอกว่าตัวเองเสียเปรียบอีกเหรอ!”

แม่ของเฉินซู่พอจะเอ่ยปากก็พูดความในใจออกมาว่า “แล้วไงล่ะ! บ้านพวกคุณก็ซื้อก่อนแต่งนี่ ครอบครัวเราเป็นคนบอกให้ใส่ชื่อลูกชายเราลงในโฉนดอสังหาริมทรัพย์ด้วย แล้วไปลบชื่อลูกสาวพวกแกออกไป…แต่พวกแกก็ไม่เห็นด้วยนี่”

“รถสองแสนแล้วไงล่ะ ลูกชายฉันเป็นถึงรัฐวิสาหกิจที่อาชีพการงานมั่นคง แถมการศึกษาก็เป็นถึงด็อกเตอร์! ด็อกเตอร์น่ะพวกคุณรู้จักไหม? คนเก่งแบบเขาน่ะต้องขับรถเป็นล้านถึงจะถือว่ามีหน้ามีตา!”

“รถสองแสนตกเกรดแบบนั้น พวกคุณยังกล้าพูดออกมาได้อีกเนอะ!”

ทุกคน “…”

ว้าวมาก!

แม่ของเซียนเซียนโกรธจนขำออกมาว่า “อะไรกัน นี่ฉันต้องให้บ้านพวกคุณฟรีๆ หลังนึง แล้วยังต้องให้รถอีกคันนึงงั้นเหรอ แถมยังต้องส่งลูกสาวฉันไปรับใช้พวกคุณฟรีๆ อีกเหรอ?!”

แม่ของเฉินซู่ถึงกับลน เดิมทีเธอก็เป็นคนที่ค่อนข้างเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติอยู่แล้ว พอตอนนี้พบว่าตัวเองพูดพล่ามไปเรื่อย ก็เลยรู้สึกว่าตัวเองต้องกำลังถูกผีสิงอยู่แน่ๆ…

เธอเปลี่ยนจากเสียงร้องโวยวายเสียงดังในตอนแรกเป็นการบ่นพึมพำกับตัวเองและเสียงของเธอก็เริ่มจะเบาลงไปเองโดยที่ไม่รู้ตัว…

ผู้ป่วนที่มามุงดูอยู่รอบๆ มีป้าหลายคนที่พูดว่า “ไอ้หยา ฉันร้อนใจจริงๆ แนะนำลูกสาวบ้านพวกคุณให้ลูกชายฉันเถอะ! พวกเราให้สินสอดห้าแสนไปเลย จะให้แปดแสนก็ยังได้! แม่เจ้าเอ้ย บ้านหลังใหญ่ขนาดหนึ่งร้อยสี่สิบตารางเมตร แถมยังให้รถคันนึงอีก นึกไม่ถึงว่าจะมีคนไม่รู้อะไรดีไม่ดีด้วย!”

ในเมืองจิง ห้องชุดขนาดหนึ่งร้อยสี่สิบตารางเมตรนี่ราคาเป็นสิบล้านเลยนะ!

แถมยังไม่ต้องคืนค่าบ้านอีก!

แม่เจ้าโว้ย ทำไมถึงได้หน้าด้านไร้ยางอายแบบนี้?!

แม่ของเฉินซู่ทนไม่ไหวก็เลยโต้กลับเบาๆ ว่า “บ้านขนาดหนึ่งร้อยสี่สิบตารางเมตรแล้วคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นหรือไง ที่บ้านเกิดของพวกเราก็มีที่ดินหนึ่งร้อยสี่สิบตารางเมตรเหมือนกันแหละ…จะสร้างบ้านอีกสามชั้นในภายหลังก็มีขนาดตั้งหลายร้อยตารางเมตรแล้ว…หลังแต่งงานก็เป็นของพวกเขาทั้งนั้น พวกเขาก็เอาเปรียบเหมือนกันนั่นแหละ!”

ทุกคน “พอได้แล้วมั้งคุณ!”

“ที่ดินของคุณอยู่ที่บ้านเกิดนี่ ถึงคุณจะสร้างห้าชั้นก็สู้ห้องน้ำหนึ่งห้องของพวกเขาไม่ได้หรอก?”

“คุณมีหน้าพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไงกัน?”

“ยังดีที่ไม่สำเร็จ สาวน้อยฉันจะบอกให้นะ ต่อไปให้ตาสว่างหน่อย อย่าไปหาผู้ชายขยะแบบนี้มาเป็นแฟนอีก!”

ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าใครพูดขึ้นมา

“ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นเพราะคุยเรื่องสินสอดไม่ลงตัวแล้วโดนทำร้ายร่างกายเข้าโรงพยาบาล แต่เป็นเพราะฝ่ายชายเป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรงต่างหาก พอฝ่ายหญิงทำอาหารเช้าไปให้เข้ากินแล้วฝ่ายชายไม่ถูกปากถึงกับคว่ำโต๊ะเลยทีเดียว!”

พูดพล่ามไปเรื่อยใครๆ ก็ทำเป็น

หลายวันมานี้ที่โรงพยาบาล น้องชายของจ้าวเซียนเซียนไม่สนใจเรื่องจริยธรรมอะไร พอเจอใครก็บอกเขาว่าพี่สาวตัวเองโดนทำร้ายร่างกายเพราะทำอาหารไม่ถูกปากฝ่ายชาย และฝ่ายชายเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรง

“ให้ตายสิ ผู้ชายคนนี้เลวทรามจริงๆ ส่วนแม่เขาก็สุดยอดเลย ใครแต่งเข้าบ้านพวกเขาคงซวยสุดๆ ไปเลย!”

“เร็วเข้าๆๆ รีบอัดคลิปไว้!”

“ผู้หญิงทั้งหลายโปรดดูไว้ให้ดี อย่าแต่งเข้าครอบครัวนี้! เพราะครอบครัวพวกเขาบลาๆๆ…”

คนรอเผือกนินทาบลาๆๆๆ

แม่ของเฉินซู่เกือบจะเป็นลมพับไป

เธอมาที่นี่ก็เพื่อจะโวยวายหาเรื่องให้ครอบครัวจ้าวถอนฟ้องเฉินซู่ซะ!

แต่ตอนนี้ครอบครัวจ้าวกลับบอกว่าเฉินซู่เจตนาจะทำร้ายร่างกายผู้อื่น ทำให้จ้าวเซียนเซียนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีโทษจำคุกสามปีหรือสิบปีขึ้นไป แต่ครอบครัวจ้าวยืนกรานจะฟ้องให้จำคุกสิบปีให้ได้!

มันจะได้ได้ยังไงกันเล่า!

แม่ของเฉินซู่ยังอยากจะพูดอะไรต่ออีกสักหน่อย แต่ก็โดนตำรวจหญิงลากตัวเธอไปแล้ว

พอแม่ของเฉินซู่มาเอะอะโวยวายแบบนี้แล้วไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยให้ลูกชายของตัวเอง ‘ล้างความผิด’ ไปได้แถมยังโวยวายจนทุกคนรู้กันไปทั่วอีก

ยังไม่ทันได้ขึ้นศาลเลย เฉินซู่ได้โกหกกับหน่วยงานของเขาว่าขอลางานไปดูแลแม่ที่ป่วยและแก่ชราของเขา…

ปรากฏพอมีเรื่องนี้เกิดขึ้นปุ๊บ หน่วยงานก็ทราบ

จู่ๆ ซู่เป่าก็นึกถึงแม่สื่อผีที่เคยจับมา บนตัวผีตนนี้ยังมีกลิ่นอายเหมือนกับอารามอยู่ด้วย ท่านอาจารย์คาดเดาว่าน่าจะเป็นผีที่อยู่ในมือของนักพรตซานชิง

ตอนนี้เธอหายดีแล้วและกระตือรือร้นที่อยากจะลองจับนักพรตซานชิง

พอเห็นซู่เป่าพูดถึงชื่อพวกเขา พวกผีหลายใจที่กำลังทุบตีอยู่นั้นก็ถึงกับช็อค

พวกผีขี้ขลาดมายืนขวางอยู่หน้าแม่สื่อผีไม่ให้ซู่เป่าเห็นสภาพที่น่าสังเวชของแม่สื่อผี

ผีปลิ้นปล้อนที่เพิ่งถูกจับมาถึงกับงง มองซ้ายมองขวาไม่แน่ใจว่าสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าคืออะไร

เขารู้สึกว่าตัวเองน่าจะเป็นผีที่งงที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน ถูกจับโดยไม่ทันตั้งตัวและจู่ๆ ก็ถูกกล่าวถึงอย่างน่าประหลาดใจ หลายวันมานี้ที่อยู่ในน้ำเต้าดูดวิญญาณ พวกผีทั้งหลายก็มัวแต่ไปทุบตีแม่สื่อผีและไม่มีใครสนใจเขาสักคน…

“เกิดอะไรขึ้น?” ซู่เป่าถามด้วยความสงสัย

ผีขี้ขลาดยิ้มแล้วพูดว่า “ซู่เป่า วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์หรือยัง? ไปโรงเรียนเหนื่อยไหม”

ซู่เป่าส่ายหัว “ไม่เหนื่อยเลย หนูเป็นแค่เด็กอนุบาลเองนะ”

ผีหลายใจส่ายมือแล้วพูดว่า “พวกเรากำลังช่วยเธอสอบสวนแม่สื่อผีอยู่ ผีตัวนี้มันปากแข็งไม่ยอมพูดความจริงออกมา ให้เวลาพวกเราอีกไม่กี่วันนะ!”

แม่สื่อผีร้องไห้และตะโกนว่า “ฉันอยากพูดความจริง ฉันยอมพูดความจริงแล้ว ถามอะไรมาฉันก็จะพูดหมด! ฉันเคยบอกตอนไหนว่าจะไม่พูดความจริง พวกแกต่างหากที่ไม่เคยถามอะไรฉันเลย!”

ให้ตายสิ ทีแรกก็นึกว่าทุกคนจะเป็นผีร้ายกันหมด

ที่ไหนได้ไม่คิดว่าจะมีแต่ฝูงผีพลทหารทั้งนั้นเลย

อย่าว่าแต่จะให้ขัดขืนเลย จะดิ้นรนสู้ยังไม่ได้เลย

แม่สื่อผีร้องไห้จนแทบจะตาย อย่าเอาผีพวกนี้มารังแกฉันเลย!

ซู่เป่าได้ยินข่าวคราวก็เลยรีบไปหาเก้าอี้เล็กๆ มาแล้วนั่งลง

“พูดซิว่าชื่ออะไร เป็นคนที่ไหน และทำไมถึงตาย!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน