ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 834

เด็กประถมสมัยนี้ไม่เหมือนเด็กประถมสมัยก่อน พวกเขาบางคนมีโทรศัพท์ มีคิวคิว

และดึงเข้ากลุ่มเองได้

ซูเหอเหวินถ่ายรูปอย่างเปิดเผยในตอนที่ซู่เป่าถามว่าจิ่งจั้นเป็นใคร จิ่งจั้นเองก็รู้ว่าเขาถ่ายรูป แต่ก็ไม่ได้กลัวว่าเขาจะตรวจสอบอะไร

ฉะนั้นเมื่อครู่ซูเหอเหวินจึงถามจากในกลุ่มได้มาแล้วว่าจิ่งจั้นเป็นใคร

“จิ่งจั้น อายุสิบสองปี เป็นเด็กกำพร้า เขาอยู่กับน้องสาวเพียงลำพัง” ซูเหอเหวินพูดขึ้นอย่างง่ายดาย

ซู่เป่าพูดขึ้นต่อว่า “จิ่งจั้นบอกว่า เขาเจอพี่อี้หรันตอนอยู่ในหุบเหวผีร้อง พวกเขาถูกผีตาม ตอนที่หนีตายจิ่งจั้นถีบพี่อี้หรันลงไป...”

ซูเหอเวิ่นพยักหน้า “พวกเราถามมาอย่างชัดเจน บอกว่ามีโอกาสรอดชีวิตเพียงโอกาสเดียว เขากับซืออี้หรันมีคนเดียวที่รอด จิ่งจั้นบอกว่าที่ถีบซืออี้หรันลงไปเพราะหนึ่งจะซื้อเวลาให้ตัวเองหนีตาย สองคือโอกาสรอดมีแค่โอกาสเดียว เขากลัวว่าถ้าซืออี้หรันตามขึ้นมาแล้วจะแย่งมันไป”

ซู่เป่าถามปัญหาที่ยากจะข้ามผ่านในใจของตัวเองออกไปทันที “พ่อคะ เขาทำแบบนี้ถูกต้องไหมคะ”

จิ่งจั้นบอกว่า เขาไม่ผิดเพราะทำเพื่อให้มีชีวิตรอด กลับกันที่เธอไปกล่าวโทษเขาว่าทำร้ายพี่อี้หรันถึงเรียกว่าเห็นแก่ตัว

เขาบอกว่ายืนอยู่ในมุมต่างกัน ใครก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปกล่าวโทษที่เขาทำแบบนั้น

ซู่เป่าคิดว่าเขาทำผิด และไม่แน่ใจนิดหน่อยว่าผิดตรงไหน

สีหน้าของมู่กุยฝานเย็นชา พูดวิเคราะห์ขึ้นว่า “ไม่ว่าจะยืนอยู่ในมุมของใคร เพื่อให้ตัวเองเอาชีวิตรอดก็ไม่ผิดทั้งนั้น”

“แต่เพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตรอดก็เลยส่งคนอื่นลงไปเป็นแพะ เพื่อซื้อเวลาให้ตัวเอง นั่นถึงจะผิด”

“แน่จริงก็อาศัยความสามารถของตัวเองในการเอาตัวรอดสิ เอาชีวิตของคนอื่นไปแลกโอกาสให้ตัวเองได้วิ่งอีกสองวินาที นี่ต่างอะไรกับทำร้ายคนอื่นล่ะ”

“แถมยังดื้อรั้นอธิบายว่าถ้าเปลี่ยนเป็นซืออี้หรันก็จะทำแบบนี้...ต้องคิดในมุมของคนอื่น ที่เขาทำแบบนี้คือการสับเปลี่ยนความคิด”

มิหนำซ้ำยังพูดอย่างสง่าผ่าเผยอีก

หรือว่า เดิมเขาไม่ได้คิดว่านี่เรียกว่าสับเปลี่ยนความคิดอยู่แล้ว

เขาพูดได้เปิดเผย เพราะคิดว่าตัวเองเปิดเผยจริงๆ

เป็นไปได้ว่าถึงยังไงเขาก็เป็นแค่เด็กอายุสิบสอง ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ความดีในก้นบึ้งหัวใจรู้แต่ไม่ยอมให้เขายอมรับว่าตัวเองไร้ยางอาย ด้วยเหตุนี้ก็เลยหาข้อแก้ตัวมาทำให้ในใจสงบละมั้ง

คิดโยงไปถึงว่าเขามีน้องสาวแค่คนเดียว มีเหตุผลให้ต้องมีชีวิตอยู่ เพื่อให้มีชีวิตรอดจึงทำทุกวิถีทาง...เกิดนิสัยและจิตใจแบบนี้ขึ้นได้ก็เป็นเรื่องธรรมดา

“แต่ว่า ซู่เป่าหนูจะต้องจำเอาไว้ว่า น่าสงสารไม่ได้แปลว่าถูกต้อง”

คนและผีที่ซู่เป่าพบเจอบนเส้นทางนี้ ที่น่าสงสารยังมีน้อย

ความน่าสงสารบนโลกมนุษย์ บางทีอาจจะเห็นใจหรือให้อภัยได้นิดหน่อย

แต่หากเป็นโลกใต้พิภพ เธอนั่งตำแหน่งพญายม ต้องตัดสินความเป็นความตายมากมายขนาดนั้น จะใช้ความน่าสงสารมาตัดสินว่าถูกหรือผิดไม่ได้

ซู่เป่าเข้าใจแล้ว เธอพยักหน้าพลางพูดขึ้นว่า “หนูรู้แล้วค่ะ ขอบคุณค่ะพ่อ!”

มู่กุยฝานบีบจมูกของเธอ แล้วถามขึ้นว่า “ไม่ต้องขอบคุณ! ตอนนี้หนูคิดจะทำยังไง”

ซู่เป่าตั้งใจครุ่นคิด แล้วพูดขึ้นว่า “รับคุณตากลับมาบ้านก่อน จากนั้นค่อยไปดูที่ยมโลกค่ะ”

เธอพูดเสริมอีกว่า “หนูเริ่มไปจากโลกสีเทา จากนั้นก็ถามก่อนว่าหุบเหวผีร้องอยู่ที่ไหน...”

ถ้าไม่อย่างนั้นละก็ถ้าเสียเวลาอยู่กับเรื่องตามหาหุบเหวผีร้อง อาจจะยังหาหุบเหวผีร้องไม่ทันเจอก็ถูกตูซื่อหวังเจอเข้าเสียก่อน

ฉะนั้นควรถามให้ดิบดีเสียก่อนแล้วค่อยออกเดินทาง

ส่วนจะไปถามจากที่ไหน...แน่นอนว่าต้องเป็นโลกสีเทาแล้ว

แมวเหมียวในโลกสีเทาเธอเป็นคนเลี้ยง

ถึงแม้ตอนนี้เธอยังไม่ได้เป็นพญายมที่แท้จริง แต่ว่า...เล่นกับแมวสักหน่อยคงจะไม่มีปัญหาใช่ไหม

มู่กุยฝานถามขึ้นว่า “หนูคิดจะถามยังไงเหรอ”

ซู่เป่า ‘คิดอย่างรอบคอบ’ พยักหน้าด้วยความมั่นใจเป็นอย่างมาก “อืม พ่อคะ หนูจะไปเล่นกับแมว”

แววตาของมู่กุยฝานเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย

สอนเธอให้เป็นคนดี แต่ไม่ต้องถึงขั้นเป็นแม่พระ

สอนเธอให้เคารพกฎเกณฑ์ แต่ไม่ต้องเคร่งครัด

สอนเธอให้ตัดสินใจเด็ดขาด แต่ไม่ใช่บิดพลิ้ว

“เล่นกับแมวเหรอเยี่ยมมาก!” มู่กุยฝานแสดงออกถึงการยืนยัน

เธอไม่ได้มีวิดีโอใหม่มานานมากแล้ว หลายคนต่างถามไถ่ว่าช่วงนี้นายหญิงซูเป็นยังไงบ้าง

“หลายคนเป็นห่วงคุณยายนะคะ” ซู่เป่าดูตาม แล้วพูดขึ้น

นายหญิงซูตกตะตึง “ซู่เป่ารู้จักตัวอักษรเยอะเลยนะ!”

ซู่เป่าพูดขึ้น “ใช่แล้วค่ะ! พี่เหอเหวินเป็นคนสอนค่ะ”

ซูเหอเหวินได้ยิน เขาเดินเข้ามาในห้อง ใบหน้าน้อยๆ ยังคงสีหน้าดังเดิม แต่ซูเหอเหวินรู้สึกว่าตัวเขาจะลอยแล้ว

“แฟนคลับ...เจ็ดหมื่นแปดพัน ว้าว คุณยายสุดยอดไปเลยค่ะ!”

ก่อนหน้านี้เธอเคยถามลุงสี่ว่าแฟนคลับคืออะไร ลุงสี่บอกว่าแฟนคลับคือพวกคนที่ชื่นชอบในตัวเรา

และหมายถึงบนโลกที่ทุกคนต่างไม่รู้จักกัน มีเจ็ดหมื่นแปดพันคนชอบคุณยาย

ซู่เป่าดีใจเป็นอย่างมาก

นายหญิงซูดีอกดีใจ “เจ็ดหมื่นเก้าพันคนยังนับว่าน้อยมากนะ”

คุณท่านซูเยาะเย้ยอยู่ข้างๆ “คุณยายของหนูอายุเยอะแล้ว ยังอยากเป็นเน็ตไอดอลอีก”

นายหญิงซูคว้าหมอนขึ้นมาเขวี้ยงออกไป

เนื่องจากเป็นห่วงที่เขาเพิ่งผ่าตัดสมองเสร็จ โชคดีที่ไม่ได้กระแทกบนหน้าเขา เพียงแค่กระแทกเข้ากับอกของเขาเท่านั้น

ซู่เป่าหัวเราะฮ่าๆ เสียงหนึ่ง จากนั้นพูดขึ้นว่า “คุณตาคะ มีแฟนคลับเจ็ดหมื่นเก้าพันคนก็สุดยอดมากแล้วนะคะ หนูรู้จักพี่ที่สุดยอดมากๆ คนหนึ่ง ชื่อว่าเหมิงฮั่นจื่อ เธอเพิ่งจะมีแฟนคลับเจ็ดร้อยคนเองค่ะ”

บัญชีผู้ใช้ชื่อว่าเหมิงฮั่นจื่อ

แต่ไม่มีคน

มักจะถูกเพื่อนๆ อาชีพเดียวกันเยาะเย้ย

ยังไม่สู้คุณยาย!

คุณท่านซูกับนายหญิงซู “?”

พี่เหมิงฮั่นจื่อคนนี้คือพี่คนไหนอีก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน