ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 869

ผิงเติ่งหวังกบดานรออยู่ข้างหุบเหวลึกนานมาก

กว่าจะรู้ว่าซู่เป่าออกจากยมโลกแล้ว ก็ผ่านไปกว่าค่อนวันแล้ว

ไม่รู้ว่าซู่เป่าหนีไปตั้งแต่เมื่อไร แต่เขายังเกาะอยู่ข้างหุบเหวลึกเหมือนเดิม...

ชั่วขณะ ตูซื่อหวังรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวโง่งมคนหนึ่ง

ความรู้สึกนี้ทำให้เขาโมโหจนกระอักเลือดอีกครั้ง โมโหจนถล่มภูเขาไปลูกหนึ่งจึงจะกลับไปด้วยความเคียดแค้น

แต่เรื่องที่เขาถูกเด็กห้าขวบปั่นหัวกลายเป็นเรื่องขบขันทั่วยมโลกไปแล้ว...

-----------------------------------------

กล่าวถึงซู่เป่า เธอควบคุมตำหนักพญายมลอยไปถึงอีกฝั่งหนึ่งของหุบเหวลึก

จากนั้นก็ค้นหาตามผนังลงไปข้างล่าง

“อยู่แถว ๆ นี้แหละค่ะ แพล็บเดียว” ซู่เป่าพูด “น่าจะอยู่ที่ผนัง...”

พอพูดจบก็เห็นแขนโดด ๆ ข้างหนึ่งปรากฏขึ้น ฝ่ามือของแขนข้างนั้นกำเป็นลักษณะที่น่ากลัว กำลังชี้หน้าเธออยู่

“...”

ซืออี้หรันจ้องแขนข้างนั้นแล้วพูดขึ้น “ทางออกไม่ได้อยู่ที่ผนัง แต่อยู่ตรงนั้น...”

กลางอากาศราวกับมีน้ำวน ส่งแขนขาที่ขาดขึ้นมาไม่หยุด

เป็นแขนข้างหนึ่งก่อน จากนั้นก็เป็นเศษซากของส่วนประกอบคน ส่วนมากจะตกลงไปที่ก้นหุบเหวลึกเลย แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่ลอยอยู่เหมือนกัน

“ดังนั้นตรงนั้นน่าจะเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับโลก!” ซู่เป่าบังคับตำหนักพญายมพุ่งไปทันที “ทุกคนจับแน่น ๆ นะคะ! จะถึงแล้ว!”

ฟิ้ว...

ตำหนักพญายมพุ่งเข้าน้ำวนนั้น นาทีต่อมาก ตรงหน้าก็สว่างจ้า พวกเราโผล่ออกมาอยู่ตรงถนนสาธารณะ!

จี้ฉางรู้สึกเหมือนตัวเองจะทิ้งเงาเอาไว้ เงาครึ่งหนึ่งยังอยู่ที่ยมโลก แต่คนกลับอยู่ข้างนอกแล้ว

“...”

รู้ว่าจะเร็วมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะเร็วปานนี้

ดวงอาทิตย์หรือศีรษะดวงใหญ่มาก ส่องแสงจนแสบตาไปหมด

เสี่ยวอู่เอาปีกบังอยู่ตรงหน้าดวงตา ร้องแกว๊กเสียงหนึ่ง “เร็วอย่างที่คิดเลย ๆ!”

ซืออี้หรันกับซู่เป่าอดใช้มือบังดวงตาไม่ได้...

ก็ตอนนี้เอง ซู่เป่าท้องร้องจ๊อก ๆ!

ความอ่อนล้าถาโถมมาทันทีทันใด!

ซู่เป่าหิวจนขาอ่อน คุกเข่าลงกับพื้นตำหนักพญายมดังตุบ

“ซู่เป่า!” จี้ฉางรีบเดินมาหาแล้วอุ้มเธอขึ้น

ซืออี้หรันยื่นมือออกไปคว้าอากาศ

เขามองแขนของตัวเอง จมอยู่กับความคิด...

ซู่เป่าพูดด้วยเสียงอ่อนโรย “ฮือ...ท่านอาจารย์ หนูหิวจังเลยค่ะ”

จี้ฉางปลอบใจ “อดทนหน่อยค่ะ พวกเราจะกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ”

ซืออี้หรันส่ายหน้าพลัน “คงกลับไปได้ไม่เร็วอย่างนั้นหรอก”

พอพวกผีขี้ขลาดและผีหลายใจรู้สึกว่ากลับมาถึงโลกแล้วก็พากันมุดออกมา

“เป็นอะไรไปน่ะ” ผีขี้ขลาดยื่นน้ำแร่จิตวิญญาณให้ซู่เป่าขวดหนึ่งทันที “รองท้องก่อนนะ!”

ซู่เป่ารับมาแล้วดื่มลงไปอึก ๆ

น้ำแร่จิตวิญญาณเป็นของดี ทำให้คนรู้สึกสดชื่นมีเรี่ยวแรงทันที

แต่ความรู้สึกหิวโหยตรงท้องกลับยังไม่ลดทอน

“หนูอยากกินอาหารที่คุณยายทำ” ซู่เป่าหิวจนร้องไห้แล้ว “หิวจังเลยค่ะ!”

เธอรู้ซึ้งถึงความหิวโหยที่จะลาโลกนั้นดี มันทรมานมาก

“วางใจเถอะค่ะ ถ้าพี่แพ้ หนูจะกรอกน้ำแร่จิตวิญญาณให้นะ!”

ซืออี้หรัน “....”

เขารับช็อกโกแลตมาแล้วเอาเข้าปากตามสัญชาตญาณ

อื่ม...ที่แท้ช็อกโกแลตก็อร่อยมากจริง ๆ

ที่เมื่อก่อนซืออี้หรันไม่กินช็อกโกแลต เพราะไม่ชอบจริง ๆ รู้สึกว่ามันหวานเลี่ยนเกินไป แต่ตอนนี้กลับรู้สึกอร่อยมาก

“เมื่อกี้พี่บอกว่าเรากลับไปเร็วอย่างนั้นไม่ได้เหรอคะ” เมื่อนั้นซู่เป่าจึงวกกลับมาเรื่องเดิม

ผีขี้ขลาดพูดต่อ “ใช่ แค่ดูก็รู้ว่าที่นี่คือชิงไห่ เป็นจุดที่อยู่สูงกว่าน้ำทะเลมากที่สุดของประเทศ”

ตอนนี้พวกเขากำลังลอยตัวอยู่ถนนภูเขา

ยอดเขาสูงชัน ถนนสายหนึ่งเลี้ยวลดคดเคี้ยวขึ้นไป ด้านหนึ่งคือผนังเขา ด้านหนึ่งคือเหว

ซืออี้หรันพูด “อำเภอหงอยู่ที่มณฑลเสฉวน ห่างจากที่นี่สามพันกว่ากิโล”

ผีขี้ขลาดเบะปาก “นั่นเป็นระยะขับรถ เส้นตรงแค่พันกว่ากิโลเอง”

ถ้าขับรถก็ต้องนานอยู่แล้ว แต่ผีเหาะไปชั่วโมงสองชั่วโมงก็ถึง

ขณะซู่เป่ากำลังจะพูดก็เห็นรถคันหนึ่งขับผ่านมา ขับรถได้นิ่มมาก แต่พอถึงทางโค้ง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ ๆ หัวรถก็แปลก ๆ ไป ดิ่งลงเหวไปเสียอย่างนั้น!

คนบนรถหวีดร้องเสียงหลง ร้องด้วยความกลัว

ซู่เป่าตกใจพูดว่า “พวกเราไปหุบเหวผีร้องแบบนี้นี่เอง...”

พอเห็นรถกำลังดิ่งลงเหว คนที่นั่งอยู่ข้างคนขับก็หลับตาปี๋ตะโกนว่า

“ทหารกล้าทุกท่านเรียงหน้าประจัญบาน...!”

“แม่จ๋า! พญายมจ๋า ช่วยด้วย...!” (เสียงแตก) (ตกใจ) (ตกใจจนพูดไม่เป็นคำ)

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน