ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 897

ซูเหอเวิ่นไม่ได้สนใจเรื่องเล็กเรื่องน้อยของพวกเครือข่ายผู้ปกครอง

ไม่ว่าอย่างไรคุณย่าก็รับมือได้

เขาเพียงแค่กังวลว่าเมื่อไรจะไปจับจอมประจบสอพลอ

ช่วงพักกลางวันพวกเด็ก ๆ ก็กลับมา ซูเหอเวิ่นถาม “น้องสาว พวกเราจะไปจับผีร้ายกันตอนไหน”

ซู่เป่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ตอนทำการบ้านเสร็จ”

ซูเหอเวิ่น “…”

เธอมีการบ้านที่ไหนกัน ปกติก็ทำเสร็จตั้งแต่อยู่โรงเรียนแล้ว

ซู่เป่าพูดต่อ “ไม่ใช่การบ้านของโลกมนุษย์”

ซูเหอเวิ่นสนใจขึ้นมาทันที “การบ้านอะไรเหรอ พี่อยากเรียนด้วย!”

ซู่เป่าตะคอก “พี่ชาย พี่เรียนไม่ได้”

ซูเหอเวิ่นไม่ยอม มีอะไรในโลกนี้ที่เขาเรียนรู้ไม่ได้ด้วยเหรอ

ถึงเขาจะไม่ชอบสายศิลป์ แต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะเรียนไม่ได้เลย วิชาภาษาจีนเขาทำข้อสอบลวก ๆ คะแนนเต็ม 120 เขาทำได้ตั้ง 110 เจ๋งป่ะล่ะ!

“เธอว่ามา! การบ้านอะไร” ซูเหอเวิ่นยังคงคาใจ

ซู่เป่าตอบ “นี่เป็นการฝึกฝนอย่างหนึ่งของยมโลก ก่อนอื่นเราต้องดึงพลังหยินในวังพญายม”

“พลังหยินมีแหล่งกำเนิดมาจากหมอกลึกลับที่อยู่ใต้หุบเหวผีร้อง ในหมอกลึกลับนั้นมีไอหยิน มีกิเลสของผีอาฆาต และอีกหลากหลายสิ่งปะปนกันอยู่ เราข้ามขั้นตอนนี้ไป เพราะว่าวังพญายมกลั่นบริสุทธิ์ให้แล้ว!”

(วังพญายม ‘รีบชมข้าสิ!’)

ซูเหอเวิ่นสับสน เอ๊ะ ที่แท้ยมโลกก็มีเคมีเหมือนกันเหรอเนี่ย และก็มีการกลั่นบริสุทธิ์เหมือนกันด้วย

เขาก็ถามต่อทันที “กลั่นอย่างไรล่ะ...”

ซู่เป่า “อืม ก่อนอื่นก็กลืนหมอกลึกลับและไอหยินทั้งหมดเข้าไปในท้อง จากนั้นก็ปล่อยก๊าซเสียที่ไร้ประโยชน์ออกมาคล้าย ๆ กับผายลม แล้วก็จะได้พลังหยินบริสุทธิ์!”

ซูเหอเวิ่น “...”

ซูเหอเหวิน ซูจื่อซี และมู่กุยฝาน “...”

ใบหน้าเท่ ๆ ซูเหอเหวินแอบจำมันไว้ในใจ ก่อนจะพูดว่า “ต่อสิ”

ซู่เป่า “ห๊ะ” ยังจะต่ออีกเหรอ

พวกเขาฟังเข้าใจไหมเนี่ย ถ้าฟังเข้าใจแล้วจะฝึกได้เหรอ

เอิ่ม...

“พลังหยินคือสิ่งที่จะสามารถช่วยให้โลกใต้พิภพของเรายกระดับขึ้นได้ อันดับแรกดูดพลังหยินไปไว้ในร่างกาย แล้วก็ให้มันไหลเวียนไปตามชีพจรและภายในร่างกายหนึ่งรอบ จากนั้นพลังทั้งหมดก็จะไหลเวียนกลับไปอยู่ในท้อง!”

“เมื่อท้องอิ่ม ก็ถึงเวลายกระดับ!”

ซู่เป่าลูบหน้าท้องอย่างมีความสุข “พูดจบแล้ว!”

ซูเหอเวิ่นเงียบ

ซูเหอเหวินเงียบ

มู่กุยฝานเงียบ

ซูจื่อซี :...

ก็ฟังเข้าใจทุกคำนะ แต่พอฟังรวม ๆ แล้วไม่เข้าใจอะไรเลย

ซูเหอเวิ่นเข้าใจแล้ว ต้องเป็นเพราะว่าเขายังจับผีได้ไม่มากพอแน่ ๆ!

ก่อนหน้านี้น้องสาวก็ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น พอจับผีได้เยอะขึ้น ถึงจะค่อย ๆ เก่งขึ้น!

ในฐานะที่เป็นคนคนเดียวในตระกูลซูที่สามารถมองเห็นผีได้ด้วยตาเปล่า เขาจะต้องเกิดให้ได้! (คนอื่นที่เห็นบ้างเป็นบางทีไม่นับ! คนเราอยู่ใกล้ชิดกับผีจะไม่เห็นผีได้ยังไง...ส่วนอาเขยใส่สร้อยข้อมือเชือกดำจึงสามารถเห็นได้นั่นก็ไม่นับ)

“น้องสาว เดี๋ยวพอเธอทำการบ้านของยมโลกเสร็จแล้ว พาพี่ไปจับผีกันเถอะนะ!” ซูเหอเวิ่นมองซู่เป่าตาปริบ ๆ พร้อมกับเขย่ามือน้องสาว

ซูเหอเหวินเยาะเย้ยอย่างเย็นชา “เป็นพี่ชายแต่ทำท่าทางอ้อนน้องสาว น่าไม่อาย”

เธอพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่ ๆ ไม่ต้องช่วยหนูสะพายกระเป๋า! หนูสะพายเองได้!”

กระเป๋านักเรียนเต็มไปด้วยหนังสือที่ใช้เรียน แต่หนังสือเหล่านี้ไม่ได้ลำบากอะไรสำหรับเธอเลย!

ถ้าเอาเข้าจริงล่ะก็ สองมือซ้ายขวาของเธอยังแบกกระเป๋าได้ข้างละใบ สะพายหลังอีกหนึ่งใบ แบกของพวกเขาทั้งหมดไปโรงเรียนยังได้เลย

ซูเหอเวิ่นรู้สึกเศร้า เมื่อนึกถึงจิ่งจั้นที่ไม่เพียงแต่ถือกระเป๋านักเรียนให้จิ่งซิ่ว แต่ยังอุ้มจิ่งซิ่วไว้ในอ้อมแขนด้วย

รู้สึกว่าตัวเองนั้นแพ้อยู่เสมอ

พวกเด็ก ๆ ไม่มีอะไรให้กังวล เข้าเรียนอย่างมีความสุข

ณ ประตูทางเข้าโรงเรียน แม่ของเหลียงเจิ้นอ้าวรออยู่ด้านนอกประตูอย่างร้อนอกร้อนใจ

นอกจากเธอแล้ว ยังมีผู้ปกครองที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอีกสองสามคน...

เหลียงเจิ้นอ้าวพูดด้วยความโกรธ “เป็นความผิดของผมอีกแล้วเหรอ เอะอะก็จะให้ผมขอโทษ ทำไมแม่ไม่หัดเหมือนผู้ปกครองของซูจื่อซู่บ้างล่ะ”

“หน้าผมเลือดไหลเต็มไปหมด แม่ไม่สนใจผมด้วยซ้ำ แม่ไม่ใช่แม่ของผม!”

เด็กน้อยคว้ากระเป๋าด้วยความโกรธแล้ววิ่งเข้าไปในโรงเรียน

เรื่องก็คือ เมื่อสักครู่ตอนที่แม่เหลียงเจิ้นอ้าวมาส่งเหลียงเจิ้นอ้าวที่โรงเรียน เหลียงเจิ้นอ้าวก็ทะเลาะวิวาทกับเพื่อนร่วมชั้น ทั้งสองชกต่อยกัน เหลียงเจิ้นอ้าวไปเรียกคนอื่นว่าหมูดำอ้วนบ้าง หมูดินบ้าง

หยาบคายมาก ทั้งเด็กและผู้ปกครองฝ่ายตรงข้ามก็เลยไม่พอใจ

เด็กที่ถูกเรียกว่าหมูดำอ้วนโกรธมากจนจับเหลียงเจิ้นอ้าวทุ่มลงกับพื้น นั่งทับแล้วก็ทุบตีจนร้องโอดโอย มุมปากมีเลือดออก ส่วนใบหน้าก็ถลอกเป็นหย่อม ๆ

ครูชิวก็ไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครคอยมาออกหน้าพูดว่า ‘ก็อีแค่ตั้งฉายาเฉย ๆ ทำร้ายคนอื่นมันไม่ถูก’

ผู้ปกครองของเหลียงเจิ้นอ้าวยังคงโมโหไม่หาย เธอก็ขอโทษไปแล้ว แถมยังบังคับให้เหลียงเจิ้นอ้าวขอโทษเพื่อนร่วมชั้นของเขาอีก แต่ผู้ปกครองอีกฝ่ายกลับยังโกรธอยู่อีก

มันไม่สมเหตุสมผลเลยจริง ๆ...คำพูดของเด็ก ๆ นั้นไร้เดียงสา เด็กคิดเล็กคิดน้อยน่ะไม่เท่าไหร่ แต่นี่เป็นผู้ใหญ่แล้วยังจะมาคิดเล็กคิดน้อยอีก

พวกซูเหอเวิ่นหยุดอยู่ไม่ไกลมากนัก จ้องมองผีประจบสอพลอที่อยู่บนหัวแม่ของเหลียงเจิ้นอ้าว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน