ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 131

หรือว่าเซียวเฉวียนจะเป็นอย่างข่าวชาวบ้านที่เขาลือกัน เขาคือเทพดาวเหวินชางจุติอย่างนั้นหรือ?

เป็นไปไม่ได้!

จิตใจของหยางเล่อสั่นพร่า คนอื่นๆ รู้สึกประหม่าเล็กน้อยเกี่ยวกับการทดสอบระดับสำนักพระราชวังวันนี้ ความยากของคำถามถือว่าอยู่ในระดับสูง แม้แต่รัฐมนตรีทหารผ่านศึกก็ยังไม่ง่ายที่จะเขียนนโยบายชิ้นนี้

แต่ท่าทางของเซียวเฉวียนดูท่าทางสงบนิ่งหรือว่าจะเป็นการเสแสร้ง?

ดวงตาชำเลืองไปที่หยางจ๊าวผู้เป็นลูกพี่น้อง ดูหยางจ๊าวทำข้อสอบอย่างตั้งใจและท่าทางสงบนิ่ง

หยางเล่อเป่าปากโล่งอกเมื่อได้เห็นหยางจ๊าวเป็นเลิศทางด้านเขียนตัวอักษรและการอ่านหนังสือที่ยอดเยี่ยม สอบวิชาคำนวณครั้งนี้ไม่ใช่ปัญหาที่หยางจ๊าวจะเอาชนะเซียวเฉวียนไม่ได้

เซียวเฉวียนมีการทดสอบระดับมณฑล แต่ครั้งนี้ทั้งบาดเจ็บทั้งต้องตอบคำตอบอย่างมึนงง ทำไมครั้งนี้ดูเหมือนว่ามือของเขาจะหายดีแล้ว?

ทำไมถึงจับพู่กันได้มั่นคงเพียงนั้น?

เห็นได้ชัดว่าเซียวเฉวียนเห็นหยางเล่ออยู่ในการประลองสอบ แต่เขากลับประหม่ามากจนไม่รู้ว่าทำไม

การทดสอบระดับมณฑล แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยคิดที่จะสนใจเซียวเฉวียนมีครั้งนี้ที่ตนสนใจเขามากเกินไป เขามักจะมีการประลองการสอบอยู่เสมอ

ไม่มีวิธีที่จะทำให้เขาทำพลาดในการทดสอบระดับมณฑลแล้ว เว่ยเจียนกั๋วโกรธมากที่ไม่ปล่อยให้หนึ่งในนั้นติดอันดับ แต่คราวนี้เขาต้องไม่ประมาท

พอตำหนักเหวินชางได้เริ่มการประลองสอบสถานการณ์ก็เงียบงันได้ยินแค่เพียงเสียงเปิดข้อสอบและปลายพู่กันเท่านั้น

สถานการณ์ค่อยๆ ตึงเครียดขึ้นและมีเสียงกระแอมเล็กน้อย

หลังจากนั้นก็มีเสียงถอนหายใจ ถึงแม้เสียงถอนหายจะเบาบางสักเพียงใด แต่ข้างในตำหนักกลับได้ยินอย่างชัดเจน

เดิมที่ก็ประหม่าอยู่แล้ว พอผู้ประลองข้อสอบเขียนได้ไปครึ่งทางก็เพิ่มความประหม่ายิ่งขึ้นไปอีก

เมื่อพวกเขารู้สึกประหม่าพวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่ตนที่รู้สึกประหม่า

มีเพียงแต่เซียวเฉวียนและหยางจ๊าวเท่านั้นที่จิตใจสงบนิ่งและเต็มไปด้วยความมั่นใจ

วันขึ้นตอนรุ่งสายเซียวเฉวียนเขียนได้ไปครึ่งทางก็รู้สึกเหนื่อยล้าจึงคิดหยุดพู่กันแล้วพักชั่วครู่

ถึงอย่างไรก็ต้องสอบหนึ่งวันเต็มต้องตอบคำตอบให้เสร็จก่อนมิเช่นนั้นไม่สามารถออกไปได้

หยางจ๋าวที่อยู่ข้างหลังเขาเห็นเขาหยุดปลายปากกาลงในใจก็ดีใจที่เซียวเฉวียนติดชะงักแล้ว!

เขาไม่กล้าที่จะหย่อนออกไปแม้แต่น้อย เขาใช้ประโยชน์พู่กันที่หม่นหมองของเซียวเฉวียน ราวกับว่าตำแหน่งจอหงวนกำลังโบกมือให้เขา!

การเฝ้าระวังหยางเล่อไม่สามารถซ่อนความสุขของเขาได้ ตระกูลหยางของพวกเขาปฏิบัติตามนี้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เมื่อเห็นเซียวเฉวียนติดชะงักเช่นนี้แล้วเขาก็เขียนอะไรรอีกมิได้แล้ว!

เซียวเฉวียนหลับตาพักสมอง เพลิดเพลินกับช่วงยามนี้

นี่ต้องเป็นประวัติศาสตร์ถึงจะสามารถซึมซัมบรระยากาศนี้ได้

อำพันขี้ปลากำลังเผาอบอวลในตำหนักและกลิ่นหอมของหมึกก็โชยออกมาและได้ยินเสียงนกร้องเบา ๆ นี่คือบรรยากาศของการอ่าน

คนกลุ่มหนึ่งปะทะกันทางความคิดของพวกเขาในบนกระดาษ

ณ ช่วงยามนี้ พู่กันไม่ใช่พู่กันอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นดาบที่ฝึกฝนมานานหลายปี

ทุกคำทุกประโยคกลายเป็นคำตอบที่เฉียบคม รัศมีแห่งการสังหารนั้นเปรียบเสมือนพายุเฮอริเคนในตำหนัก ไม่ว่าจะฆ่าผู้อื่นหรือปล่อยให้คนฆ่าพวกเขา

หากดาบสังหารได้ดี มันก็คุ้มค่าสำหรับพวกเขาที่จะศึกษาอย่างหนักเป็นเวลาหลายปี

แต่น่าเสียดายในสนามรบมักจะต้องมีคนตายเสียก่อน

ผู้เข้าสอบประหม่าเกินไปเพราะว่า มีหัวข้อยาก กระวนกระวาย หายใจถี่ กลอกตา กลอกมือ คลี่พู่กัน และเป็นลมไปในที่สุด

ในทุกปีจะมีผู้ประลองเข้าสอบหนึ่งหรือสองคนที่เกิดอาการวิงเวียนเป็นลม จะมีขันทีเพื่ออุ้มบุคคลนั้นออกไป แต่ผู้ประลองสอบคนอื่นจะยังคงตอบคำถามต่อ

เซียวเฉวียนไม่ได้ลืมตาแต่อย่างใดยังคงหลับตาพักสมอง

เฉาสือจิงผู้เป็นคุมสอบเห็นแบบนี้แล้ว เห็นผู้ประลองสอบต่างๆทั้งพะวงและวิตกกังวล ตกลงเซียวเฉวียนไม่รู้ความหรือว่ามั่นใจเกินเหตุกันแน่?

เหวินฮั่นพูดเป็นนัยว่าเขาควรสงบสติอารมณ์ยังมีเวลาอีกครึ่งวันก่อนสิ้นสุดการสอบเวลา

เฉาสือจิงส่ายหน้าถึงแม้จะมีเวลาเหลือเยอะเพียงใด แต่ทว่าเขาไม่เคยเห็นผู้ประลองสอบคนไหนพักในระหว่างการทดสอบของพระราชวังมาก่อน!

เซียวเฉียวคือคนแรก!

เวลาไหลผ่านผ่านไปอย่างช้าๆราวกับสายน้ำที่พัดผ่าน หน้าผากของหยางจ๋าวเต็มไปด้วยเหงื่อ

เพราะเขาเองก็ติดชะงักเช่นเดียวกัน

ไม่ได้พูดปดแม้แต่น้อย

เซียวเฉวียนติดชะงักไปตั้งนานทำถึงลื่นไหลได้เพียงขนาดนี้

เป็นเรื่องปกติที่หยางจ๋าวจะปลอบใจตัวเองด้วยวิธีนี้ ถอนหายใจเต็มไปด้วยความกังวล ตอนนี้ผู้ประลองสอบคนอื่นๆคงจะเขียนนำไปกว่าหยางจ๋าวแล้ว

ตอนนี้จิตใจของหยางจ๋าวเต็มไปด้วยความกังวลราวเหมือนกับแสงแดดกำลังแผดเผา

ขณะนั้นตาของเซียวเฉวียนได้เบิกโพลงกว้าง

ดวงตาส่องแสงเป็นประกาย

พยายามไม่ติดชะงัก เก้กังและไม่ประหม่าน้อยที่สุด

หยางเล่อพ่นหายใจมาด้วยความโล่งอก!

มีเพียงฉบับของหยางจ๋าวเท่านั้นที่เขียนได้ออกมาพอใช้ได้ ตำแหน่งจอหงวนจะต้องเป็นหยางจ๊าวแน่นอน!

เสียงระฆังของพระราชวังดังขึ้นถือว่าเป็นสัญลักษณ์ว่าการทดสอบพระราชวังได้เสร็จสิ้นลง

ผู้ประลองสอบเต็มใจวางพู่กันลง แม้ว่าจะมีอุปสรรค แต่ในที่สุดก็ตอบได้สำเร็จ

แต่ทว่าผู้ประลองข้อสอบลังเลที่จะส่ง

หลังจากที่การทดสอบระดับพระราชวังเสร็จสิ้นลง ก็สามารถออกจากพระราชวังกลับบ้านได้ แล้วอีกสามวันให้ หลังรายชื่อจะถูกประกาศ

ขณะที่พระอาทิตย์ตกดิน เซียวเฉวียนมองดูท้องฟ้ายามพลบค่ำ

พระอาทิตย์อัสดงสีเลือดมาถึงแล้ว

“ท่านพี่เขย ท่านพี่เขย!” ฉินหนานถือกล่องพู่กันขึ้นมา: “ท่านจะกลับจวนฉินใช่หรือไม่?ถ้าอย่างนั้นพวกเรากลับด้วยกันเถอะ”

“ไม่”

วันนี้อารมณ์ของฉินหนานและฉินเป่ยค่อนข้างสุนทรี พวกเขารู้สึกว่าแม้ว่าพวกเขาจะไม่ดีเท่าเซียวเฉวียน แต่พวกเขาก็แสดงออกอย่างเต็มที่แล้ว

เซียวเฉวียนปฏิเสธพวกเขาไป แม้กระทั่งเว่ยชิงก็ไม่ให้ตามมา

จูเหิ่งก็ใกล้จะเข้ามาแล้ว

การขี่ม้าเหงื่อโลหิตของเซียวเฉวียนทำให้คนอื่นอิจฉาตาร้อน ขี่ม้าเหงื่อโลหิตออกจากพระราชวังโดยมีสายตาของฉินหนานมองอย่างด้วยความน้อยใจ พี่เขยที่เพิกเฉยต่อเขา

เย่อหยิ่ง! ขี่ม้าเหงื่อโลหิตมาประลองสอบนี่นะ! นี่เรียกว่าพรสวรรค์เช่นนั้นหรือ?หยางจ๋าวเขานี่มันรนหาที่ตายซะจริง!

หลังตะวันลับขอบฟ้า แสงระยิบระยับทำให้หยางจ๊าวเหล่ตาของเขา คนๆหนึ่ง จะต่อสู้กับคนรวยและมีอำนาจได้เยี่ยงไร?

พรุ่งนี้เซียวเฉวียนจะไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์อีกต่อไป!

ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆ

ถ้าหากหยางจ๋าวส่งเสียงหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะนั้นจะต้องดุร้าย บิดเบี้ยว หยิ่งยโส และมืดมนอย่างยิ่ง

สีหน้าของเขามองทางเซียวเฉวียนอย่างมีอำนาจ

ผู้คนนับพัน

เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย