อี้กุยเป็นพ่อค้าที่ค่อนข้างพิเศษ ผู้สูงศักดิ์มีอำนาจทั่วไปไม่อาจคบหาเขา อี้กุยเองก็ไม่เคยไปมาหาสู่กับจวนฉิน แต่ฉินซูโหรวไม่กลัวเขาสักนิด
อี้กุยมีสายสัมพันธ์อันดีกับฝ่าบาทรัชกาลนี้ แล้วจวนฉินกับฝ่าบาทสายสัมพันธ์ไม่ดีกันหรือไร?
ยิ่งไปกว่านั้นอี้กุยยุแยงสุนัขรับใช้เช่นเซียวเฉวียน สร้างปัญหาขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งกระทบกับฉินซูโหรวเช่นนี้ มิเช่นนั้นตอนนี้เซียวเฉวียนยังจะกล้าวาดหวังตำแหน่งราชบุตรเขยถึงขั้นที่ไม่กลับบ้านด้วยซ้ำเช่นนี้หรือ?
ฉินซูโหรวจะปล่อยอี้กุยไปง่ายๆ ได้เช่นไร!
ฉินซูโหรวเชื่อว่า ตระกูลฉินเป็นตระกูลเลื่องชื่อสูงศักดิ์ ขอเพียงนางบีบให้อี้กุยสะบั้นสัมพันธ์กับเซียวเฉวียน อี้กุยไม่กล้าไม่ทำตามแน่
ที่ศาลาคุนหวู่นั้น ฉินซูโหรวที่ดุดันเหี้ยมหาญ ความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมกลับถูกปิดประตูใส่
ผู้จัดการได้แต่ยิ้มอย่างลำบากใจ “คุณหนูฉิน คุณชายของพวกเราไม่สะดวกพบขอรับ”
ไม่พบ?
ฉินซูโปรวขมวดคิ้วด้วยความโมโหแน่น วันๆ อี้กุยเอาแต่สุมหัวอยู่กับเซียวเฉวียนแล้วเหตุใดไม่ยอมพบหน้านาง?
หรือว่าศักดิ์ศรีของฉินซูโหรวยังไม่อาจสู้เซียวเฉวียนที่เป็นเขยแต่งเข้าผู้หนึ่งได้หรือ?
ทว่าผู้จัดการทำสีหน้าลำบากใจจากใจจริง นี่ไม่เหมือนว่าเขาจะโกหกเลย
ทุกคนต่างรู้กันทั่วว่า แต่ไหนแต่ไรมาอี้กุยนั้นเป็นคุณชายมากคุณธรรมที่ไปไหนมาไหนเพียงลำพัง มีผู้สูงศักดิ์มาพบมากมาย อี้กุยกลับไม่สนใจจะคบ
“คุณหนูฉิน เชิญท่านกลับไปเถอะ” ผู้จัดการร้านโน้มน้าวอย่างจริงใจ ศาลาคุนหวู่ไม่ปลอดภัย
จวนฉินกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ นับตั้งแต่ที่อี้กุยกับเซียวเฉวียน ลูกเขยของจวนฉินอยู่ด้วยกันบ่อยครั้งแล้ว อี้กุยเองก็ถูกคนของเว่ยเจี้ยนกั๋วจับจ้องมาตลอด
ทุกวันผู้ที่มาซื้อกระบี่ในศาลาคุนหวู่นั้น มีสายลับปะปนเข้ามาไม่น้อย
“เฮอะ ข้าเป็นภรรยาของเซียวเฉวียน เป็นอย่างไร คิดจะพบหน้าคุณชายอี้ยังไม่ได้หรือไร?”
สถานะของคุณหนูใหญ่ฉินนั้นยังไม่อาจใช้การได้ นางกัดฟัน จนต้องยอมหยิบเอาตำแหน่งภรรยาของเซียวเฉวียนออกมาอย่างจนใจ
เพ้ย!
คำว่าฮูหยินเซียวสามคำนี้ พูดออกมาตัวเองยังรังเกียจเลย!
ฉินซูโหรวใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปาก ทำท่าสูงส่งวางมาด
ด้วยความจนใจ ผู้จัดการร้านก็ได้แต่เข้าไปเชิญอี้กุยอีกครั้ง
ครู่หนึ่งถัดไป ผู้จัดการร้านก็เข้ามาต้อนรับ “คุณชายอี้เชิญฮูหยินเซียวเข้าไปในห้องชาขอรับ”
ฉินซูโหรวแค่นเสียงเย็นชา เซียวเฉวียนหน้าใหญ่นักนะ!
ที่อี้กุยเป็นเช่นนี้ ก็เป็นเพียงแค่การเตือนฉินซูโหรวสักหน่อย หากว่าเจ้าเป็นฮูหยินเซียว ศาลาคุนหวู่ก็พร้อมต้อนรับเจ้า
หากว่าเจ้าไม่ยอมรับว่าใช่ เช่นนั้นก็เชิญกลับไป ไม่ส่งละ
ฉินซูโหรวย่อมเข้าใจ ทว่านางเดือดดาลนัก! เจ้าเซียวเฉวียนผู้นี้ ประจบจวนฉินไม่ได้ก็จริงแต่จะกอดขาผู้อื่นนี้กลับทำได้ถนัดถนี่ยิ่งนัก!
ในห้องชาของศาลาคุนหวู่ อี้กุยนั้นรอท่าอยู่ก่อนแล้ว
ฉินซูโหรวไม่ทราบว่า จริงๆ แล้วเซียวเฉวียนก็อยู่
นับตั้งแต่ที่เซียวเฉวียนตัดสินใจจะเอาเว่ยชิงให้ตาย วันๆ นั้นเขาเอาแต่ขลุกอยู่กับอี้กุย
รัฐไป๋ลู่ของเว่ยชิง นั่นก็คือสถานที่ที่ผู้คนในยุทธภพเริงอำนาจที่สุด
ทว่าในหมู่ประชาชน ไม่มีใครเข้าใจเรื่องยุทธภพมมากไปกว่าศาลาคุนหวู่แล้ว ทางยุทธภพเองนั้นก็หวั่นเกรงศาลาคุนหวู่ที่ขายอาวุธไปทั่วแดนต้าเว่ย ดังนั้นแล้ว เซียวเฉวียนมาถามอี้กุยก็เหมาะสมที่สุดแล้ว
เพื่อที่จะลากตัวคนในยุทธภพที่สังหารสามีภรรยาท้องรายนั้น อี้กุยส่งคนไปสืบข่าวทุกที่ ข้อมูลและข่าวสาวที่รวบรวมมาในแต่ละวัน เซียวเฉวียนก็จะมาจัดเรียงเสียก่อน
น่าเสียดาย ในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่มีข่าวของชาวยุทธ์รายนั้น
เดิมทีเซียวเฉวียนต้องการถามเว่ยชิงตรงๆ แต่ว่าเจ้าหมอนี่มันเคี่ยวนัก ถนัดในเรื่องอำพรางและซ่อนเร้น ไม่มีทางเอ่ยปากแน่ เซียวเฉวียนได้แต่พึ่งตัวเองแล้ว
ในห้องชานั้นมีฉากกันลมกั้นอยู่ชั้นหนึ่ง เซียวเฉวียนเองกำลังจัดเรียงข้อมูลอยู่หลังฉากกันลม ฉินซูโหรวจึงไม่เห็น
“ฮูหยินเซียว เชิญนั่ง” อี้กุยเทน้ำชาให้ฉินซูโหรวแก้วหนึ่ง
“ไม่จำเป็น” ฉินซูโหรวตอบกลับเย็นชาประโยคหนึ่ง นางไม่ดื่มชา นางไม่คิดจะนั่งเช่นกัน พอเอ่ยคำพูดและวัตถุประสงค์เสร็จแล้วนางก็จะไป
“ฮูหยินเซียว วันนี้ที่ท่านมามีเรื่องอะไรหรือ” อี้กุยถามกลับอย่างสงบ จงใจถามทั้งๆ ที่ทราบ
“ท่านเรียกข้าว่าคุณหนูฉินเหมือนเดิมเถอะ!”
ฉินซูโหรวเคยพบอี้กุย นางพลันโต้กลับทันควัน คล้ายกับคำว่าฮูหยินเซียวทำเอานางเสียหน้ากรนั้น
หลังฉากกันลมนั้น เซียวเฉวียนหัวเราะเย็นเสียงหนึ่ง เจ้ามันยังไม่คู่ควร!
เซียวเฉวียนส่ายหน้า จวนฉินทำอะไรท่าดีทีเหลวหมด ยกเว้นเรื่องโยนความผิดนี่แหละเป็นที่หนึ่ง!
“ท่านไม่รู้หรือว่าเพราะเหตุใดพี่เซียวไม่กลับจวนฉิน?”
อี้กุยกลับรู้สึกตกใจเล็กน้อย ดูไปแล้วโทษที่ท่านปู่น้อยได้รับในคืนวันปีใหม่นั้น คนตระกูลฉินล้วนไม่ทราบเลยสักนิด
ความโมโหวาบผ่านนัยน์ตาของอี้กุย ดังนั้นแล้ว เขาจึงถามต่อเนื่อง “เพราะเหตุใดเขาถึงไม่กลับจวนฉิน ภายในใจท่านไม่คิดเลยหรือ?”
“คนตระกูลฉินล้วนไม่ทราบเลยหรือ”
“ต่อให้ท่านไม่รู้ ทว่าฉินเฟิงไม่รู้หรือ? ฉินหนานไม่รู้หรือ?”
“แล้วยังมีเหตุใดพวกเขาไม่พูดให้ท่านฟังว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนวันปีใหม่หรือ?”
อี้กุยแต่ไรมาพูดน้อยนัก มีครั้งนี้ที่เขารัวคำพูดออกมาเป็นชุด
ฉินซูโหรวได้ฟังแล้วก็ตกตะลึงผงะไป แล้วนางควรจะรู้อะไรหรือ?
“พูดเพ้อเจ้อให้น้อยหน่อย! เซียวเฉวียนไม่กลับมาแล้วเกี่ยวอะไรกับตระกูลฉินกัน?” ฉินซูโหรวท่าทางไม่พูดเหตุผล หน้าตางดงามเช่นนั้นของนางเองดันพาให้ผู้อื่นรู้สึกชิงชังขึ้นมา “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่ใหญ่ข้าและน้องสามกันด้วยล่ะ?”
“ทุกอย่างนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นความผิดของท่าน!”
พอแล้ว
อี้กุยสูดลมหายใจเข้าลึกคำหนึ่ง เขาเป็นคนนอกผู้หนึ่ง ได้ยินคนตระกูลฉินปฏิบัติกับท่านปู่น้อยเช่นนี้ก็ทนฟังต่อไปไม่ไหว!
แล้วสิ่งที่ท่านปู่น้อยประสบมาในจวนฉินด้วยตัวเอง เขาจะรู้สึกแย่เพียงใดกันนะ?
คนตระกูลฉินแต่ละคนนั้นยิ่งแล้งน้ำใจ แต่ละคนล้วนไม่มีคุณธรรม!
ส่วนฉินซูโหรวในฐานะภรรยาของท่านปู่น้อย กลับเย็นชาน้ำใจชืดชาจนพาให้คนชี้หน้าว่า!
“ก่อนหน้านี้ ข้ายังไม่เห็นด้วยเลยที่ท่านปู่น้อยจะเข้าประลองเลือกคู่ขององค์หญิง” อี้กุยแย้มยิ้มเย็นชา “ตอนนี้ดูสภาพท่านสิ ข้าสนับสนุนให้พี่เซียวเปลี่ยนภรรยาเต็มกำลัง”
อี้กุยสถานภาพสูงศักดิ์ อย่าว่าแต่ฉินซูโหรวเลย ต่อให้เป็นบิดาของนางฉินเซิงเองก็เถอะ อี้กุยก็จะไม่ก้มหัวโดยง่าย
คำพูดแดกดันของเขาคำนี้ ทำเอาคุณหนูอย่างฉินซูโหรวโมโหขึ้นมา “คุณชายอี้! คำพูดนี้ของท่าน! ท่านไม่กล้วต้องชดใช้หรือไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...